10-15 สิงหาคม 2559 ท่านพีระพล สาครินทร์ อดีตอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ได้พาผมเข้ากรุ๊ปเดินทางไปดูการบริหารจัดการเมืองโบราณฟ่งหวงเป็นเขตปกครองตนเองของชนเผ่าถูเจีย(หนึ่งใน 56 ชนเผ่า)ของจีน เมืองนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลหูหนาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำถัวเจียง ล้อมรอบด้วยขุนเขาเสมือนด่าน ช่องแคบภูเขา ที่เด่นตระหง่านมียอดเขาติดต่อเป็นแนว มีโบราณสถานและโบราณวัตถุทางด้านวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่ตกทอดมาจากราชวงศ์หมิงและชิงหลายร้อยแห่งมีถนนที่ปูด้วยหินเขียว 20 กว่าสาย ในอดีตจากจางเจียเจี้ยมาถึงฟ่งหวงใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 8-10 ชั่วโมง เมื่อประธานาธิบดีเจียงเจอหมินเดินทางมาถึงฟ่งหวง ได้ดำรินำความเจริญเข้าสู่ฟ่งหวงการเดินทางมาตามทางด่วน 3 ชั่วโมงครึ่งเพราะเหมือนเหาะมาเพราะทางด่วนจางเจี่ยเจี้ย-ฟ่งหวงสร้างลอยฟ้ามาตลอดทางเพราะผ่านหมู่บ้านต่างๆมาเป็นถนนยกระดับปักตอหม้อบางแห่งสูงกว่าร้อยเมตรผ่านภูเขาเจาะทะลุภูเขามาตลอดทาง เป็นเส้นทางโลจิสติกส์ทั้งขนคนและสินค้า มาถึงฟ่งหวงต้องจ่ายค่าเข้าคนละประมาณ 250 หยวนเป็นเงินบาทเอา 5.3 คูณ ตกคนละประมาณ 1,325 บาท เมืองนี้เป็นสองฝั่งของแม่น้ำถูเจียง เข้าประตูก็จะเจอคนแก่เล่นไพ่ซี่เซ็ก และเล่นไพ่นกกะจอกแบบเป็นไพ่กระดาษ เป็นกลุ่มๆ บางกลุ่มร้องเพลงเกี้ยวระหว่างชาย-หญิงเป็นกลุ่มๆ คณะพาลงเรือแจวเหมือนเรือในเวนิส คนแจวร้องเพลงเป็นช่วงๆกล่อมคนนั่ง ที่นี่ห้ามใช้เรือติดเครื่องใช้น้ำมันเด็ดขาด ขนาดเรือตำรวจน้ำยังเป็นเรือใช้แบตเตอรี่ นั่งเรือไปจะมีคนพายเรือคอยตักขยะเป็นช่วงๆ ในแม่น้ำห้ามตกปลา ไม่มีไซนั่ง ไซหนอน หรือเครื่องดักสัตว์น้ำใดๆ บ้านเรือนริมฝั่งไม่มีการปล่อยน้ำเสียหรือน้ำใช้ในครัวเรือนลงแม่น้ำ(ทำให้คิดเปรียบเทียบกับทะเลสาบสงขลาหากทำได้ชาวบ้านจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมหาศาล สอบถามไกด์ท้องถิ่นบอกว่าร้อยละ80 มาจากการท่องเที่ยว) พอเข้าถึงที่พักก็ออกมาชมความงามสองฝั่งและหากาแฟท้องถิ่นทาน พอตกเย็นสองฝั่งเปิดไฟสว่างไสว นักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่แทบไหลตามคลื่นคน มีร้านท้องถิ่นขายสุราพื้นเมืองทำให้คิดถึงเหล้าตะเครียะ(ผมเรียกตะครีรียะ หรือตะเครียร่า)ของจังหวัดสงขลา เลยถ่ายรูปมาเป็นตัวอย่างประตูทางเข้าสภาพบ้านโบราณลำน้ำถูเจียงร้านกาแฟในท้องถิ่นกับจุดขายสุราพื้นเมือง
น่าไปศึกษาหาความรู้มาก
จำได้ตอนมาอยู่ใต้ใหม่ๆงงชื่อตะเครียะ
จำได้ว่าเหล้าที่นี่ใสเหมือนตาตั๊กแตน
รออ่านอีกครับ