พระพุทธองค์ตรัสว่า กายนี้ไม่ใช่ของเธอทั้งหลายและไม่ใช่ของบุคคลเหล่าอื่น กรรมเก่า คือกายนี้ อันเธอทั้งหลายพึงเห็นว่า เป็นสิ่งที่ปัจจัยปรุงแต่งขึ้นเป็นสิ่งที่ปัจจัยทำให้เกิดความรู้สึกขึ้น เป็นสิ่งที่มีความรู้สึกต่ออารมณ์ได้ เพราะฉะนั้นพวกเราจึงควรตระหนักในพุทธวจนะนี้ "กายนี้เป็นกรรมเก่า" ปรากฏในเรื่องราวของปฏิจจสมุปบาท ในพระสูตรที่ ๑๐ แห่งตถาคตภาษิตนี้แล
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
อวิชชา หุ้มห่อ เกิดสังขาร
สังขารเป็นปัจจัยให้วิญญาณ
วิญญาณสานก่อกำเนิดเกิดรูปนาม
นามรูปนี้ทำให้มีสฬายตนะ
ทั้งนอกในให้ผัสสะเกิดหลากหลาม
เพราะผัสสะเป็นปัจจัยงามไม่งาม
เวทนาจึงเกิดตามต้นเหตุพา
เวทนา ทุกข์ สุข หรือเฉยเฉย
นี่แหละเลย เป็นปัจจัยให้ตัณหา
เพราะตัณหา อุปาทาน จึงเกิดมา
ยึดมั่นว่าจะเป็นเช่นนั้นนี้
อุปาทาน เป็นปัจจัยให้มีภพ
ทั้งไตรภูมิ บรรจบ กรรมวิถี
เพราะมีภพ ดารดาษ ชาติจึงมี
เป็นชีวี ในวงวัฏ สัตวโลกเรา
เพราะมีชาติ เป็นปัจจัย ยิ่งใหญ่แท้
จึงมีแก่ ตาย โศก คร่ำครวญเศร้า
ทุกข์เหลือทน ล้นใจ ไม่บรรเทา
อุปายาสะเข้า คับแค้นทรวง
เป็นกองทุกข์ คลุกเคล้า เนาในชาติ
จะสามารถ ดับอย่างไร ให้หายห่วง
ต้องดับเหตุ ตัวต้น พ้นทั้งปวง
คือดับดวง อวิชชา ฆ่าเขลาครัน
ครูพิสูจน์ ใจเที่ยงกุล ร้อยกรองจากหนังสือตถาคตภาษิต ของวัดสองพี่น้องพระอารามหลวงร่วมกับโรงเรียนบางลี่วิทยา
รักเลย
ฮ่าๆ
ว้าว
เศร้า
โกรธ
แสดงความคิดเห็นไม่มีความเห็น