วันที่ 8 สิงหาคม 2559 - ปลายทางที่น้ำตกกรุงชิง
วันนี้เราจะไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวงและน้ำตกกรุงชิง เราตื่นกันแต่เช้าตรู่ กินอาหารเช้าพร้อมกันที่บ้านพัก นาฏและพี่เหลิมเตรียมอาหารกลางวันให้พวกเราเป็นข้าวเหนียวหมูทอดและซาลาเปาใส้หมู แพ็คใส่ถุงซิปล็อกอย่างเรียบร้อย (ตามสไตล์เภสัชกรดีเด่นภาคใต้) แจกให้ทุกคนพกไปของใครของมัน
เราตั้งใจจะออกเดินทางกันตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-06.30 น. แต่ได้ออกจริงเกือบ 07.00 น. แถมเมื่อออกจากมหาวิทยาลัยถึงถนนใหญ่แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าลืมกล้องส่องดูนก ต้องวกกลับไปเอาที่บ้านพักอีกครั้ง การเดินทางราบรื่นดี ไปถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณแปดโมงกว่า เมื่อไปจ่ายเงินค่าเข้าอุทยานฯ ผู้สูงอายุแบบดิฉันไม่ต้องเสียเงิน อาจารย์ต่ายมาบ่อยเขาก็ไม่เก็บเงิน
เราดูนกในบริเวณรอบๆ อุทยานฯ ก่อน ช่วงนี้นกไม่คึกคักมากเท่าตอนที่มาเมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีลูกไทรและลูกตะขบมากมายเป็นอาหารของนก ดูนกยากหน่อยเพราะเขามักอยู่ตามต้นไม้ใบหนาสีก็กลมกลืนกันด้วย ดิฉันถ่ายภาพนกได้ 3 ตัว เป็นนกปรอดคอลาย นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า และอีกตัวสีเขียวๆ ไม่แน่ใจว่าใช่เขียวก้านตองเฉยๆ ไหม เพราะเห็นใต้คอดำๆ ไม่ชัด
ปรอดคอลาย (Strip-throated Bulbul)
เขียวก้านตองปีกสีฟ้า (Blue-winged Leafbird)
น่าจะเป็นเขียวก้านตอง อยู่หล้งกิ่งไม้ที่ระเกะระกะ
เรียงแถวส่องนก
เราไม่มีเวลาส่องนกมากนักเพราะจุดหมายปลายทางอยู่ที่น้ำตกกรุงชิง ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 4 กม.
บริเวณใกล้ๆ ที่ทำการอุทยานฯ
ความงามเมื่อแสงต้องใบและก้านช่อดอกหลาวชะโอน
พร้อมออกเดินเท้า
พวกเราเริ่มออกเดินเมื่อ 09 น.กว่าเล็กน้อย ระหว่างทางแม้จะได้ยินเสียงนกร้องแต่ก็ไม่เห็นตัวเพราะต้นไม้เยอะและสูง มีเสียงนกหว้าที่ชอบกวาดลาน อาจารย์ต่ายบอกว่าค่าคนพาไปดูตกวันละ 5,000 บาท/คนและต้องมาเฝ้าคอยตั้งแต่ยังไม่สว่าง ทางเดินมีบางช่วงที่เป็นสะพานไม้เล็กๆ ที่บางแห่งมีแผ่นไม้ที่ผุพังไปบ้าง บางช่วงก็ค่อนข้างชัน เล่นเอาคนเดินต้องหยุดพักเป็นช่วงๆ คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายจริงจังแบบดิฉันมีเหงื่อเปียกแบบ “อาบเหงื่อต่างน้ำ” กันเลย
ทางเดินในป่า
เราไปถึงศาลาดงชิงเกือบสิบโมงครึ่ง น้องๆ ได้นั่งพักดื่มน้ำและกินซาลาเปาเพิ่มพลังกายใจในการเดินต่อไป การเดินไม่ต้องเกาะกลุ่ม ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมีเส้นทางเดียว ไม่มีทางแยก
ศาลาดงชิง
เส้นทางต่อไป
วัลลา ตันตโยทัย
บันทึกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2559
ไม่มีความเห็น