อันชีวิตคนเราจมอยู่กับอุปาทานหรือความผูกพันนี้มาก รสชาติหรือความน่ารักน่าชอบใจของความทุกข์อันเกี่ยวเนื่องกับอุปาทานนี้ตัวอย่างการดูกีฬาที่ตนชอบเมื่อทีมเราเชียร์ชนะเราดีใจกินข้าวได้นอนหลับแต่ถ้าทีมเราเชียร์แพ้ก็เสียใจกินข้าวก็ไม่ลงนอนคิดอยู่นั่นละ พระท่านจึงสอนว่า...การดีใจหรือการเสียใจนั้นมันเป็นโลกธรรมนะโยม หากไม่อยากเสียใจก็อย่าไปดูมันสิ นับเป็นคำแน่นำที่ถูกเผงเลย
แง่พุทธจึงสอนเราว่า เรื่องที่เราสมควรทำที่สุดในชีวิตคือจงจัดการกับความทุกข์ที่จำต้องมีอันเป็นธรรมดาของชีวิต สังเกตเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้วเน้นเรื่องนี้มาก ๆ ใครคุยนอกจากนี้ไม่คุยด้วยนั้นคือการสนใจว่า คนจะดับทุกข์หรือบรรเทาทุกข์ให้เบาบางลงได้อย่างไร
แง่คิดอันเป้าหมายที่ค้นหาอมตะธรรมนั้นคลุมเครือ แต่เป้าหมายการบรรเทาทุกข์และดับทุกข์นั้นแง่พุทธนี้ชัดเจนมาก แต่เราต้องแบ่งระดับธรรมออกเป็น 2 ระดับคือ
ก.ระดับธรรมเหมาะสมกับคนที่ยังชอบอยู่กับโลก
ข.ระดับธรรมเหมาะสมกับคนที่ยังชอบพ้นไปจากโลก และที่ว่าพ้นไปจากโลกนั้นอย่างเช่นพระอรหันต์นั้นอยู่ที่ใจที่หลุดพ้นไป
ไม่มีความเห็น