จิตสำนึก...ฝึกฝันมั่นใจ


ขอบพระคุณกรณีศึกษาที่เปิดใจ ตั้งใจ และใส่ใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้การสั่งจิตใต้สำนึกด้วย Disney Creativity Strategy, Belief Assessment และ Value Elicitation & Prioritization

รอบหนึ่ง การยืนในท่า Dreamer

คุณต้องการทำอะไร: ค้าขายที่บ้านเกิด ให้ขายได้ทุกวัน มีกำไรพอสมควรทุกวัน

ทำไมต้องค้าขาย มีเป้าหมายอะไร: เป็นนายของตนเอง เป็นเงินเล็กน้อยใช้จ่ายส่วนตัว ได้กลับบ้านดูแลพ่อแม่

ประโยชน์ที่ได้รับจากความต้องการนี้: สุขใจได้อยู่พอเพียง ใช้จ่ายพอควร ไม่เดือดร้อน

จะรู้ได้อย่างไรว่าได้ประโยชน์: เมื่อลงมือทำจริงและคาดหวังรายได้คืนทุน 70% ไม่อยากทำกิจการใหญ่โต ถ้ามีเงินเยอะก็มัวเก็บ แต่มีเงินพอควรก็มีเท่านี้ก็ใช้พอเพียง

ต้องการทำไอเดียนี้ที่ไหนในอนาคต: อยู่ที่บ้านต่างจังหวัดดีที่สุด

ต้องการให้ใครมีทำไอเดียนี้มั้ย: อยากให้น้องชายและหลานๆ แต่รอเค้าตัดสินใจก่อน ทำคนเดียวได้ ทำกับเพื่อนที่สนใจและชอบแนวกิจการเดียวกัน

รอบหนึ่ง การยืนในท่า Realist

เมื่อไรเป้าหมายจะสำเร็จ: ปลายก.ค.-กลางส.ค. คาดหวังรายได้ 50-60% (ช่วงแรกๆ 40-50% แล้วค่อยๆ เพิ่ม 60-70% ปลายส.ค.-ธ.ค.) แต่ต้องสำรวจความต้องการตลาด เป้าหมายลูกค้า และประเภทสินค้า

ใครจะมาร่วมค้าขายด้วย: อาศัยเพื่อนและน้องสาวติดต่อลูกค้า ตัวเองจะติดต่อเอง

ระบุไอเดียเป็นขั้นตอนเจาะจง: สำรวจตลาด วางขายที่บ้าน มีการตั้งที่หยอดเหรียญหน้าบ้าน และขยายสินค้าในร้านต่างๆ

อะไรจะสะท้อนว่าบรรลุเป้าหมายได้จริง: การตอบรับจากลูกค้า 3-5 ใน 10 คน

จะรู้ได้อย่างไรว่าการค้าขายบรรลุเป้าหมาย: รายได้ 70% ตลอด 1 ปีนับจากเริ่มค้าขาย

รอบหนึ่ง การยืนในท่า Critic

ใครจะเป็นอุปสรรคสำหรับการค้าขายนี้: อาจมีพ่อ น้องสาว แฟน เพื่อน แต่ไม่ถือเป็นอุปสรรค

ความต้องการของพวกคนที่เตือนคืออะไร: อยากมีรายได้เสริมจากงานประจำ

ทำไมพวกคนเหล่านั้นต่องเตือน: คอยเตือนให้คิดเพราะเป็นห่วง

สิ่งที่เป็นบวกที่ได้รับจากการค้าขาย: สินค้าการทำชุดอาหารเช้ากับเย็นในเมนูที่หลากหลายเป็นสิ่งที่บวกมากๆ

ไอเดียใหม่ๆจะเกิดขึ้นได้อย่างไร: มีเวลาดูแลตนเอง ก็จะแบ่งไปเรียนรู้การค้าขายอื่นๆ ที่มีไอเดียใหม่ๆได้ด้วย

อะไรที่จำเป็นต้องคิดในสิ่งที่ขาดๆ ตามแผนการค้าขายนี้: อยากทำกาแฟสด แต่ไม่มีผู้ช่วยทำ อยากให้น้องชายมาช่วย ตอนนี้พร้อมลงมือทำ 70%


รอบสอง การยืนในท่า Dreamer

จะมีคำถามอย่างไรอีกใหม่ที่อยากได้คำตอบแก้สิ่งที่ยังขาดอยู่: จะแก้ปัญหาเรื่องการขายกาแฟสดได้อย่างไร

