สำหรับแนวคิดหลังสมัยใหม่นิยม อยู่ในฐานคิด 3 ข้อนี้คือ
1.Universalism คือ ความเป็นสากลนิยม
2.Essentialism คือ ความเป็นแก่นสารนิยม
3.Evolutionism คือ ความเป็นวิวัฒนาการเชิงเดี่ยว
แนวคิดหลังสมัยใหม่นิยมนี้ปฏิเสธความเป็นสากลนิยม ไม่เชื่อในความจริงแท้ที่เป็นแก่นสารนิยม คือสิ่งจริงอาจไม่จริง เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริบท
ตามทฤษฎีไข่มดแดง ขออธิบายดังนี้ นาย ก. เคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองตลอดวันหนึ่งไปซื้อที่ดินผืนหนึ่งในชนบทแล้วปลูกบ้านปลูกมะม่วงขึ้นมาต้นหนึ่งล้อมรั้วไว้เป็นเขตแล้วปิดประตูรั้วแต่มีชาวบ้านเปิดประตูรั้วนั้นเข้ามาในบริเวณบ้าน เมื่อถาม ชาวบ้านสอนมวยเจ้าของบ้านว่า ผมเข้ามาเอาไข่มดแดง ต้นมะม่วงและผลมะม่วงเป็นของคุณ ผมไม่เอาดอก แต่ผมเอาไข่มดแดงในต้นมะม่วง เพราะมดแดงหรือไข่มดแดงทุกคนมีสิทธิ์เอาไปได้ด้วยมันเป็นของธรรมชาติ คือในทุกพื้นที่มันมีความสลับซับซ้อนกันอยู่ และนี่เป็นการอธิบายความคิดเชิงซ้อนไงละ
แง่คิด ไม่มีอะไรเป็นเส้นตรง การมองเป็นเส้นตรงนั้นเป็นการมองที่ไม่จริงเพราะความจริงมันสลับซับซ้อนกลับไปกลับมาได้ และทุกวันนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เพราะเราคิดว่าเรื่องสมมุติเป็นเรื่องจริง
ทีนี้เล่าถึงนักปรัชญาเยอรมันคนหนึ่งชื่อ นิทเช่ ( Friedrich Wilhelm Nietzsche ) เขาว่า กรณีทุกคนต้องมีศีลธรรมก็เป็นเรื่องสร้างขึ้น มองศีลธรรมแบบคริสต์ เช่น ใครตบแก้มซ้ายยื่นแก้มขวาให้ตบอีกนี่คือ ศีลธรรมผู้อ่อนน้อม เพราะ ช่วงนั้นโรมันมีอำนาจล้นฟ้า ใช้พระเดช ดังนั้น พระเยซูจึงแก้ไขให้ใช้เป็นพระคุณคือสร้างขึ้นในบริบทเฉพาะ
สำหรับทฤษฎีปฏิบัติการ Theory of Practice กำลังโด่งดังมีคนนิยมนักคิดเหล่านี้มากในปัจจุบัน เพราะ 3 คนนี้อยู่ในทฤษฎีปฏิบัติการนิยมนี้เอง ที่ไม่ใช่ความคิดสมัยใหม่นิยมและความคิดหลังสมัยใหม่นิยม เพราะเป็นแนวคิดอยู่ในระหว่างกลาง In Between คือคุณใช้สิ่งนั้นอย่างไร
นักคิดที่ว่านี้มีอยู่ 3 คนดังนี้
1.บูดิเออร์ Pierre Bourdieu เป็นชาวฝรั่งเศส เขียนหนังสือชื่อ An Outline of a theory of Practice
2.กรัมชี่ Antonio Gramsci เป็นชาวอิตาลี
3.เดอ เชอโต Michel de Certeau เขียนหนังสือชื่อ The Practice in Everyday Life
พวกเขา 3 คนผสมมุมคิดของ มาร์ก + เวเบอร์ + ฟูโกต์
ฟูโกต์ว่า คุณจะมีอำนาจได้คุณต้องเข้าไปปฏิบัติการช่วงชิงอำนาจ คุณจึงจะมีอำนาจ คือเป็นการให้กำลังใจคือให้ความสำคัญกับผู้ปฏิบัติการว่าคือใคร ไฮเดกเกอร์ ว่า ค้อนจะเป็นค้อนก็ขึ้นอยู่กับคุณเอาไปใช้อะไร ถ้าเอาไปตอกตะปู มันก็คือค้อน แต่คนเอาสิ่งนี้ไปทุบหัวแมวมันก็เรียกว่าเป็นอาวุธใช่หรือไม่..? นี่ละ In Between.
...................................
คำขอบคุณ เก็บมุมคิดนี้จากการฟัง ศ. ดร. อานันท์ กาญจนพันธุ์ เมื่อ วันที่ 13 – 14 ม.ค. 2561 ณ ม. ทักษิณ สงขลา.
ไม่มีความเห็น