วันนี้..มีโอกาสได้อ่านบทความแนวคิดของ คุณวิเชียร ไชยบัง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา เกี่ยวกับการมีสติ ใคร่ครวญ..เมื่อชีวิตเราต้องเลือก..
ชีวิตในที่นี้..ผมโยงเข้าสู่งานบริหารจัดการ..ที่ผมเป็นทั้งครูและผู้บริหาร อ่านบทความแล้ว นึกย้อนแล้วมองตัวเอง ณ ปัจจุบัน วันนี้..
คุณวิเชียร บอกว่า “การสาบสูญไปของสิ่งที่ไม่ได้เลือก” การเลือกในที่นี่คือ เลือกกระทำ แต่ละวันแต่ละนาที เรามีสิ่งที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกหรือไม่เลือก..
“ขณะที่จะตัดสินใจเลือก สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เราจะยืนอยู่บนทางแยกอันก้ำกึ่งของก้อนข้อมูล ความคิด ความรู้สึก ความเชื่อ ความเข้าใจของตน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าตัวเองก็ไม่อาจรู้ว่านั่นเป็นก้อนแห่งความเขลาหรือก้อนแห่งปัญญา หรือถึงแม้คิดว่าตนเองรู้แต่ก็อาจเป็น..ความหลงผิด”
“การเลือกเป็นผลมาจาก Mindset มาจากความเข้าใจต่อสิ่งนั้นๆของเรา ว่าจากรสนิยม มาจากความเชื่อ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ที่มีภายในตัวแต่ละคนต่างกัน. ในตัวเลือกแบบเดียวกันแต่ละคนจึงเลือกได้ต่างกัน และผลของการเลือกจึงต่างกันไปด้วย”
ความโชคดีของมันคือ
1.เราเรียนรู้จากการตัดสินใจครั้งที่ผ่านมาได้ ถ้าเราเลือกที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ความผิดพลาด เราก็มีโอกาสเลือกทางถูกได้มากขึ้นในครั้งถัดไป
2. เรามีโอกาสกับนาทีใหม่ให้ตัดสินใจเลือกได้อีก นั่นกำลังจะย้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่ไม่ถูกเลือกครั้งนี้จะสาบสูญไปจากเราชั่วนิรันดร์ จึงต้องทำอย่างระวังขึ้น ปราณีต จนที่สุดให้ถึงพร้อมต่อการสันโดดในผล หมายถึงการค้อมเคารพต่อผลที่จะเกิดตามมา
“การเลือกตัวเลือกที่ถูกซ้ำๆ จะทำให้ปลายทางของชีวิตของเราห่างกับใครบางคนที่เลือกตัวเลือกที่ผิดซ้ำๆ”
นับว่า..เป็นแนวคิดที่ลึกซึ้งมาก แต่ผมก็เข้าข้างตัวเองอยู่พอสมควร จึงมีความเชื่อว่า..อ่านแล้ว..ผมเข้าใจและเข้าถึงได้ ตลอดจนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผม
นี่คือ..แนวคิดที่เตือนให้ใช้ “สติ ใคร่ครวญ เมื่อชีวิตเราต้องเลือก.".ตัดสินใจที่จะเลือกทำสิ่งใด สิ่งหนึ่งในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง..
ก่อนที่จะคิดเชื่อมโยง..แนวคิดกับชีวิตประจำวันของผม..ที่เลือกแล้ว มีคำสำคัญอยู่คำหนึ่งที่เรียกว่า “ Mindset” และมีอยู่ ๒ “ Mindset” ที่สนใจ คือ
Fixed Mindset ..คนที่มีกรอบความความคิดแบบติด ดี เก่ง ฉลาด
เชื่อว่าความฉลาด ทักษะความสามารถ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ คุณสมบัติ เช่นต้องดูฉลาด ดูเก่ง มักหลีกเลี่ยงงานที่ท้าทายหรือปัญหายากๆ กลัวว่าทำไม่ได้แล้วจะดูโง่
รสนิยมหรือความเชื่อของผม..ทักษะความสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พัฒนาได้ถ้าเราเรียนรู้และลงมือทำ..ไม่ยึดติดตำแหน่งหรือหัวโขน..ปัญหาในโรงเรียนขนาดเล็กเป็นเรื่องที่ท้าทาย..ต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้..
Growth Mindset..คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโต..พยายามสร้างสรรค์ พัฒนา
เชื่อว่าความฉลาดและความสามารถ สร้างได้ด้วยการเรียนรู้ ให้ความสำคัญกับความพยายาม ชอบปัญหาและความท้าทาย มองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
ผมก็มีกรอบความคิดของผมเหมือนกัน และโชคดีที่ผมเลือกมานานแล้ว ครั้งหนึ่งสมัยหนึ่ง ใช้ช่วงเดือนเมษายน ที่ปิดภาคเรียน..คิดว่าจะพักกายพักใจพักสมอง
แต่หลายปีมานี้ ไตร่ตรองดูแล้ว พักแต่พอสมควร..เอาที่สบายใจ ๒ – ๓ วัน แล้วกลับมาหางานทำที่โรงเรียน..อันเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ และสามารถทำได้ทุกหน้าที่ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ภารโรง จนถึงผู้อำนวยการโรงเรียน..
ผลจะออกมาเป็นเช่นไร..มิได้คาดหวัง ขอแค่ทำงานที่ชอบ ในเวลาที่ใช่ก็พอ มีงานให้ทำมากมายทั้งงานโครงการ รายงานประจำปี และการจัดซื้อหนังสือเรียน
ปิดภาคเรียน..จึงมักทำเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ..เรื่องที่ไม่ได้ทำก็ลืมไปแล้วว่าต้องทำ แต่ก็มีสติ ใคร่ครวญ..ว่าต้องทำอย่างพอเหมาะพอดี..และมีเหตุผลที่เพียงพอว่าทำไปทำไม?
อย่างวันนี้..จัดห้องทำงานให้ได้มุมมองใหม่..แฟ้มเอกสารจัดวางเรียงขึ้นชั้นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย..ห้องทำงานของเราเอง ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ..ทำเป็นตัวอย่างให้ครูเห็น..ก็คิดว่าดีแล้ว
ชีวิตที่ต้องเลือกทำแบบนี้ ในช่วงปิดภาคเรียน..ถ้าทำไปได้เรื่อยๆ..ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์แห่งการเรียนรู้..ทำได้แค่ไหน? ทั้งหมดอยู่ที่ฝีมือ
ชยันต์ เพชรศรีัจันทร์
๑๖ เมษายน ๒๕๖๑
สมถะครับ ผอ. ;)...
ห้องทำงานสะอาดและเป็นระเบียบ เป็นสิ่งบ่งบอกว่าคนมีประสิทธิภาพค่ะ