ผมรู้รสความจน..ตั้งแต่เรียนชั้นประถมจนถึงมัธยม..พ่อทำงานคนเดียว ทำงานเป็นเสมียนบนสำนักงาน ต่อมาต้องส่งลูกเรียนปริญญาตรีถึง ๔ คน ที่ดินทำกินก็ไม่มี ทรัพย์สินไม่ต้องพูดถึง สิ่งที่ต้องคำนึงคือ หนี้สิน..ที่ทำให้เงินเดือนของพ่ออยู่ต่อไม่ถึงสิ้นเดือน..
ช่วงที่เรียนปริญญาตรี..ผมต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด บางช่วงบางตอนต้องหารายได้พิเศษ แต่ก็ไม่กระทบการเรียน ผลการเรียนปานกลางค่อนข้างดี มีความเพียรพยายามเพราะอยากเรียนจบแล้วหางานทำ..จะได้มีเงินเดือนมาช่วยพ่อกับแม่..ส่งน้องเรียน..
ผมดูหนังสือสอบอย่างหนักหน่วง..จึงทำให้สอบผ่าน ได้เป็นข้าราชการครู..ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป มีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ผมจะมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ แต่ก็อยู่ในวิถีที่..ติดดิน.และพอเพียง..หลีกเลี่ยงความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม แต่งเติมความรู้สึก..ให้เห็นคุณค่า..ของความจน..
ความจน..ทำให้มีวันนี้..ความจน..สอนให้อดทน..และพึ่งตนเอง..การศึกษา..ช่วยให้หลุดพ้นจากวังวนแห่งความจนนั้น..ขอบคุณ..การศึกษา..ที่ช่วยสร้างโอกาสที่ดีงาม..
พูดถึงความจน..ผมก็ยังดีกว่าอีกหลายคน..คนที่ผมจะพูดถึงวันนี้..คือเด็กชายแตง..รัฐพล โพธิ์เรือนดี นักเรียนชั้น ป.๒..แม่กับพ่อลี้ยง..ออกจากบ้านไปรับจ้าง นานๆจะกลับมาหาแตง แม่ปล่อยให้แตงอยู่กับตาล..ซึ่งเป็นพี่เรียนอยู่ชั้น ป.๔..
คืนไหนที่ผมหนาว..แตง..น่าจะหนาวกว่าผม เวลาผมกินอิ่ม ผมจะนึกถึงแตง..แตงจะได้กินข้าวหรือยัง..ดูจากสภาพบ้านแล้ว..แตงอยู่ในครอบครัวที่ยากจน...จนกว่าผมเมื่อตอนเด็กๆแน่นอน..
แต่วันนั้น..วันที่ผมอายุเท่าแตง และเรียนอยู่ชั้นป.๒ ..ผมเรียนสู้แตงในวันนี้..ไม่ได้เลย..ข้อมูลที่ยืนยันและทำให้ผมต้องดูแล้วดูอีก จนรู้สึกชื่นชมแตงมิใช่น้อย..
ผลการสอบอ่านและเขียน ด้วยข้อสอบจากส่วนกลาง คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน..ควบคุมการสอบโดยคณะกรรมการที่เป็นครูจากโรงเรียนอื่น..
แตง..ทำคะแนนได้ ๙๘ คะแนน สูงสุดของห้องและของโรงเรียน เป็นที่ภาคภูมิใจของครูประจำชั้นและเป็นที่กล่าวขวัญของครูคุมสอบ..
แตง..เด็กที่ขาดทั้งความรักและความอบอุ่นจากพ่อแม่..ขาดเงิน..ที่จะติดตัวมาโรงเรียนในบางวัน แต่แตงไม่เคยขาดโอกาสในการเรียนรู้..การอ่านออกเสียง แตงทำได้ ๓๙.๕ จากคะแนนเต็ม ๔๐...อ่านรู้เรื่อง(อ่านเอาเรื่อง) แตงได้คะแนนเต็ม..ส่วนการเขียนที่ว่ายากที่สุด คะแนนเต็ม ๓๐ แตงทำได้ ๒๘.๕
บ่งบอกว่า..แตงพร้อมที่จะใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีความเพียรพยายาม ไม่ยอมให้ความยากจน เป็นปัญหาและอุปสรรค..ตลอดจน..ไม่เป็นข้ออ้างให้ต้องหยุดและยอมแพ้...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๖ มีนาคม ๒๕๖๐
เป็นกำลังใจให้ทั้งครู ทั้งศิษย์จ้าา