(ประชุมรายงานความก้าวหน้าเศณษฐกิจและทุนชุมชน ต่อคุณ ดวงพร บุญครบรองผู้ว่าราชการจังพัทลุง)
.... ขบวนองค์กรชุมขนจังหวัดพัทลุงปีงบประมาณ 2560 ได้มีประเด็นงานโครงการเศรษฐกิจและทุนชุมชน
10 พื้นที่ตำบล 3 กิจกรรม
มีกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ตำบลชัยบุรี เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนชุมชน"ชุมชนอยู่ดี กินดี มีสุข"
กิจกรรมเกษตรอินทรีย์ 2 พื้นที่คือตำบลหานโพธิ์ อำเภอเขาชัยสน และตำบลตะโหมดอำเภอตะโหมด
การแปรรูปผลิตภัณฑ์ 7 พื้นที่ ตำบลแหลมโตนดอำเภอควนขนุน กับตำบลทุ่งนารีอำเภอป่าบอน
ทำเรื่องปุ๋ยอินทรีย์ ตำบลโคกม่วงอำเภอเขาชัยสน แปรรูปปลาดุก ตำบลควนเสาธง อำเภอตะโหมด
แปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางแก้ว ทำขนมแบเกอรี่
ตำบลลานข่อยอำเภอป่าพยอมรวบรวมผลผลิตจากเศษยาง และตำบลพนมวังก์
อำเภอเขาชัยสน เรื่องผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม
ซึ่งทางคณะทำงานขบวนจังหวัดได้ลงถอดบทเรียน ติดตามว่าเศรษฐกิจและทุนชุมชน
ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างไร
ใช้โอกาสทางการตลาด เชื่อมโยงยกระดับทุนในท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และสร้างรายได้ ที่เน้นการแปรรูป
เกษตรอินทรีย์ และการท่องเที่ยว
และในปี งบประมาณ 2561 ได้หนุนเสริมโครงการเศรษฐกิจและทุนชุมชนต่ออีก 8 ตำบล ประกอปด้้วย
ตำบลดอนทราย
ตำบลปากพะยูน
ตำบลเขาหัวช้าง
ตำบลเขาย่า
ตำบลควนขนุน
ตำบลชะรัด
ตำบลทุ่งนารี
ตำบลทะเลน้อย
และตำบลป่าพยอม
ซึ่งในปีนี้ มีโครงการศึกษาปฎิบัติการพัฒนาเศรษฐกิจและทุนชุมชน โดยมีคุณ ณรงค์ คงมาก รับผิดชอบ
โครงการ ซึ่งได้พบปะหารือกับคุณดวงพร บุญครบรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงในวันที่ 9 มีนาคม2561
และได้ลงสำรวจพื้นที่เศษฐกิจและทุน ชุมชน 10 พื้นที่ 10ประเด็นงาน
ที่มีกลไกขับเคลื่อนงาน
มีความร่วมมือกับท้องถิ่น
มีหน่วยงานเจ้าภาพหลัก
และนำข้อมูลจากการลงพื้นที่มารายงานความก้าวหน้าให้รองผู้ว่า ทราบในวันที่ 29 มีนาคม2561
ซึ่งมีเจ้าภาพหลักร่วมเป็นคณะทำงานเศรษฐกิจและทุนชุมชนดังนี้
บริษัทประชารัฐสามัคคีจำกัดวิสาหกิจเพื่อสังคม
สำนักงานพัฒนาชุมชน
สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ)
สภาเกษตรจังหวัดพัทลุง
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน)
สำนักงานท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัด
สำนักงานสหกรณ์จังหวัด
สำนักงานพานิชย์ จังหวัด
คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐ(คสป)
ตัวแทนนักวิชาการ มทักษิณ วิทยาเขตป่าพยอม
ซึ่งจะใช้เครื่องมือในการลงพื้นที่ตามตัวชี้วัด KSNB 14 ข้อซึ่งจะเป็นการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาคนทำงานเรียนรู้ไป
พร้อมๆกันในการสร้างเศณษฐกิจและทุนจากฐานราก ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้
งดงาม เพราะการขับเคลื่อนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น คือการเดินด้วยรากเหง้า อัตลักษณ์ตนเอง แถมยังสามารถบูรณาการล้อไปกับกระแสหลักของสังคมแบบไม่สูญเสียตัวเองอย่างสิ้นเชิง ก็ก่อเกิดมรรคผลการกินดีอยู่ดีมีสุข....
งดงามครับ
และถึงแม้เป็นโจทย์อันท้าทาย ก็เชื่อว่าไม่เกินแรงการขับเคลื่อน
สู้ๆ ครับ
ขอบคุณอาจารย์แผ่นดิน ได้เครื่องมือลงประเมินเศรษฐกิจและทุนชุมชน ตามหลักการKSNB คงได้พบเห็นความจริงความงาม ความก้าวหน้าของทุนชุมชน