HS
นางสาว หทัยรัตน์ เส็งนา

ประเทศไทย...ในอันดับโลก



รัฐบาลปลื้มสื่อต่างชาติจัดอันดับ ปี 2559 ประเทศไทยครองอันดับที่ 21 “ประเทศที่ดีที่สุดในโลก” พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ นิตยสาร U.S. News &World Report ที่เคยจัดอันดับ Best Colleges and Best Hospitals ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้จัดอันดับ Best Countries 2016 พบว่าในปี 2559 นี้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 21 จาก 60 อันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก โดยมี เยอรมัน แคนาดา สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สวีเดน ครองอันดับที่ 1 – 5 ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่า สิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับที่ 15 มาเลเซีย (อันดับที่ 28) เวียตนาม (อันดับที่32) ฟิลิปปินส์ (อันดับที่ 33) และ อินโดนีเซีย (อันดับที่ 42) อีกด้วย

แหล่งที่มาhttp://www.posttoday.com/politic/412025

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ยกเครื่องเศรษฐกิจใหม่ : Thailand's New S-Curve" ว่า หลังจากได้เข้ามาบริหารงานได้ 3 เดือน ได้ผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการสนับสนุนประชาชนรายย่อย การช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม และการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่า มาตรการที่ออกไปจะผลักดันให้ตัวเลขเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปีนี้โตได้เกิน 3% แน่นอน หากไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรงด้านเศรษฐกิจเกิดขึ้น รองนายกฯ สมคิด ยังบอกอีกว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้ไม่ใช่จุดต่ำสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นการเติบโต โดยมีการกระตุ้นทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ถือว่าประชารัฐเริ่มเดินแล้ว และหากเอกชนเข้ามามีส่วนสนับสนุน และถ้าทำได้ดีจะทำให้เกิดโลว์คอสต์ อีโคโนมิก ซึ่งจะตามมาด้วยความเจริญในระดับท้องถิ่น โดยมีวรรคทองที่ว่า "ไม่อยากให้ทุกฝ่ายต้องกังวลเรื่องจีดีพีว่ามันจะโตได้ก้าวกระโดดแบบเดิมเมื่อไหร่ เพราะหากต้องการให้จีดีพีโต 5-6% แบบที่ผ่านมา ต้องเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 10% แต่ปีที่ผ่านมา การลงทุนของไทยขยายตัวเพียง 2% เท่านั้น ภาคเอกชนถือว่าสำคัญมาก จึงอยากถามเอกชนว่า เมื่อไหร่จะลงทุน ถ้าไม่ลงทุน จะเก็บเงินไว้ทำอะไร เพราะตอนนี้มีมาตรการจูงใจออกมามากแล้ว” พูดถึงการลงทุนในไทย ก็น่าเห็นใจเป็นเพราะปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนชะงัก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารโลกได้ประกาศผลรายงานการจัดอันดับความยากง่ายในการเข้าไปประกอบธุรกิจในประเทศต่างๆ หรือ Doing Business ประจำปี 2016 ซึ่งไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ต่ำลง คือ มาอยู่ที่ 49 ของโลก จากปีที่แล้วที่อยู่อันดับ 26 รายงานนี้ เป็นตัวบ่งชี้ให้นักลงทุนและผู้ประกอบการรับทราบถึงขั้นตอน และระยะเวลาในการให้บริการ การอำนวยความสะดวก ต้นทุนค่าใช้จ่าย กฎหมายและระเบียบต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาเข้ามาลงทุนในไทย โดยมีตัวชี้วัด 10 ด้าน เช่น การเริ่มตั้งธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การได้รับสินเชื่อ และการคุ้มครองผู้ลงทุน ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกได้จัดอันดับการเริ่มต้นธุรกิจปี 2016 ซึ่งไทยถูกจัดอันดับลงมาอยู่ที่อันดับ 96 จากอันดับ 91 ของปี 2015 อีกด้วย

การจัดอันดับประเทศไทย...ในอันดับโลก!! ในช่วงที่ผ่านมา ว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับด้านใดบ้าง

ปี 2545 อาหารไทยเป็นอาหารยอดนิยม ติด 1 ใน 5 ของโลก ร่วมกับอาหารฝรั่งเศส อิตาเลียน ญี่ปุ่น จีน โดยทั่วโลกมีร้านอาหารไทย 6,000 แห่ง อยู่ในสหรัฐ 3,000 แห่ง มีลูกค้าเข้ามารับประทานเฉลี่ยนวันละ 3 ล้านคน

ปี 2546 คนไทยมีสถิติดื่มสุราสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก, ไทยเป็นผู้ส่งออกใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ของโลกในการส่งออกรถยนต์ไปยังสิงคโปร์, ไทยติดอันดับละเมิดลิขสิทธิ์ 1 ใน 10 ของโลก มูลค่าตลาดสูงกว่า 1,600 ล้านบาท เป็นอันดับ 3 ในเอเชีย รองจากจีนและไต้หวัน

ปี 2547 ไทยเป็นชาติที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 32 ของโลก จากการจัดอันดับของธนาคารโลก ส่วนอันดับ 1-10 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี จีน สเปน แคนาดา และอินเดีย

ปี 2548 ไทยติดอันดับประเทศน่าลงทุนติดอันดับที่ 20 ของโลก จากทั้งหมด 155 อันดับ ถือเป็นประเทศที่มีผลงานที่ดีที่สุดประเทศหนึ่ง แซงหน้ามาเลเซียและเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 21 และไต้หวันที่อันดับ 35
ปี 2549 กรุงเทพมหานคร ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมามากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากฟลอเรนซ์และโรม ขณะที่เชียงใหม่ อยู่อันดับที่ 5

และปีเดียวกัน ไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่มีความสุขที่ 44 ของโลก ซึ่งในเอเชียมีฟิลิปปินส์อันดับที่ 23 อินโดนีเซียอันดับที่ 31 จีนอันดับที่ 32 ไทยอันดับที่ 44 มาเลเซียอันดับที่ 66 อินเดียอันดับที่ 64 ฮ่องกงอันดับที่ 89

แหล่งอ้างอิง: http://www.thaipost.net/?q=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81

แหล่งอ้างอิงรูปภาพ:http://img.tnews.co.th/large/tnews_1434966443_2645.jpg

http://www.springnews.co.th/wp-content/uploads/2014/07/230714_101325_%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9.jpg

http://www.thaibizcanada.com/ca/images/content/ca-investment-01.jpg

หมายเลขบันทึก: 605267เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2016 17:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน 2016 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท