โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

กษัตริย์ผู้เป็นที่รักของปวงชน


สอบเข้ารับราชการครั้งนั้นเสร็จแล้ว กลับไปเล่าให้เพื่อนคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยฟัง เพื่อนรีบทำนายฝันทันที่ว่า “ที่พระองค์รับสั่งดังนั้น แล้วเอ็งวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันทีแสดงว่าเอ็งไปรับตามคำสั่งพระองค์ เรียกว่ารับราชการ เอ็งสอบได้แน่นอน” ฟังแล้วเกิดความมั่นใจว่า สอบคราวนี้ได้เข้ารับราชการแน่นอน เพราะเชื่อตามที่ฝัน ผมไม่เคยมีบุญวาสนาฝันถึงพระองค์มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ฝันดี สอบถามผู้สันทัดกรณีด้านความฝัน กล่าวว่าฝันเมื่อใกล้สว่างถือว่าเป็นความฝันที่แม่นยำที่สุด เสียงของเพื่อนที่กล่าวในวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำตลอดว่า “ที่เอ็งวิ่งไปรับโทรศัพท์นั่นคือรับราชการ”

โสภณ เปียสนิท

…………………………………

สายฝนยังคงหยดลงพื้นพสุธาหล่อเลี้ยงโลกช่วงออกพรรษาปีนี้ ความชุ่มชื้น ความหนาวเย็นแทนทีความแห้งแล้งร้อนรนทีละน้อย ป่าไม้พงหญ้าสีเหลืองแดงกลายเป็นสีเขียว มองแล้วเพลินตากว่าช่วงหน้าแล้งอันยาวนาน แต่ปลายหน้าฝนปี 2559 ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ เป็นปีที่จะอยู่ในความทรงจำของผมจนกว่าจะทอดทิ้งเรือนร่างลงทับถมแผ่นดิน

หลังรู้ข่าวพ่อหลวงของเราเสด็จเข้ารับการรักษาอาการพระประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ผมพาครอบครัวสวดมนต์เจริญจิตภาวนาน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์อย่างสม่ำเสมอ เพราะรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่องค์พระพ่อหลวงทรงงานหนักตลอด 70 ปี เพื่อมอบความสุขให้กับปวงชนชาวไทยและชาวโลก อดรู้หวั่นหวาดในใจไม่ได้ หากพ่อหลวงจากไปใครเล่าจะเป็นที่พึ่งให้กับประเทศได้มากเท่าพระองค์ท่าน หวั่นเกรงวันข้างที่เปลี่ยวเปล่า รู้สึกเหมือนว่าตนเองเป็นเด็กกำพร้าเหว่ว้าต่อสู้เพื่อความอยู่รอดบนโลกนี้เพียงลำพัง

และแล้ววันเวลาที่หวาดหวั่นก็มาถึงเมื่อรัฐบาลประกาศอย่างเป็นทางการถึงการเสด็จสวรรคตของพ่อหลวง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เสียงร่ำไห้ระงมไปทั้งประเทศเคล้าเสียงอสนีบาตคร่ำคราญครืนคราง หยาดน้ำตาหลังไหล หลั่งไหลลงสู่เมทนีดลพร้อมกับสายฝนอยู่ไม่ขาดสาย บรรยากาศแห่งความรุ่งเรืองสุขสันติ์กลายเป็นมืดครึ้มซึมเซาเงียบเหงาอาดูร เหมือนเมฆดำก้อนใหญ่ทมึนปกคลุมฟ้า เบื้องล่างทั่วถิ่นแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยสีดำแห่งเสื้อผ้าแพรพรรณอาภรณ์ของผู้คนเพื่อนร่วมชาติ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ใบหน้าหมองคล้ำ หูได้ยินแต่เสียงคร่ำครวญตลอดเวลา อาจเป็นเพราะเราเคยชินกับการมีพ่อหลวงคอยดูแลมายาวนานถึง 70 ปี

ผมมอบหมายงานให้นักศึกษาสองชั้นปี (ชั้นปีที่23-4) ที่ลงเรียนในรายวิชาที่ผมรับผิดชอบ ทำโครงการบูรณาการพัฒนาจิตเข้ากับการเรียนภาษาอังกฤษ โดยร่วมมือกับสถาบันพลังจิตตานุภาพ วัดเขาเต่า หัวหิน มีการทำวัตร สวดมนต์ เจริญสติสมาธิภาวนา เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัยรักพ่อหลวง ได้เห็นผู้คนชาวไทยต่างอุทิศตนทำความดี เท่าที่จะทำได้น้อมถวายเป็นพระราชกุศลกันมากมาย