มีคำตอบที่หลายตัวเลือกอย่างไรบ้าง: ชงกาแฟสำเร็จรูปใส่ขวดแช่แข็ง ทำอาหารเป็นชุดกล่องหยิบง่าย แล้วมาทำกาแฟสด หรือรับน้ำผลไม้มาขาย ไม่ต้องทำเอง

รอบสอง การยืนในท่า Realist

จากคำตอบที่หลากหลาย มีอะไรที่ลงมือทำได้สำเร็จจริง: อาหารมีหลายเมนูปรับเปลี่ยนได้ก็ OK น่าจะลดต้นทุนเป็นน้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง ทำอาหารที่ลูกค้าหยิบทานง่ายตอนเร่งรีบเพราะโลเคชั่นร้านอยู่ใกล้แหล่งคนทำงาน เช่น แซนวิช น้ำสลัดที่ตนเองทำได้อร่อย สลัดโรล มินิแฮมเบอร์เกอร์ ขนมปังไส้หวาน ข้าวเหนียวหมู ฯลฯ

รอบสอง การยืนในท่า Critic

จะมีคำถามอย่างไรอีกใหม่ที่อยากได้คำตอบแก้สิ่งที่ยังขาดอยู่: ทำอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความจงรักภักดีกับสินค้าของเรา

รอบสาม การยืนในท่า Dreamer

มีคำตอบที่หลายตัวเลือกอย่างไรบ้าง: โปรโมชั่น มีบัตรแสตม์ปครบ 10 ครั้ง ให้เลือกอาหารใดๆ ฟรี ไม่เกี่ยงราคา คืนกำไรให้ลูกค้าประทับใจ ปากต่อปาก ถ้าลูกค้าซื้อ 2 ชิ้นขึ้นไป ชึ้นที่ 3 ลด 10% ชึ้นที่ 4 ลด 15% ตัวเราคนขายมีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม ไม่โกรธ ไม่หน้าบึ้ง ทักทาย ถามทุกข์สุข พูดเพราะ จำชื่อลูกค้าให้ได้ ลูกค้าประจำสั่งสินค้าพิเศษ/สั่งล่วงหน้าได้ บริการรับส่งสินค้าด้วย

รอบสาม การยืนในท่า Realist

มีคำตอบอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างไรบ้าง: การจัดวางหน้าร้านที่สะอาด น่าทาน สีสันอาหาร ชุดอาหารดี สะดวก มีช้อนกระดาษครบ รู้สึกดี มีแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ อาจเพิ่มผลไม้ต่างๆ เพื่อเพิ่มอาหารสุขภาพ มีโต๊ะนั่งทาน 2 ชุดหน้าร้าน แต่ตั้งใจจะสำรวจเพื่อให้สินค้าเราไม่ซ้ำ แตกต่างจากร้านอื่นๆ หยิบพร้อมทานไม่เลอะเทอะ

จากข้อมูลที่คิดเป็นระบบด้วยการสั่งจิตใต้สำนึก ก็มาย้ำประเมินความเชื่อด้วยการภาวนาว่า "ขอให้สินค้าขายดีอย่างน้อย 70% มีลูกค้าเยอะๆทุกวันตลอดไป" ไปทุกๆครั้งที่ก้าวตอบสเกล 1-5 ว่าเชื่อน้อยไปมากเท่าไร ตามการพูดตามถึง เป้าหมายที่ปรารถนาและมีค่า มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมาย จะบรรลุเป้าหมายเพราะมีสิ่งที่เหมาะสมและสิ่งแวดล้อมพร้อมแล้ว มีความสามารถสูงสุดที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมาย และมีความรับผิดชอบที่พร้อมจะบรรลุเป้าหมาย ก็ปรากฎว่า กรณีศึกษาได้ 5 คะแนนเต็มทุกข้อ...สุดท้ายเมื่อประเมินคุณค่าจากการทำความฝันนี้ให้เป็นจริงพร้อมคิดเป็นระบบเพื่อบรรลุเป้าหมาย ก็พบว่าได้คุณค่าของการสร้างความภาคภูมิใจจากตนเองและคนที่รักสู่ตนเอง ส่วนคุณค่ารองๆ ไป คือ ความฝันเป็นจริง ความสนุกสนาน การเป็นนายของเวลา และการทำความดี ซึ่งเดิมถ้าไม่ได้ฝึกด้วยจิตใต้สำนึกก็จะไม่เข้าใจรายละเอียดคุณค่า เพราะเข้าใจแต่ความสุขเพียงอารมณ์เดียว


หมายเลขบันทึก: 606143เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2016 18:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2016 18:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบพระคุณมากครับพี่โอ๋ พี่นงนาท และดร.เมธา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท