วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าค่าย PREP CAMP ของโรงเรียน
ทั้งกังวลและตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าค่ายในครั้งนี้
ค่ายนี้ทางโรงเรียนได้จัดให้นักเรียนในระดับประถมศึกษา เป็น่ายที่มีความสอดคล้องกับ STEM Education
เริ่มลงทะเบียนกันตั้งแต่ 08.00 - 08.30 น.
เด็ก ๆ เริ่มเข้าแถวลงทะเบียน มีทั้นเด็กไทยและลูกครึ่ง ค่ายนี้จึงเน้นภาษาอังกฤษ และให้ Teacher เป็นผู้ดำเนินงานหลัก CR. picture by https://www.facebook.com/wachirawitschool/
เมื่อลงทะเบียนเสร็จก็ให้นักเรียนเดดินเข้าแถวไปยังห้องประชุมบุษราคัม เพื่อทำกิจกรรมนันทนาการก่อนไปวนฐานเรียนรู้
Teacher Adam เป็นผู้เริ่มการแนะนำตัวและสันทนาการ
ตามมาติด ๆ กับ Teacher Chris
Teacher Keron
Teacher Crieg
พวกเราเองก็มีโอกาสได้จัดกิจกรรมนันทนาการร่วมกับ Teacher และนักเรียน โดยมีการตบมือค่าย และ เต้นประกอบเพลงอมตะที่เด็ก ๆ ชอบนั่นก็คือ Chicken Dance
ดูท่าทางครูจะสนุกกว่านักเรียน
จากนั้นเราก็เเบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่มแบบคละชั้น แล้วให้นักเรียนเวียนฐานให้ครบทั้งหมดทั้ง 4 ฐาน
ฐานที่ 1 เป็นฐานของ Teacher Chris มีกิจกรรม finger print and secret message
ลายนิ้วมือของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่แยกได้ประมาณ 3 รูปแบบ
มาดูกันว่าของเเต่ละคนนั้น เป็นรูปแบบใด (ส่วนตัวเป็นแบบที่ 2 ค่ะ)
สร้างข้อความลับด้วย breaking Soda และเฉลยข้อความด้วยน้ำผลไม้
ข้อความลับที่ครูเเค่ขอดู ก็รับรู้ได้อย่างง่ายดาย
ฐานที่ 2 เป็นของ Teacher Adam ฉันไม่ค่อยรู้รายละเอียดของฐานอื่นสักเท่าไหร่ เพราะเป็นผู้ช่วยอยู่ฐานของ Teacher Chris
การทดลองกระเเสไฟฟ้าที่ได้จากผลไม้
การเกิดพายุ
การเทน้ำด้วยเส้นเชือก
ฐานที่ 3 เป็นของ Teacher Crieg เป็นฐานที่เกี่ยวกับการมองเห็นและการวัดสายตาของเด็ก ๆ
กิจกรรมการวัดสายตาให้เด็ก
ฐานที่ 4 เป็นของ Teacher Keron เป็นฐานที่เกี่ยวกับการทำกังหันลม
เด็ก ๆ สนุกสนานกับการเป่ากังหันลม
เด็ก ๆ ได้ลงมือทำกังหันลมของตนเอง
หลังจากที่เวียนครบจน 4 ฐานทั้งวันเเล้ว ก็มีการสรุปความรู้ สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ พรเอมกับกิจกรรมนันทนาการก่อนกลับบ้าน
นายแบบประจำโรงเรียน Jupiter
ตาเป็นประกายของเด็ก คือความสุขของครู
เด็กยังเต็มที่ แล้วครูจะไม่เต็มที่ได้อย่างไร
การมาฝึกงานในวันนี้ ได้เรียนรู้ว่า เด็ก ๆ ชอบลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บางครั้ง ทฤษฎีก็ไม่สำคัญเท่ากับทักษะต่าง ๆ ที่เขาได้รับ ระหว่างที่เดินทางไปยังทฤษฎีเหล่านั้น
การเข้าค่ายในครั้งนี้นอกจากจะได้เทคนิคการจัดกิจกรรมเเบบต่าง ๆ ทั้งแบบ STEM และกิจกรรมนันทนาการเเล้ว ยังทำให้ฉันรู้จักนักเรียนของตัวเองได้อย่งเป็นธรรมชาติ นี่ก็จำชื่อนักเรียนได้เกือบ ๆ ครึ่งละ ถือว่าเป็นการเก็บข้อมูลนักเรียนไปในตัว
วันนี้ฉันได้เรียนรู้ว่า การเป็นคนที่ ดีที่สุด เก่งที่สุด ไม่สำคัญสำหรับฉัน ฉันต้องการเป็นคนที่เก่งขึ้น ดีขึ้น ซึ่งมันจะนำมาซึ่งความสุขที่มากขึ้นของฉัน
เมื่อใดที่มีคำว่าที่สุดมาต่อท้าย ไม่ได้แปลว่าเรานำหน้า หรือเหนือคนอื่น แต่แปลว่า เราพัฒนาไม่ได้แล้ว
กิจกรรมน่ารักมากครับ ;)...
มีความสุขไปด้วยค่ะ
ตามมาเชียร์
กิจกรรมแบบนี้
นักเรียนได้เรียนรู้จริงๆ
พยามเรียนรู้มากๆ
ตอนไปเป็นครูจะได้ทำได้ครับ