หากเป็น AAR (After Action Review) ด้านการศึกษา น่าจะแบ่งพิจารณาเป็น ๓ ด้านตามเป้าหมายการศึกษา ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้านเจตคติ และจะให้ดีควรมีกิจกรรมให้สะท้อนทั้ง ๒ ระดับ คือ ระดับคิด (cognitive) ระดับระลึกรู้ (meta-cognitive) บันทึกนี้ขอ AAR เฉพาะด้านความรู้ระดับคิด ที่นิสิตใหม่ชาวค่ายทุกคนได้เรียนรู้ร่วมกัน
ฟังบรรยายจากวิทยากรจากศูนย์ประสานงานมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ
วันที่ ๔ เมษา ศูนย์ประสานงานปิดทองฯ ใช้บริเวณด้านหน้าศูนย์ฯ เป็นพื้นที่บรรยายให้ความรู้ ตอนนี้ศูนย์ประสานงานกำลังปรับปรุงใหม่ ให้มีศาลาพิธีการสูงโปร่ง และสำนักงานประสานกับชุมชน ดังรูป
(เอารูปให้ดูเผื่อคุณครูจะพาเด็กๆ ไปเรียนรู้ภาคสนามใกล้บ้านครับ)
"นักเรียน" พร้อม....
วิทยากรก็พร้อมครับ ... ขอบคุณท่านทั้งสองครับ ให้ความรู้กับน้องๆ อย่างไม่กั๊กความรู้ และยังดูแล จัดให้วิทยากรเกือบทั้งหมด ๗ ท่าน ไปอธิบายให้ความรู้ที่แปลงสาธิตทั้ง ๓ แปลงด้วย ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ท่านบรรยาย
แปลงเกษตรตัวอย่าง ๓ แปลงที่นำมาแสดงให้นิสิตได้เรียนรู้นี้ เป็นแปลงล่าสุดที่ทางวิทยากรจากปิดทองเป็นผู้เลือกให้ มีเพียงแปลงสุดท้าย ๑ ไร่ ๑ แสนของพ่อเรืองศิลป์ที่เราร้องขอให้เพิ่มเติมเข้ามา
หลังจากฟังบรรยายได้เห็นภาพรวมและวัตถุประสงค์แล้ว ต่อมาเป็นการพานิสิตลงพื้นที่สำรวจรอบที่ ๑ ให้ทุกคนใด้เห็นแปลงเกษตรทั้งหมด ... ขอเล่าด้วยภาพนะครับ ผู้สนใจโปรดเดินทางไปพื้นที่โครงการฯ จะดีกว่า
แปลงที่ ๑
พ่อเกษตรกรท่านนี้ แต่ก่อนเคยมีหนี้สินพ้นตัว อยู่บ้านหลังกระต๊อบ แต่มีรถกระบะขับ นอกจากทำนาแล้ว ยึกอาชีพเอารถไปรับของมาขาย โชคร้ายเจออุบัติเหตุรถคว่ำ ทำให้ตนเองขาเจ็บ ต้องพักรักษาตัว ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนค่างวดรถได้ (พอเล่ามาถึงตรงนี้ น้ำตาพ่อก็เอ่อไหลออกมา... ผมจึงถามตรงๆ ได้ความว่า เพราะน้อยใจในโชคชะตา) เหลือเพียง 6 งวด จะได้เป็นเจ้าของรถ ... พ่อต้องจำใจขายรถราคาถูกกว่าครึ่ง ตัดสินใจนำเงินที่ได้มาลงทุนกับ "เกษตรผสมผสาน" โชคดีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มาเจอ ได้เข้าช่วยเหลือด้านความรู้และหลักวิชา จึงมาถึงวันนี้ วันที่ท่าน "อยู่รอด" และ "พออยู่พอกิน"
ท่านอยู่รอดเพราะในสวนของท่าน มีผักพืชหลากหลายชนิด ไม่ต้องซื้อกินทั้งหมดเหมือนแต่ก่อน
พออยู่พอกิน มีรายได้ต่อเนื่องจากการเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เลี้ยงจิ๊งหรีด
แปลงที่ ๒
แปลงที่นี้เป็นของพ่อเรืองศิลป์ ยุบลมาตย์ หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรตัวอย่าง ท่านทำแปลงเกษตรผสมผสาน (๑ ไร่ ๑ แสน) บนเนื้อที่ ๑ ไร่ ๒ งาน
นักเรียนทุนพอเพียง ได้ถอดบทเรียนชีวิตของพ่อเรืองศิลป์ไว้อย่างน่าอ่าน ผมสรุปคัดลอกไว้ในรายงานตามบันทึกนี้ครับ
แปลงที่ ๓
แปลงนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้ำที่หนองเลิงเปือย แต่เป็นเกษตรกรที่มีศักยภาพซึ่งอยู่ห่างออกไปจากหนองเลิงเปือยหลายกิโล แปลงสาธิตนี้สะท้อนเห็นลักษณะการทำงานของมูลนิธิฯ ที่เน้นส่งเสริมคนที่มีศักยภาพ คนขยัน ไม่ใช่เข้าไปช่วยเหลือแบบ "เอาปลาไปให้" แต่เป็นการเข้าไปช่วยฝึกให้หาปลา
ช่วยหนุนให้มีบ่อน้ำ
ช่วยให้มีความรู้หลักวิชาการ และช่วยหนุนสร้างโรงเรือน
ให้ความรู้และช่วยวางระบบน้ำ
ให้ความรู้และช่วยให้กล้าทดลองปลูกพืชใหม่ๆ
เมื่อครบ ๓ แปลง เราก็กลับที่พัก และรวมกันหลังอาหารเย็นเพื่อสรุปและแบ่งกลุ่ม
สุดท้ายคือ AAR ประจำวันของเหล่าชาวพี่เลี้ยงค่าย
ไม่มีความเห็น