​ลีลาชีวิตคน 7



อันชีวิตคนเราจมอยู่กับอุปาทานหรือความผูกพันนี้มาก รสชาติหรือความน่ารักน่าชอบใจของความทุกข์อันเกี่ยวเนื่องกับอุปาทานนี้ตัวอย่างการดูกีฬาที่ตนชอบเมื่อทีมเราเชียร์ชนะเราดีใจกินข้าวได้นอนหลับแต่ถ้าทีมเราเชียร์แพ้ก็เสียใจกินข้าวก็ไม่ลงนอนคิดอยู่นั่นละ พระท่านจึงสอนว่า...การดีใจหรือการเสียใจนั้นมันเป็นโลกธรรมนะโยม หากไม่อยากเสียใจก็อย่าไปดูมันสิ นับเป็นคำแน่นำที่ถูกเผงเลย

แง่พุทธจึงสอนเราว่า เรื่องที่เราสมควรทำที่สุดในชีวิตคือจงจัดการกับความทุกข์ที่จำต้องมีอันเป็นธรรมดาของชีวิต สังเกตเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้วเน้นเรื่องนี้มาก ๆ ใครคุยนอกจากนี้ไม่คุยด้วยนั้นคือการสนใจว่า คนจะดับทุกข์หรือบรรเทาทุกข์ให้เบาบางลงได้อย่างไร

แง่คิดอันเป้าหมายที่ค้นหาอมตะธรรมนั้นคลุมเครือ แต่เป้าหมายการบรรเทาทุกข์และดับทุกข์นั้นแง่พุทธนี้ชัดเจนมาก แต่เราต้องแบ่งระดับธรรมออกเป็น 2 ระดับคือ

ก.ระดับธรรมเหมาะสมกับคนที่ยังชอบอยู่กับโลก

ข.ระดับธรรมเหมาะสมกับคนที่ยังชอบพ้นไปจากโลก และที่ว่าพ้นไปจากโลกนั้นอย่างเช่นพระอรหันต์นั้นอยู่ที่ใจที่หลุดพ้นไป

หมายเลขบันทึก: 622194เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2017 13:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม 2017 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท