เช้ามืดวันจันทร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ผมขับรถออกจากโรงแรมแพรพิมพาลัย ข้ามสะพานไปยังฝั่งศูนย์ราชการ และอุทยานประวัติศาสตร์ไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ส่วนอรัญญิก หรือส่วนนอกกำแพงเมือง เป็นการฉายเดี่ยวชมอุทยาน ประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเช้าที่สอง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงวันนี้วางแผนชมส่วนนอกกำแพงเมือง ซึ่งก็ได้เกินคาด
ผมหยุดรถถ่ายรูปเป็นระยะๆได้ทำความเข้าใจกำแพงเมืองและคูเมืองที่เวลานี้กำแพงเมืองส่วนหนึ่งยังค่อนข้าง สมบูรณ์ มีประตูเมืองเป็นระยะๆ ผมผ่านประตูบ้านโนนที่ป้ายบอกว่าเป็นป้อมด้วยประตูดั้น ที่ถนนสมัยใหม่ตัดผ่าน ผมไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบกำแพงเมือง ที่มีทางรถจักรยานด้วยมีรถจักรยานไปขี่อยู่บ้างถนนอ้อมไปเรื่อยๆ จนไปออกบริเวณประตูดั้นเท่ากับผมขับรถเวียนบนถนนในกำแพงเมืองส่วนหนึ่ง
ผมจึงไปตั้งต้นใหม่ ขับเลยป้ายที่ทำให้สับสนตรงไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ก่อนเข้าประตูอุทยานมีวัดดงอ้อย วัดสระแก้ว เข้าไปจอดรถแล้วออกไปเดินชมแบบมองภาพรวม และเข้าไปชมวัดฆ้องชัยแบบลงรายละเอียดข้อมูลใน QR code ที่เราใช้โทรศัพท์มือถือสแกน ด้วย QR Reader แล้วฟังคำอธิบายสั้นๆ ช่วยความเข้าใจดีมาก วัดฆ้องชัยอยู่ตรงข้ามกับวัดพระนอน กับวัดพระสี่อิริยาบท วัดเหล่านี้วางแนวตะวันออกตะวันตกทั้งสิ้น
ในเมืองที่วัดอยู่ติดๆ กันสมัย ๔ - ๕ ร้อยปีก่อน ที่คนไม่มาก น่าจะสะท้อนภาพวิถีชีวิตคนสมัยนั้น ว่าผูกพันกับวัด อย่างใกล้ชิดคล้ายกับชีวิตของคนสมัยปัจจุบันที่คนเมืองคงจะผูกพันกับศูนย์การค้าเป็นหลักเราคงเดาไม่ถูกว่าคนในอีกร้อยปี ข้างหน้า จะมีวิถีชีวิตผูกพันกับอะไร
เวลา ๘.๓๐ น. เราออกเดินทางตรงไป อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยไปถึง ๑๐ น.เอารถเข้าไปราคาคันละ ๕๐ บาทค่าผู้เข้าชมที่ไม่ใช่ผู้สูงอายุคนละ ๒๐ บาทอายุเกิน ๖๐ เข้าชมฟรีราคานี้เหมือนที่กำแพงเพชรเข้าไปก็ถึงจุดเด่นที่สุด คือ วัดมหาธาตุ ที่มีพระเจดีย์มหาธาตุยอดทรงข้าวบิณฑ์สูงเด่นเป็นสง่าและมีพระพุทธรูปนั่งขนาดใหญ่อีกมากมาย
เราวนเวียนอยู่ภายในเขตอุทยานจุดแวะถัดไปคือ วัดศรีสวายวัดตระพังเงินอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราชวัดชนะสงครามวัดสระศรี แล้วออกจากบริเวณชั้นในของอุทยานไปยัง วัดศรีชุม
วัดศรีสวาย มีจุดเด่นคือปรางค์สามองค์ คล้ายที่ลพบุรีเป็นหลักฐานว่าศรัทธาในประวัติศาสตร์ไทยเป็นศรัทธาผสม ของหลายศาสนา และได้รับอิทธิพลศาสนาฮินดูจากขอม
เราไปถึง วัดศรีชุม เกือบเที่ยง แดดจ้า อากาศร้อนไปเห็นพระพักตร์ของพระพุทธอจนะแล้วเย็นชุ่มฉ่ำในหัวใจ
