ผมเกิดมาในสังคมเมือง โตมาก็เจอแสงสี
วัยรุ่น เริ่มเข้าวงการบันเทิง มีงานถ่ายโฆษณา
เรียนจบมาแล้ว กำลังจะได้เป็นนักดนตรี
เกือบจะได้ออกเทปด้วย
สมัยนั้นเป็นเทป คน 40 อัพ จะนึกบรรยากาศออก
.
อัตตาตัวตนมันก็โตตามสังคมที่เราอยู่
แหม กรูมันเท่ว้อย นักดนตรี นายแบบโฆษณา
สมัยก่อนไม่ได้เป็นกันง่ายๆ มันครตเท่
.
อีโก้ เวลามันเข้าสิง นี่ไม่รู้ตัวหรอกครับ
คนเราที่ยังไม่มีสติปัญญา มันจะมองออกนอกตัว
ไม่ได้มาดูจิตใจตัวเองที่ลุ่มหลง ลึกลงวังวนกิเลสทุกทีๆ
กิเลสมันเอาความสุขสนุกสนานมาบังตาไว้ครับ...
.
.
มันถือเป็นบุญที่ผมอาจเคยได้ทำมาแต่ปางก่อน
ทุกสิ่งที่หวัง มันติดอุปสรรคไปหมด
เส้นทางวงการบันเทิงมีแต่ปัญหา
มันดูริบหรี่ลงๆ ...
แม้แต่เซ็นต์สัญญาค่ายเทปแล้ว ก็ไม่มีวี่แววจะได้ออก
.
และบุญก็ส่งให้ผมได้เดินเส้นทางใหม่
เส้นทางแห่งความสงบ...
ครับ โชคดีที่ ผมได้บวช
.
ดีอย่างที่ผมเป็นคนเอาจริง
บวชแล้วประพฤติแบบพระป่า
อยู่วัดป่า ถือจีวร 3 ผืน ฉันมื้อเดียว
ทำความเพียร นั่งสมาธฺ เดินจงกรม ไม่นอนกลางวัน
ฝึกจิต เคร่งครัดธรรมวินัย
.
3 ปีครึ่งครับ ที่ชีวิตกลับตาลปัตร
จากบรรยากาศแสงสี ยั่วยวนด้วยความบันเทิงทุกทิศทาง
สลับเปลี่ยนไปอยู่กับต้นไม้ครึ้ม วิเวก
ระคนเสียงนก แมลง และความว่าง
จากมนุษย์อีโก้สุดเท่ เป็นหลวงพี่สุดติดดิน
.
มันจึงเข้าใจชีวิตครับ
เข้าใจจากภายใน
ถ้าเรายึดตัวเอง เพาะปลูกอีโก้
ความฉิบหายเป็นที่หวังในอนาคตได้แน่ๆ
.
ความสุขแท้จริง
คือการเข้าถึงตัวเอง รู้จักความคิด รู้จักอารมณ์
และรู้วิธีจัดการต้นตอปัญหาภายใน
ไม่ใช่การหาวัตถุมาปรนเปรอกิเลส
สิ่งเหล่านั้นยิ่งเอาเข้ามา ยิ่งสร้างปัญหา
.
ความสุขจากกิเลส คือปัญหาที่แอบซ่อนเร้น
วันที่มันระเบิดเมื่อไหร่
วันนั้นแหละ
ฉิบหายเดย์
เราไม่มีทางรู้เลยครับ จนกว่าจะเห็นโลงศพ
น้ำตาจึงหลั่งดั่งสายเลือด
.
ผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกคนทั้งโลกได้อย่างไร
ว่าชีวิตมันต้องอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม
ต้องเข้ามารู้จักจิตใจตัวเอง
รักษาจิต แก้สิ่งเลว พัฒนาสิ่งดี
ลดละอีโก้......
ชีวิตจึงจะมีค่า สมกับที่เกิดมาชาติหนึ่ง
.
แต่ดีที่ได้มาเป็นอาจารย์ ถือว่าธรรมะจัดสรร
ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ
แบ่งปันสิ่งที่ตัวเองได้รับ
เพือให้คนอื่นได้สัมผัสความสุขที่แท้จริง.
.
....
อนุโมทนา...สาธุ..เจ้าค่ะ