เห็นภาพยายชราผู้หนึ่งเดินเก็บขยะบริเวณรอบๆ สนามหลวงไปเรื่อยๆ นักข่าวสอบถามได้ความว่า ยายต้องการร่วมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง คุณยายน่ารักมาก แม้ไม่อาจทำความดีอย่างอื่นๆ ได้ แต่อย่างน้อยยายได้ทำความดีเพื่อส่วนรวมถวายเป็นพระราชกุศลจนได้ บางคนบางคณะนำอาหารข้าวน้ำมากแจกจ่ายให้กับผู้ที่เดินทางจากต่างจังหวัดที่ไกลๆ บางห้างร้านแจกเสื้อผ้าสีดำ เพื่อใช้ในการเข้าร่วมงานหลวง กลุ่มศิลปินพากันวาดภาพขนาดใหญ่ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ เพื่อให้ประชาชนที่มางานกราบบังคมเบื้องหน้าพระบรมโกศได้ชื่นชม มีกิจกรรมร่วมกัน กลุ่มนักกลอนเขียนกลอนถวายพระพ่อหลวงกันคึกคัก บางคนเดินทางมาไกลด้วยเท้า เพื่อมาสักการะพระบรมศพของพระองค์ บางกลุ่มเด็กแว้น ประกาศหยุดการขับขี่จักรยานยนต์โลดโผนรบกวนตามท้องถนน กลุ่มนักศึกษาอาชีวะที่เคยตีกันหันหน้าเข้าหากันทำสัญญาสงบศึก เป็นมิตรกันร่วมทำความดีร่วมกันเช่นการลบรอยเปื้อนตามผนังกำแพงในที่สาธาณะ วัดวาอารามทั่วประเทศจัดให้มีการสวดพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ บางแห่งสวดมนต์ถวายพระราชกุศล กลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ให้บริการรับส่งประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานสักการะพระบรมศพฟรี บางคนถึงกับบวชพระ บวชเณรถวายเป็นพระราชกุศล กลุ่มนักดนตรีเล่นดนตรี เพลงพระราชนิพนให้คนฟังในที่สาธารณะ เห็นคุณตาคนหนึ่ง นั่งย้อมผ้าของตนให้เป็นสีดำ เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อพ่อหลวง เป็นต้น

ผมเกิดมาในประเทศนี้เมื่อปีพุทธศักราช 2503 ที่มีพ่อหลวงครองราชย์อยู่ก่อนแล้ว จึงมีความผูกพันอยู่กับพระองค์ท่านเสมอมา ผ่านกิจกรรมที่ชุมชนจัดในเทศกาลสำคัญต่างๆ ผ่านกิจกรรมต่างของพระองค์ท่านอยู่ในข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ผ่านปฏิทินปีใหม่ทุกๆ ปีที่มีภาพอิริยาบถต่างๆ ของพระองค์ทรงงานเพื่อประชาชน ตามพื้นที่ราบไปจนยันยอดดอยในทุกภาค ทุกถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศไทย ประหลาดใจหนักยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่ากิจกรรมของพระองค์ทรงทำทุกอย่างนั้นเพื่อปวงชนชาวไทยของพระองค์

ทุกครั้งที่รู้ข่าวว่านานาประเทศ ทั่วโลกยกย่องชื่นชมองค์พ่อหลวงของไทย ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินของพระองค์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ภูมิใจที่พระมหากษัตริย์ของประเทศอื่นๆ ยึดถือพระองค์เป็นแบบอย่างในการทรงงานเพื่อปวงชน เผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ให้ขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น ผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างพากันยกย่องพระองค์ ชื่นชมในผลงานที่ทรงทำเพื่อประชาชนตลอดเวลาอันยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเคยทำมาก่อน

ผมดีใจที่เกิดใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ผู้เป็นองค์เอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก ตามแนวทางแห่งปฐมบูรพมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงประกาศปฐมบรมราชโองการไว้ว่า “....ตั้งใจจะอุปภัมภกยอยกพระศาสนา ป้องกันขอบขัณฑเสมา พร้อมทั้งประชาชนและมนตรี...” เพราะผมได้อาศัยร่มเงาแห่งพระศาสนาที่ทุกพระองค์อุปถัมภ์นั้นเล่าเรียนเขียนอ่านมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จนมีความรู้ทางโลกและทางธรรมใช้เป็นอาชีพได้จนถึงปัจจุบัน

เมื่อครั้งผมสึกหาลาเพศบรรพชิต ยังอยู่ในขั้นแรกของการหางานทำเลี้ยงชีวิต ผมสวดมนต์วันละหลายตลบเพื่ออธิษฐานขอให้ได้งานที่เหมาะสมกับอุปนิสัยใจคอ ครั้งแรกไปทำงานอยู่ฝ่ายต่างประเทศ ของบริษัทแห่งหนึ่งแถวหนองแขม รู้สึกว่ายังไม่เป็นที่พอใจ จึงไปสอบเข้าทำงานในตำแหน่งอาจารย์ที่สาขาภาษาต่างประเทศ คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เกิดความรู้สึกคับข้องกับการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ จึงไปสอบขอเข้ารับราชการคืนก่อนไปสอบราวตีสี่กว่า ผมฝันว่า “ได้พบกับพระองค์ขณะที่พระองค์ ประทับยืนอยู่ในป่าใต้ต้นใหญ่แห่งหนึ่ง จำได้ว่าฟังรับสั่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ขณะนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระท่อมเล็กๆ ไม่ไกลจากที่ทรงประทับยืนเมื่อสักครู่ พระองค์หันมารับสั่งว่า ใครจะไปรับโทรศัพท์ ผมรีบวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อไปรับโทรศัพท์ พอเปิดประตูไม้เข้าไป จึงได้เห็นอุปกรณ์เครื่องเมือแสงสีเสียงขนาดใหญ่เต็มห้อง แสงสีเขียว เหลือง แดง ส้ม วิ่งอยู่บนเครื่องเหล่านั้น จนผมยืนงงทำอะไรไม่ถูกอยู่ระยะหนึ่ง พระองค์เสด็จตามมาข้างหลังแล้วตรัสว่า “ทำอย่างนี้” แล้วทรงทำตัวอย่างให้ดู ผมตื่นขึ้นเสียก่อนในตอนนี้เอง ทั้งที่อยากฝันต่อให้จบเรื่อง”

สอบเข้ารับราชการครั้งนั้นเสร็จแล้ว กลับไปเล่าให้เพื่อนคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยฟัง เพื่อนรีบทำนายฝันทันที่ว่า “ที่พระองค์รับสั่งดังนั้น แล้วเอ็งวิ่งไปรับโทรศัพท์ทันทีแสดงว่าเอ็งไปรับตามคำสั่งพระองค์ เรียกว่ารับราชการ เอ็งสอบได้แน่นอน” ฟังแล้วเกิดความมั่นใจว่า สอบคราวนี้ได้เข้ารับราชการแน่นอน เพราะเชื่อตามที่ฝัน ผมไม่เคยมีบุญวาสนาฝันถึงพระองค์มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ฝันดี สอบถามผู้สันทัดกรณีด้านความฝัน กล่าวว่าฝันเมื่อใกล้สว่างถือว่าเป็นความฝันที่แม่นยำที่สุด เสียงของเพื่อนที่กล่าวในวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำตลอดว่า “ที่เอ็งวิ่งไปรับโทรศัพท์นั่นคือรับราชการ”

จริงดั่งว่า ผมสอบเข้ารับราชการได้ที่โรงเรียนร่มเกล้า ทองผาภูมิจังหวัดกาญจนบุรีห่างจากบ้านเกิดราวร้อยกิโลเมตร และอีกครั้งที่รู้ว่า ที่นั้นยังมิใช่ที่ทำงานอันถาวรของผม จึงสอบใหม่อีกครั้ง จึงได้มาทำงานที่ มทร รัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ครั้งแรกที่ผมสมัครเข้าไปสอนทางไกลผ่านดาวเทียม มีโอกาสเข้าไปชมห้องส่งของทางสถานีแวบแรกที่เห็นแสงสีเขียวน้ำเงินส้มแดงวิ่งไปมาอยู่บนอุปกรณ์เหล่านั้น ผมนึกถึงตอนเปิดประตูกระท่อมในป่าใหญ่ในความฝันได้ทันที เพราะว่าเหมือนกันมาก และผมสอนทางไกลผ่านดาวเทียมด้วยใจรัก ถือว่าเป็นงานที่ชอบ และอีกอย่างหนึ่ง ผมถือว่าได้ทำงานถวายพระองค์ท่านตามที่ได้รับสั่งตอนหัวรุ่งของคืนวันที่ผมฝันถึงพระองค์ จนกระทั่งได้รับโล่ผู้สอนทางไกลผ่านดาวเทียมของมหาวิทยาลัยถึงสองครั้ง (ห้าปีมีการมอบโล่ครั้งหนึ่ง)

อีกประการหนึ่งผมชอบการปฏิบัติธรรมตามแนวทางแห่งพระศาสนา แม้ว่าผมจะไม่ได้อะไรมากนัก ได้เพียงแค่การปฏิบัติธรรมเท่านั้น แต่ผมถือว่าได้ทำหน้าที่ของชาวพุทธตามฐานะของพุทธศาสนิกแล้วส่วนหนึ่ง ผมภูมิใจที่ได้เห็นพระองค์เสด็จไปกราบพระเถรานุเถระผู้เป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบดำเนินตามแนวทางสู่พระนิพพานอันเป็นอุดมการณ์สูงสุดในพระศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระอาจารย์องค์ใดที่ปฏิบัติตรงตามธรรม อยู่ใกล้หรือไกล หนทางทุรกันดารเพียงใด พระองค์จะเสด็จไปกราบนมัสการเกือบทุกองค์ ประชาชนบางกลุ่มบางคนมักจะถือเอาพระองค์เป็นเครื่องวัดว่า พระเถระรูปใดควรแก่การเคารพบูชา ต้องดูที่พระองค์ได้เสด็จไปกราบนมัสการแล้วหรือไม่

ผมเองก็เช่นกัน เมื่อได้อ่านประวัติ ได้รู้ประวัติพระเถระก็มักจะสืบค้นว่า พระองค์ได้เสด็จไปกราบนมัสการสนทนาธรรมกับพระเถระรูปนั้นแล้วหรือไม่อย่างไร เห็นภาพพระองค์กราบนมัสการพระเถระต่างๆ มากมาย หลายภาพติดตราตรึงใจไม่รู้ลืม เช่น กราบนมัสการสมเด็จพระสังฆราช ภาพที่ทรงประคองหลวงพ่อวัดประดูฉิมพลี ภาพพนมมือสนทนาธรรมกับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโย ปลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่ฤษีวัดท่าซุง หลวงปู่เกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน และองค์อื่นอีกมากมาย

แถมด้วยบทสนทนาธรรมกับพระเถรานุเถระเหล่านั้น ตีพิมพ์เผยแพร่ให้เป็นความรู้แก่พสกนิกรของพระองค์ บางครั้งมีการบันทึกเทปไว้ให้กับผู้สนใจประกอบการศึกษาธรรมอีกมากมาย เรียกว่ามีเพียงพอสำหรับผู้สนใจที่จักเดินตามรอยพระบาทของพระองค์ไปสู่เป้าหมายสูงสุดทางพระศาสนา

ระยะหลังมานี้ผมสนใจการทำไร่นาสวนผสมจึงเริ่มติดตามสืบค้น ยิ่งติดตามสืบค้นหาความรู้มากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งพบว่า บนเส้นทางเศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ พระองค์ได้ทรงให้ความสำคัญชี้แนะแนวทางไว้ให้แก่ประชาชนของพระองค์อย่างเป็นระบบ หากผู้ใดก็ตามเดินตามแนวทางที่พระองค์ทรงแนะนำไว้ เป็นอันมั่นใจได้ว่าไม่อดอยากยากจนอีกต่อไป จึงกล่าวได้ว่า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ประชาชนจงรักภักดีตลอดไป

หมายเลขบันทึก: 617450เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2016 08:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม 2016 11:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ชอบอ่านครับอาจารย์

เคลิ้มฝันว่าใฝ่อยากจะเป้นดังเช่นอาจารย์

สงบเย็น...

-สวัสดีครับ

-อ่านบันทึกนี้ด้วยความสุขครับ

-ขอบคุณครับอาจารย์

พ.แจ่มจำรัส

ขอบคุณที่แวะมาเยือนกัน สบายดีนะครับ กับชีวิตวันนี้

เพชรน้ำหนึ่ง

แปลกนะครับ คนไทยเรา เวลาคิดถึงพ่อหลวงแล้วมีความสุขกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท