น่าน...ไป ไม่รู้เบื่อ


เมื่อปี 2009 ฉันไปน่านครั้งแรก และได้ย้อนกลับไปอีกครั้ง 2 ครั้ง ปี 2013 และล่าสุดคือปี 2014
 

ข้อความในบล็อกครั้งแรกเกี่ยวกับเมืองน่าน...ฉันบอกว่า น่านเป็นเมืองคนใจดี 3 วีน2 คืนนี้ไม่พอ ครั้งนั้นฉันใช้เวลาในเมืองเป็นส่วนใหญ่

ปี 2014 แก๊งค์ไม่มีชื่อรวมตัวกันและชวนฉันไปน่านอีกครั้ง...ฉันประกาศไปว่าถ้าไม่มีสิ่งใหม่สำหรับฉัน ฉันจะคิดค่าตัวในฐานะความเบื่อวันละ 2,000 บาท ไรหล่ะ กลัวเบื่อ ดังนั้น 4 วัน 3 คืน คราวนี้เราจึงจัดเป็นวันเดินทางและพักในเมือง 1 วัน ไปท่องเที่ยวธรรมชาตินอกเมือง 2 วัน และอีกวันเก็บตกในเมืองในตอนเช้า แล้วจึงเดินทางกลับ


 

จุดสตาร์ทเราคือขอนแก่น ค่อยๆ ขับไป แวะตั้งแต่จุดโป่งช้าง น้ำหนาว แวะตามร้านกาแฟไปเรื่อยๆ ตามสูตรแวะกินก๋วยเตี๋ยวหมูเด้งแยกปากจั๊ว เด่นชัย คงจะหิวกันมากสั่งพิเศษต่อชาม 555+ มันก็แน่นและจุกท้องอ่ะจิ แวะทุ่งนาสีเขียวขจีสีสวยสดไปเรื่อยๆ คาดว่าจะเข้าน่านตอน 6 โมงเย็นในวันฝนพรำ ถนนสวย แต่ก่อนถึงน่าน 1 ชม. เราบอกเจ้าแอ้ให้โทรคอนเฟิร์มที่พักที่จองมาทางออนไลน์ผ่าน Booking.com เพื่อที่จะไม่เสียเวลาไปกินข้าวเย็น และแล้วววววจากฝนพรำก้กลายเป็นมรสุม เพราะ Booking.com ยกเลิกContact กับโรงแรมไปนานแล้ว ซึ่งน่ารักมากโรงแรมก็ได้ให้รายชื่อโรงแรมเพื่อการพิจารณาของเรา เพื่อช่วยเหลือให้เราได้ที่พัก


 


 


 

เป็นอันว่ากว่าจะได้ที่พักในคืนฝนพรำก็ทำเอาไปกินข้าวเย็นดึก จบลงที่โรงแรมน่านรอยัลรีสอร์ท บ้านไสตล์ ไทยย้อนยุค ขลิปชายคาด้วยลูกไม้แสนหวานประยุกต์ อาหารเช้าเป็นชากาแฟ และข้าวต้ม...ทำไมจึงหาที่พักยากก็ช่วงเราไปคำตอบคือ เป็นช่วงแข่งเรือและงานกฐิน ซึ่งผู้คนจะมาทุกสารทิศแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านเช่นลาว ก็มีครข้ามมาร่วมงาน สรุปว่าน่านจะมีงานแข่งเรือในวันพรุ่งนี้ เล่นเอา โรงแรมเต็มเกือบหมด


 

เช้าเราเก็บแต้มสายนอกเมืองโดยการเดินทางไปอำเภอปัว-บ่อเกลือ ระหว่างทางไปปัว มีเวลาได้แวะที่หมู่บ้านทอผ้าบ้านบัว ซึ่งเป็นการทอแบบไทลื้อ เล่นเอามีคนช้อปผ้าไปหลายชิ้น ที่นี่ปรับปรุงได้ดีมากๆกว่าตอนที่ฉันมาครั้งแรกในปี 2009 ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ คุณลุงที่เล่นดนตรีพื้นเมืองยังแข็งแรงและใช้เวลากับการให้ความสุขผ่านเสียงดนตรีแก่ผู้มาแวะเวียน


 


 

ที่ปัวเราได้มีโอกาสถ่ายรูปกับโรงบ่มในยาสูปสุด Cool ต้องขอขอบพระคุณเจ้าของ อันนี้ไปซี้ซั้วไม่ได้นะคะ ท่านไม่ได้เปิดให้ถ่ายรูปทั่วไป


 


 


 

ทางขึ้นบ่อเกลือนี่จะบอกว่าแคบมาก...หากเป็นได้อยากขับมอเตอร์ไซด์ขึ้น เพราะจะได้จอดที่นาขั้นบันได และทุ่งข้าวโพดที่งดงามได้...ฉันอยากเป็นสก๊อยต์ ภาพความสวยงามที่พบจึงถูกเก็บในความทรงจำแทนภาพถ่าย


 

บ่อเกลือเราพักมาทาง ต. ภูฟ้า ที่ บ้านริมว้า ภูฟ้า รีสอร์ท ที่พักติดลำน้ำว้าเพียงแค่ข้ามถนน คืนนั้นเรานอนดูดาว เจ้าหนุ่มหลานชายกำลังอินกับการถ่ายภาพทางช้างเผือก ระหว่างรอเราก็ฟังมันเล่นกีตาร์ไป โดยมีลูก-หลานของเจ้าของรีสอร์ทมาสร้างสีสัน...พี่ พี่ขี้ใส่เตี่ยว 5555+ ยั่วเด็กจนได้ 

มื้อเย็นเราฝากท้องที่ไว้ที่ร้านอาหาร อาหารหน้าตาธรรมดา แต่อร่อยมาก เช้าทางรีสอร์ทจัดกาแฟ และข้าวต้มไว้ให้

โลกที่นี่หมุนช้า ข้างทางมีแต่ป่า เขา ลำธาร และคนใจดี ฉันยังจำที่เด็กๆ ลูกเจ้าของรีสอร์ท อยากจะชวนฉันไปดูโรงเรียนของพวกเขาได้อยู่เลย เด็กๆ ที่นี่ยังมีเวลาช่วยพ่อแม่ทำงาน บริการแขกที่มาพัก มีความฉลาดและคล่องกับอุปกรณ์คอมฯ ในขณะที่เด็กในเมือง ยุ่งแต่เรื่องของตนและเรียนพิเศษ ก้มหน้าสาละวนกับมือถือ จนไม่ได้มีเวลาใช้ชีวิตกับกิจการงานพ่อแม่ และสิ่งที่อยู่รอบตัวเลย


 

เช้ามาเพิ่งรู้ว่า ที่ภูฟ้านี่มีกิจกรรมที่ดีที่สุดด้วย คือการล่องแก่ง...เอาไว้คราวหน้านะ...เราไม่มีข้อมูลในส่วนนี้เพราะไม่ได้วางแผนการท่องเที่ยวจริงจังนัก ว่างก็ขับรถกันมา มีแค่โปรแกรมหลวมๆ

หากตื่นเช้า เดินเล่นสูดอากาศที่สดชื่นและตักบาตร จากพระที่รับบิณฑบาตรจากบนเขา..พระจำวัดมีเพียงท่านแค่รูปเดียว ศรัทธาจึงเป็นเรื่องที่น่าค้นหามาก หากตื่นสายก็นอนเกลือกลิ้งกับที่นอนแบบไม่เร่งรีบ มองผ่านหน้าตาให้สายตาสัมผัสธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัว ฟังเสียงนกร้อง...แบบที่หายากในเมือง
 


 

เสร็จภารกิจส่วนตัวในช่วงเช้า เราร่ำลาเพื่อนตัวน้อยและเจ้าของรีสอร์ทแล้ว เคลื่อนทัพแบบสบายๆ แวะไปเที่ยวโครงการภูฟ้าพัฒนาในพระราชดำริ และย้อนกลับไปที่บ่อเกลือกันหน่อย 
 


 

อ่ะที่นี่แหลาะบ่อเกลือ เมืองแห่งการทำเกลือสินเธาว์


 


 


 


 

ที่นี่มีการทำเกลือสินเธาว์มาตั้งแต่โบราณ นับเป็นทรัพยากรสำคัญของเมืองในหุบเขา มีผลไม้ประจำฤดูกาลที่ไม่อยากให้พลาด นั่นคือลูกเขาควายดอง เป็นผลไม้ป่า รสเปรี้ยวกินแล้วสดชื่น เหมาะกับคนเมาโค้งได้ดี ลองชิมนะคะ


 

คณะเรามีเวลาอยู่ด้วยกันและเรียนรู้ระหว่างกันมากขึ้น ฝากท้องมื้อเที่ยงที่ร้านบ่อเกลือวิว ถ้าไม่ติดอะไรอยากให้แวะค่ะ...อาหารอร่อยม๊าก...จัดจานสวย...ฟิวชั่นมากมาย และวิวสวย นั่งจิบกาแฟชมวิวได้แบบไม่เสียดายเวลา
 


 


 

ขากลับมาเราลงจากบ่อเกลืออีกทาง ถนนยาว และอากาศที่ร้อนในตอนกลางวัน ทำให้เราหมดแรง บอกแล้วว่าเราเดินช้า เราแวะกันไปเรื่อยกับป่า ภูเขา ลำธาร และฟ้าใส


 


 


 

ขับมาพักหนึ่งคนต้องการกาแฟและเสฟศิลป์เพื่อพักร่างกาย รถก็ต้องการพักแรง เราจอดสนิทที่หอศิลป์ริมน่าน และเราก็ได้พบศิลปินผู้เป็นเจ้าของอีกครั้ง...คุณวิชัย ปราบริปู ที่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง ไปสองครั้งพบเจ้าของทั้ง 2 ครั้ง อิอิ และแล้วที่นี่ฉันเพิ่งค้นพบว่าสติฉันไม่อยู่กับตัว ด้วยทำรองเท้าหายไป 1 ข้าง...สงสัยเขี่ยตกรถแน่ๆ...เป็นที่ถูกประนามหยามหยันจนมาถึงทุกวันนี้
 


 


 


 


 

บ่ายแก่มากๆ เข้าถึงเมื่องเพื่อเที่ยววัดให้บริเวณข่วงเมือง วัดพระธาตุเขาน้อย และไปดูแสงสุดท้ายที่พระธาตุแช่แห้ง กลับมาหาของกินประเภทลาบ หลู้ จำชื่อร้านไมไ่ด้ แต่ได้กลิ่นอายเครื่องเทศในอาหารพื้นเมือง...เราเริ่มถึงเมืองน่านแล้ว


 

หลังจากนั้นภารกิจช้อบ และชมตลาดไนท์ หรือถนนคนเดิน ของขึ้นชื่อคือผ้าพื้นเมืองทำให้เงินในกระเป๋าออกมาเต้น 555+ ถนนคนเดินแห่งนี้จัดบริเวณถนนหัวข่วง นอกจากการดูวิถีชีวิตของผู้คนแล้ว ยังได้ชมวัดที่สวยงามท่ามกลางการตกแต่งไฟในยามค่ำคืนอีกด้วย อาทิ วัดภูมินทร์


 

เดินพอเหงื่อซึมชวนกันไปกินของหวานขึ้นชื่อที่ร้านป้านิ่ม กินของหวานตอนดึก ที่นี่มีีขนมหวานแบบร้อน เช่นพวกแกงบวด ขนมหวานแบบเย็น เช่นพวกรวมมิตร และไอติม…กินได้หลานถ้วยเลย

กินของหวานแล้วนอนหลับฝันดี วันนี้เรานอนกันที่ศศิดารารีสอร์ท ทางไปพระธาตุเขาน้อย ในโรงแรมมีโรงงานทำเครื่องเงิน เราได้เครื่องเงินเนื้อดีจากร้านจำหน่ายของที่ระลึกมากันคนละชิ้นสองชิ้น ที่พักสวยและยังรักษาความสงบได้ดี ปี 2009 ฉันก็พักที่นี่...อาหารอร่อยด้วยนะ
 


 


 

 

พรุ่งนี้เราคงต้องโบกมือลาเมืองน่านกันแล้ว ก่อนกลับตื่นเช้าหน่อยให้เด็กๆ ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองน่าน ฉันนอนแผ่รอที่นั่งรอที่ทำจากแผ่นไม้ขนาดใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์จัดไว้ และกองทัพต้องเดินด้วยท้องเราขอกินอาหารพื้นเมืองประเภทข้าวซอยที่ร้านเล็กๆ ชื่อ “ร้านกิ๋นเส้น” ติดกับคุ้มเมืองมินทร์ (ที่พักสวยปี 2013 ฉันพักที่นี่) ร้านเปิด 10.30 น.เป็นต้นไป บ่ายๆ ก็หมดแล้ว
 


 

คงต้องกลับมาใหม่-อีกครั้ง...ฉันว่าเวลาแค่นี้ก็ยังทำให้ฉันรู้จักเมืองน่านไม่ครบรส


 

หมายเลขบันทึก: 616078เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2016 18:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม 2022 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท