ปิดเทอม..ก่อนผมจะไปโรงเรียน ผมจะต้องรดน้ำต้นไม้ที่บ้านก่อนเสมอ..รดทุกวันเพราะช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ ความชุ่มชื้นจึงแห้งเหือดไปอย่างรวดเร็ว..ทำให้พื้นดินร้อนระอุ..ไม้ดอกไม้ประดับจึงเหี่ยวเฉา
หรือเป็นเพราะ..ผมปลูกอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยกัน จึงแบ่งปันความชุ่มชื้นให้กันและกัน.. บางครั้ง..น้ำที่รดลงไป จึงไม่เพียงพอ
ทุกครั้งที่รดน้ำต้นไม้..ผมจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ ..ให้ความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน นอกจากจะได้ประโยชน์จากงานที่ทำ ยังนำมาซึ่งความรู้สึกนึกคิด ที่ให้คุณค่าต่อจิตใจ...
ผมแหงนหน้าเพื่อขอบคุณต้นไม้ ที่อยู่เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน..เราเจริญเติบโตไปด้วยกัน..ไม่เคยทิ้งกัน..ผมได้สูดอากาศบริสุทธิ์และรู้สึกอบอุ่นเมื่อลมพายุพัดมา ต้นไม้จะช่วยต้านทานแรงลมไว้....
ผมแหงนหน้าเพื่อเก็บภาพความสวยงามที่ลงตัวของลำต้นและใบ แสงและสี เหมือนภาพวาดของศิลปินมืออาชีพ เป็นภาพธรรมชาติที่ผมจะเก็บไว้เป็นตัวอย่าง..ในการวาดภาพของผม..
ผมแหงนหน้าเพื่อทำสมาธิ มีจิตใจจดจ่อแน่วแน่อยู่กับงาน มีจิตสำนึกกำหนดรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำที่ไหน ผลเป็นอย่างไร มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง..ได้ฝึกทักษะการสังเกตไปด้วย
และผมต้องแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ เพื่อการทำงานที่มีสติ รอบคอบ และไม่ประมาท บ้านที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ กิ่งก้านใบดูเขียวสด แต่ก็อาจจะมีกิ่งที่แห้งผุ หักค้างคาต้น พร้อมจะหล่นลงมา ทำให้บาดเจ็บได้ ทุกวันนี้..มีกิ่งก้านน้อยใหญ่ ร่วงหล่นลงมา ให้ผมได้เก็บกองไว้ทำฟืนแทบจะทุกวัน..
ต้นไม้รอบบ้าน..จึงให้คุณค่าอเนกอนันต์ ให้อากาศและร่มเงา..สอนการเรียนรู้ให้อยู่กับสติและความไม่ประมาท..ทำให้ผมนึกถึงคำสอนของพระนักเทศน์ท่านหนึ่ง ที่กล่าวไว้ว่า...
“..สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดไม่เกิดปัญญา..”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๑ เมษายน ๒๕๖๐
ชื่นใจเห็นร่มไม้..
สุขสันต์วันสงกรานต์....เจ้าค่ะ