ขอบคุณภาพวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อวิริยังค์ จาก Google....
หลวงพ่อบันทึกในตอนนี้ว่าเป็นช่วงที่จะมีการถวายพระราชทานเพลิงศพ พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ซึ่งเป็ของพระอาจารย์มั่นฯ มีการบุ๊คตั๋วเครื่องบินถวาย แต่อาจารย์มั่นฯบอกจะเดินไปและเลือกหลวงพ่อวิริยังคืในตอนนั้นเดินทางไปกับตาปะขาวอีกคนเท่านั้น
เป็นการเดินเท้าจากบ้านนามนไปพระะาตุพนมระยะทางประมาณ ๕๐ กว่ากิโลเมตร โดยพระเถรานุเถระทั้งหลายเดินตามไปในภายหลัง การเดินทางครั้งนี้นำความปิติให้แก่หลวงพ่อมาก นับเป็นบุญของตัวเองแท้ๆ
ระหว่างทางการทำกิจธุระส่วนตัวทุกอย่างยังต้องสอนธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดทุกระยะ แม้แต่การถ่ายอุจจาระยังต้องสอนเลย พระอาจารย์มั่นนอกจากจะสอนธรรมะแล้วยังมีความรุ้ของความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีจากการสังเกตการทำอาชีพของชาวนา
มีบทสนทนาระหว่างการเดินทางช่วงนี้ที่เป็นคำสอน ผู้เขียนจะคัดมาบันทึกไว้บ้าง เช่น
"วิริยังค์ ทำไมถึงมาบวช"
"เพราะภาวนาเห็นทุกข์"
"ใครสอนให้ครั้งแรก เป็นสมาธได้อย่างไร"
"ไม่มีครับ เป็นขึ้นมาเองครับกระผม"
แล้วหลวงพ่อก็เล่าประวัติช่วงสั้นๆก่อนบวช ว่าวันหนึ่งไปวัดนั่งปนผู้หญิงอยู่ พระอาจารย์กงมาจึงเรียกเข้าไปนั่งต่อมนต์ข้างๆท่าน ถึงเที่ยงคืนกลัวผีกลับบ้านไม่ได้ ไม่นานตัวก็หายไป ตัวเบาเหมือนมีอยู่ ๒ ตัว ตัวหนึ่งเดินออกจากร่างเดินลงศาลาไป มองไปรอบทิศไม่เห็นใครอื่นเลยแม้กระทั่งพระอาจารย์ เห็นแต่ตัวเองนั่งอยู่ เมื่อเดินออกไปที่ลานวัดขณะนั้นมีลมวูบหนึ่งพัดหวิวเข้าสุ่หัวใจ เย็ยจนบอกกับตัวเองว่า "คุณของพระพุทะศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ"
ต่อจากนั้นก็เดินกลับมาที่เดิม ยังคงเห็นร่างตัวเองนั่งอยู่ คิดว่าทำอย่างไรถึงจะเข้าร่างตัวเองได้ ทันใดก็พลันได้ยินเสียงสวดมนต์ แต่เหมือนอยู่ไกลลิบสุดกู่ แล้วค่อยๆใกล้เข้ามาๆ จรู้สึกเป็นปกติและเป็นเวลาเขาเลิกกันเที่ยงคืน
พอเล่าให้อาจารย์กงมาฟังท่านถึงกับตะลึงที่เห็นเป็นเด็กและยังไม่สอนสมาธิจึงบอกให้พยายามต่อไป พอเล่าให้พระอาจารย์มั่นฟังดังนี้ พระอาจารย์จึงบอกว่า "มันแม่นแล้ว เธอมีความเป็นต่างๆมีบารมีพอสมควร มิฉะนั้นจะได้บวชหรือ"
..................
มีต่อ บันทึกต่อไป.......พระอาจารย์มั่นดึงฟันจากปากยื่นให้หลวงพ่อวิริยังค์.....
ไม่มีความเห็น