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนี้กว้างขวางมาก สมเป็นอดีตราชธานี ส่วนที่อยู่ภายในเขตชั้นในที่เก็บค่าเข้าชมเป็นส่วน นิดเดียว เมื่อเทียบกับพื้นที่ ๗๐ ตารางกิโลเมตรคนที่ไปเที่ยวนิยมเช่าจักรยานถีบไปชมสถานที่ต่างๆ ทั้งชั้นในและชั้นนอก คนที่ถีบจักรยานส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง มีทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ และเด็ก หากเที่ยวอย่างละเอียด อ่านคู่มือไปด้วย น่าจะช่วยให้เข้าใจชีวิต ความเป็นอยู่ของคนสมัย ๔ - ๕ ร้อยปีก่อน ผมไม่ทราบว่ามีคู่มือดังกล่าวหรือไม่เพราะที่เขาแจกตอนซื้อบัตรผ่านประตู เป็นแผนที่แผ่นเล็กๆ หยาบๆ เท่านั้นผมรู้สึกว่าที่นี่ข้อมูลที่ให้ตามสถานที่ต่างๆ ดีสู้ที่กำแพงเพชรไม่ได้แต่เราไม่ได้แวะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนะครับหากแวะอาจได้เอกสารคู่มือนำชมที่ดีก็ได้
ผมคิดว่า หากจะเที่ยวแบบลงรายละเอียด ต้องไปตอนเช้ามืด และตอนเย็นซึ่งก็ต้องไปพักใกล้ๆ อุทยาน
ลูกสาวค้นที่กินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแบบดั้งเดิม ได้ ร้านเจ๊แฮ ห่างจากอุทยานไปทางตัวจังหวัดสุโขทัย ๑๒ กิโลเมตร“เลขา” ใช้ Google Map นำทางไปถึงเที่ยงพอดี คนแน่นมากเขาติดป้ายบอกว่าเส้นบะหมี่ทำเองผมสั่งบะหมี่ต้มยำกับกระดูกหมูตุ๋นอร่อยทั้งคู่ แต่บะหมี่ต้มยำหวานจัดไปหน่อย ร้านนี้ใหญ่มาก น่าจะรับลูกค้าได้คราวละถึงสองร้อยคน
แต้วต้องการซื้อ ถั่วทอดลอนศิลป์ ๒๐๐ ปี (ครูแจ๋ว)ตอนแรกว่าจะขับรถไปซื้อที่อำเภอศรีสำโรงห่างออกไป ๒๐ กิโลเมตรแต่เมื่อถามที่ร้านเจ๊แฮ จึงรู้ว่ามีขายที่ร้านของฝาก ต้นเงิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลขากร้านเจ๊แฮเราจึงไปที่นั่นและซื้อของฝาก กันมาหลายอย่าง
ตอนแรกว่าจะไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยแต่เช็กระยะทางพบว่ากว่า ๖๐ กิโลเมตร จึงชวนกันกลับ ไปพักผ่อนที่โรงแรมโดยแวะชม น้ำพุร้อนพระร่วง เสียก่อนนำทางโดย Google Mapไปลองเอาขาแช่น้ำแร่อยู่ราวๆ ๑๕ นาทีพบว่าสบายดีมากหากได้นอนแช่คงจะดีไม่น้อย
เราชวนกันไปกิน เฉาก๊วยชากังราว ตามที่เห็นป้ายร้านในเมืองกำแพงเพชรตรงวงเวียนซึ่งไม่ใช่ที่โรงงานผลิตตามที่ บอกในลิ้งค์ แต่เราก็รู้สึกว่าอร่อยเป็นพิเศษ เพราะคนขายถามว่าเราต้องการกินแบบหวานน้อยหรือเปล่าเมื่อเราตอบว่าใช่ เขาก็ตัดถุงเทน้ำหวานออกครึ่งหนึ่งตักน้ำแข็งใส่แก้วพลาสติก เทเฉาก๊วยในน้ำเชื่อมลงไปใส่หลอดดูด และช้อนตักเฉาก๊วยเราซื้อชนิดเป็นแพ็ค ๕ ถุง และ ๑๐ ถุงมาด้วยราคา ๕๐ และ ๙๐ บาทตามลำดับความรู้ใหม่สำหรับเรา (ตามในอินเทอร์เน็ต) เฉาก๊วยที่อร่อยจริงๆ ต้องผลิตใหม่ๆ
กลับมาพักผ่อนที่โรงแรมพอ ๑๗.๓๐ น. ก็ไปกินอาหารเย็นตามคำแนะนำของตั้ม ที่ร้านอาหารเยอรมันชื่อ Oasis โดย “เลขา” ใช้ Google Map นำทางเช่นเคย เราสั่งอาหาร ๔ อย่าง คือ ไส้กรอกเยอรมันหลากชนิด, ผักโขมอบชีส, ขาหมูเยอรมัน, และพิซซ่าตั้มกับผมดื่มเบียร์เยอรมันยี่ห้อ Paulaner คนละแก้ว ๕๐๐ ซีซีรวมจ่ายเพียง ๑,๒๐๐ บาทโดยที่ค่าเบียร์แก้วละ ๑๗๐ บาทค่าอาหารไม่แพงเลย
วิจารณ์ พานิช
๑๙ ก.ค. ๒๕๕๙
ห้องแสนเสน่ห์โรงแรมแพรพิมพาลัยกำแพงเพชร
2 ถนนและลู่จักรยานเลียบกำแพงเมืองกำแพงเพชร
3 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดมหาธาตุ
8 วัดศรีสวาย
9 วัดตรัพังเงิน
10 สั่นกระดิ่งพ่อขุน ขอความเป็นธรรมที่สามีทอดทิ้งไปทำงาน
11 วัดชนะสงคราม
12 วัดสระศรี
13 วัดศรีชุม
14 บ่อน้ำร้อนพระร่วง
15 แช่น้ำแร่แล้วสบาย
16 ร้านต้นเงิน
17 กินอาหารเยอรมัน ร้าน Oasis
ไม่มีความเห็น