ผมเคยเขียนเรื่องคนโง่ 2 ประเภทแล้ว วันนี้มาเขียนเรื่องคนฉลาดดูบ้าง ว่าอย่างไรถึงจะเรียกว่าฉลาด.
ถ้าตอบเร็วๆ แบบกล้วยๆ ตามสไตล์ผมเลยก็คือ คนที่จำแม่นและคิดเก่ง จึงเรียกว่าคนฉลาด
.
มาลงรายละเอียดกัน เอาเรื่องจำแม่นก่อนครับ
แน่นอนล่ะ ความคนจำอะไรได้แม่นยำ เวลาเก็บข้อมูลก็จะได้มากกว่าคนอื่น เรียนด้วยกันแต่ได้มากกว่า อ่านหนังสือก็ได้มากกว่า นี่ได้เปรียบเห็นๆ และย่อมมีข้อมูลในสมองเยอะกว่า เวลาจะคิดวิเคราะห์อะไรก็ย่อมได้เปรียบอีก
.
ผมเคยได้ยินเรื่องคนที่จำได้หมดทุกอย่างว่า ในชีวิตวันไหนเคยทำอะไรบ้าง ไม่ลืมเลย คือจำได้ทุกนาทีของชีวิต เคยดูหนังวเรื่องนี้วันไหน เคยไปทำอะไรที่ไหน ณ วันไหน เวลาไหน จำได้หมด จำได้ละเอียดกระทั่งใส่เสื้อสีอะไร !! บ๊ระ คนขี้ลืมอย่างผมล่ะไม่อยากจะเชื่อเลย เรื่องนี้ฝรั่งเค้าวิจัยว่าสมองมีความผิดปกติครับ อาจจะผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือสมองได้รับความกระทบกระเทือน ก็เลยมีความจำดีผิดมนุษย์ มีหลายเคส แต่ผมว่าเป็นความผิดปกติที่ดีนะ
.
เอาคนปกติบ้าง ความจำนี่มีการจัดชิงแชมป์ด้วยนะครับ แชมป์อัจฉริยะความจำคนไทย คือคุณใหม่ สามารถจำไพ่ทั้งสำรับ ทั้ง 52 ใบแบบไม่ผิดเลย ได้ในเวลาเพียงนาทีนิดๆ เท่านั้น !!...โอ้ แม่เจ้า ผมเลยเชิญมาออกรายการของผมเลย(รายการ สิ้นคิด โซลูชั่น !!) มาสอนวิธีจำแม่น 2 ตอน ดีมากๆ เลย
ผมโพสไว้ตอนท้ายบทความครับ รับชมได้เลย
.
ส่วนเรื่องคิดเก่ง ฝรั่งเค้าจะวัดเป็น IQ ครับ (ผนวกเรื่องความจำเข้าไปด้วย) ซึ่งเค้าจะมีแบบทดสอบเยอะพอสมควรครับ ทดสอบกันเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่แบบทดสอบไอคิวนิดๆ หน่อยๆ ตามเน็ตที่เราเล่นๆ กัน
ถ้าไอคิว วัดแล้วได้อยู่ระหว่าง 90-109 ก็ถือว่าเป็นคนปกติ ต่ำกว่านั้นก็อยู่ในเกณฑ์โง่แหละ (พูดตรงๆ เรื่องโง่ผมว่าไม่น่าอาย แต่น่าอายตรงไม่ยอมรับว่าโง่นี่แหละ) ...ถ้าสูงกว่านี้ก็อยู่ในเกณฑ์ฉลาด ถ้าไอคิวเกิน 140 นี่ฝรั่งเรียกว่าอัจฉริยะ
ผมก็เคยเห็นคนออกรายการแล้วถอดรูทแบบคิดในใจได้ สุดยอดจริงๆ พี่แกถอดได้ถึงเลข 5 หลัก คนเอาเครื่องคิดเลขคิดตามไม่ทันเลย !! นี่ คนไอคิวสูง
.
แต่มุมมองของผมนะ ผมไม่ยอมรับเรื่อง IQ นี่เท่าไหร่ มันทดสอบคนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และมุมมองด้านฟิสิกซ์ เสียเป็นส่วนใหญ่ ยังขาดการทดสอบความสามารถอื่นๆ อีก เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการมีทัศนคติต่อชีวิตที่ดี หรือทักษะการรู้จักตัวเอง ผมเคยได้ยินเรื่องคนจีเนียส หรืออัจฉริยะที่ฝรั่งเค้าว่านี่ บางคนก็มีปัญหาด้านอื่นครับ ปัญหาใหญ่ด้วย...
.
เช่น เรื่องของคุณแลงแกน ชาวสหรัฐ ทั้งๆ ที่ไอคิวสูงถึง 190 ซึ่งคตรสูงเลย สูงเกินไอน์สไตน์อีก (ประมาณ 150) หาคนไอคิวสูงขนาดนี้ยากมาก ฉลาดขนาดไหนเหรอ ... ตอนเด็กๆ เค้าอ่านหนังสือได้เองโดยไม่ต้องมีคนสอน เวลาเข้าโรงเรียนนี่แทบไม่ต้องเรียนเลย ขอแค่อ่านหนังสือ 3 วัน ก็รู้เรื่องหมดทุกวิชาทั้งเทอมแล้ว ! นี่ฉลาดขนาดไหนคิดดูครับ แต่เค้ากลับคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องครับ จีเนียสกลับมีปัญหาด้านการสื่อสาร ชีวิตก็เลยไม่รุ่ง ทั้งๆ ที่ความฉลาดขนาดนี้ น่าจะได้รางวัลโนเบลมีชื่อเสียงก้องโลกซะด้วยซ้ำ แต่กลับมาทำงานเป็นแค่พนักงานเฝ้าหน้าร้าน !! ที่บ้านเค้ามีทฤษฎีต่างๆ ที่คิดเอาไว้ แต่ไม่กล้าเปิดเผยต่อสาธารณะ !! กลัวคนไงครับ เพราะพูดแล้วไม่รู้เรื่อง พูดเรื่องฉลาดๆ แล้วคนอื่นกลับดูถูกเขา
แบบนี้จะเชื่อถือไอคิวได้ยังไง...ว่าคนไอคิวสูง คือคนฉลาด ... คนฉลาดที่ไม่มาตรฐาน มีโง่ในบางเรื่อง ( โง่เรื่องที่สำคัญซะด้วย)
.
อันนี้มุมมองของผมนะ ความฉลาด ผมขอจำแนกไว้ 3 ประการ
1. คิดได้ลึก
2. คิดได้กว้าง
3. คิดได้หลายมุม
และที่สำคัญต้องพูดรู้เรื่อง คือสื่อสารกับคนอื่นได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคมครับ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ความฉลาดก็ไม่มีประโยชน์
มีคำกล่าว่า ฉลาดลึกแต่โง่กว้าง นี่แหละๆ...แบบนี้เลย และบางคนคิดว่า กรูฉลาดคนเดียว ดูคนอื่นโง่ไปหมด อันนี้คือคิดได้มุมเดียว คือคิดถึงแต่ตัวเอง คิดมุมของคนอื่นไม่เป็น ผมก็ไม่นับว่าฉลาดนะ (เป็นคนโง่ประเภทที่ 2 ที่ผมเขียนไว้แหละ)
ไอน์สไตน์ เคยกล่าวว่า ความรู้ต้องรู้เยอะๆ มิฉะนั้นจะเป็นอันตรายได้ คนไทยก็เรียกว่า ตาบอดคลำช้างไงครับ รู้อะไรรู้ไม่จริง โดยรู้ไม่ลึก /รู้ไม่กว้าง / รู้แคบๆ ไม่รู้ทุกแง่ทุกมุม คือ รู้แล้วแต่รู้ผิดๆ นี่อันตรายเลย แบบนี้ตรงกับไอน์สไตน์กล่าวไว้เป๊ะ
.
สมมุติคนฉลาดเรื่องมือถือ อันนี้เค้าต้อง...
1. รู้ลึก -รู้ที่มา รู้ถึงระบบ ระบบเป็นยังไง มีปัญหาแก้ได้
2. รู้กว้าง –มือถือมีกี่แบบ กี่รุ่น ของประเทศอะไรบ้าง
3. รู้หลายมุม – มุมมองของคนใช้ มุมมองคนขาย มุมมองของเจ้าของบริษัท ว่าเค้าคิดต่างกันอย่างไร
นี่แบบนี้ผมถือว่าฉลาดจริงครับ รู้ครบทั้ง 3 ประการ ไม่ใช่ตาบอดคลำช้าง
คิดว่า มุมมองของผม น่าจะโอไหมครับ
.
ลงลึกมาพูดถึงด้วยกฎไตรลักษณ์ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน และไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบครับ คนเราจึงไม่ได้ฉลาดทุกเรื่อง อาจฉลาดเรื่องหนึ่ง โง่อีก 10 เรื่องก็ได้ อันนี้คือธรรมดาโลก และที่สำคัญความฉลาดก็ไม่คงที่ครับ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ด้วย เวลาเครียด จิตตก หรือเศร้าสุดชีวิต ความฉลาดจะตกฮวบเลย คนฉลาดตัดสินใจโง่ๆ เยอะแยะไป เพื่อนผมคนหนึ่ง เรียนเก่งสอบติดแพทย์ น้อยใจผูกคอตาย เพราะเหตุทะเลาะกับพ่อแม่ !
คนอารมณ์ดี จึงมีโอกาสที่ฉลาดได้มากกว่า มีเวลาที่จะฉลาดได้มาก อาจจะไอคิวไม่สูง แต่เอาความฉลาดออกมาใช้ได้บ่อย เพราะจิตไม่ตกไงครับ สรุปว่า ความฉลาดขึ้นลงตามอารมณ์จิตครับ ความฉลาดจึงฝึกได้ ไม่ต้องกลัวว่าโง่มาแต่เกิดแล้วจะโง่ตลอดไป เพียงแค่ฝึกคิด และฝึกควบคุมอารมณ์ ก็จะฉลาดได้ทุกคน (ผมเขียนไว้เรื่อง "ฉลาด VS เฉลียว")
.
สุดท้าย ผมก็เน้นอีกครับ ว่าความฉลาดต้องมีสติปัญญามาควบคุม ไม่งั้นก็เอาความฉลาดไปใช้ในทางที่ผิดได้ โลกต้องการคนดีมากกว่าคนฉลาดครับ คนฉลาดเป็นดาบ 2 คม ถ้าขาดความดีละพาโลกชิบหายได้ แต่คนดีจะพาโลกสงบ แม้จะไม่เจริญแต่ก็สงบ อันนี้ สำคัญกว่า
ผมก็ได้เขียนเรื่องนี้ไว้อีก เดี๋ยวตอนท้ายคลิ๊กอ่านได้ครับ
และสิ่งที่ผมอยากจะบอกที่สุด อยากขีดเส้นใต้ไว้สัก 5 เส้น คือ ความฉลาดสูงสุดเรียกว่า ปัญญาญาณครับ อันนี้คือสุดยอดของสุดยอด (ผมก็เขียนเอาไว้อีกนั่นแหละ)
.
.
สรุป ....
ความฉลาด คือ จำแม่น กับ คิดเก่ง
คิดเก่งคือ รู้ลึก / รู้กว้าง / และรู้หลายมุม
ความฉลาดไม่เที่ยง ขึ้นกับอารมณ์จิต
ความฉลาดฝึกหัดได้
ความฉลาดต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความดี
ความฉลาดสูงสุด คือปัญญาญาณ
.
ใครอ่านโพสนี้คุ้มเลย มี link ให้ดูทั้งคลิป และโพสอื่นๆ มากมาย เชิญครับ
แชมป์ความจำมาสอนวิธีจำแม่น คลิ๊กชมได้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?...
.
เรื่องคนโง่ 2 ประเภท คลิ๊กอ่านที่นี่ครับ https://www.gotoknow.org/desktop#!/posts/644174
“ความฉลาดต้องมีสติปัญญามาควบคุม คลิ๊กที่นี่ https://www.gotoknow.org/posts/645112
ฉลาด VS เฉลียว https://www.gotoknow.org/posts/644920
ปัญญาญาณคืออะไร https://www.gotoknow.org/posts/643272
ปิ๊งแว้บ หรือ ปัญญาญาณ https://www.gotoknow.org/posts/644818
พูดคุยกันที่เฟซบุ้คผม https://www.facebook.com/beonl...
ไม่มีความเห็น