ผู้เขียนขอเขียนต่อจากบันทึกนี้นะครับ วันที่ 12 มีนาคม 2559 ผู้เขียนและนักเรียนโรงเรียนเมืองพลพิทยาคม เดินทางไปที่คัมภีร์บ้านดิน ไปทางบ้านปากช่อง เลยไปไม่ไกลจากสวนครูบาสุทธินันธิ์มากนัก พบคุณคัมภีร์เจ้าของบ้านดินที่อยู่ใกล้สวนยางรอพวกเราอยู่แล้ว พวกเราเดินทางด้วยรถหกล้อฝุ่นเยอะมาก แต่สนุกสนาน
คุณคัมภีร์เล่าว่า เมื่อก่อนทำงานที่กรุงเทพฯ แต่มีรายได้ไม่ค่อยพอใช้ อยากกลับบ้าน พ่อมีที่ดินที่ปลูกสวนยางเลยขอพ่อทำเกษตร ตอนเริ่มแรกทำบ้านดินหลังเดียวมีเงินเก็บมาจากกรุงเทพฯแค่ 5 พันบาท เลยลองสร้างบ้านดินและปลูกผัก ปัญหาในระยะเริ่มแรกคือการขุดบ่อบาดาล ขุดบ่อแรกน้ำไม่มีน้ำ ขุดบ่อที่สองลึกได้น้ำแต่เป็นน้ำที่เป็นสนิมแดง เลยขุดบ่อที่สามปรากฏว่าได้น้ำดี
แต่มีปัญหาว่าหน้าแล้งน้ำจะไม่พอใช้ สองปีต่อมาคุณคัมภีร์ก็ชวนภรรยามาอยู่ด้วย โดยภรรยามีเงินแค่2 หมื่นบาท ผู้เขียนเองชอบสีบ้านดินและเข้าไปในบ้านดินจะรู้สึกเย็นมาก จนน้องครูเทียนน้อยบอกว่าอยากได้สักหลัง ทำเลยครับน้องครูเทียนน้อย 555
บริเวณรอบบ้านดินน่านั่งเล่น น่าดื่มกาแฟมาก ภรรยาคุณคัมภีร์ ชื่อพี่อร ทำน้ำกระเจี๊ยบเลี้ยงนักเรียนโรงเรียนเมืองพลพิทยาคมด้วย ผักและสลัดที่ปลูกรอบๆบ้านงามดีมาก เมื่อเล่าประวัติจบก็เป็นการฝึกการทำบ้านดิน เรียกว่าเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง(Experience -Based Learning)เพราะนักเรียนได้เรียนรู้ทฤษฏีการเลือกดินและได้ลงมือทำเองเลย
ขั้นแรกไปเลือกดินกันก่อนคุณคัมร์ภีบอกว่าดินที่ทำบ้านดินได้ดีคือดินร่วน ในความคิดผู้เขียน ตอนแรกคิดว่าเป็นดินเหนียว คุณคัมร์ภีบอกวิธีการเลือกดิน ไม่ควรมีทรายเพราะจะทำให้ดินจับกันไม่ดี นอกจากไม่ควรมีแก้วหรือเศษสิ่งของที่ปาดได้ตอนย่ำดิน หรือตอนฉาบจะบาดมือได้
นักเรียนลงมือขุดดินกันเลย ผู้เขียนดูท่าการขุดดินของนักเรียนแล้วพบว่าจับจอบยังไม่เป็นเลยสอนนักเรียนให้จับจอบให้ดีตอนโกยดิน แต่มีนักเรียนหญิงประมาณสองคนสามารถโกยดินได้ดี เข้าใจว่าเคยช่วยพ่อแม่ทำงาน ทักษะชีวิต(life skills)แบบนี้สำคัญต่อการอยู่ในสังคมปัจจุบัน ต้องทำงานเป็นด้วย ไม่ใช่ว่าเรียนหนังสือเป็นอย่างเดียว
เมื่อได้ดินมากพอก็นำน้ำมาใส่นับเป็นกระป๋อง ตอนแรกใส่ประมาณ 8 กระป๋องแต่ดินยังไม่นิ่มนักเรียนเลยเททั้งถังเลย 555 น้ำเป็นของที่พวกเราต้องช่วยกันประหยัด ผู้เขียนรู้สึกเห็นใจคุณคัมภีร์เรื่องการใช้น้ำมาก
เมื่อดินโดนโดยน้ำดี ก็นวดดินโดยใส่ฟางข้าวไปด้วย คุณคัมภีร์ได้แบ่งแถบผู้หญิงทำบ้านดินแบบก่อเลย แต่แถบผู้ชายจะทำแบบก้อนอิฐ นักเรียนลงไปย่ำให้ดินและฟางเข้ากัน ตอนย่ำดินดูดนักเรียนจนต้องถกขากางเกง ขำนักเรียนบอกว่าขาหนูหายไป 555
เมื่อได้ที่ดีแล้วก็เอาไปก่อที่จะทำห้องน้ำ โดยเอาไปพอกกับไม้ไผ่ที่สานดังรูป นักเรียนตั้งใจมากถึงแม้นว่าอากาศจะร้อนมากๆ ตอนพอกต้องใช้ฟางข้าวช่วยด้วย การพอกให้หนาประมาณ 1 ก้อนอิฐ นักเรียนทำได้ค่อนข้างไว อาจจะเป็นเพราะว่านักเรียนมีจำนวนมาก
ผู้เขียนดูตอนอัดก้อนทำเป็นอิฐแล้วชอบมาก คุณคัมภร์บอกว่าให้ใส่เกลือไปด้วยเพื่อป้องกันปลวกกินดิน นอกจากนี้ยังสามารถทำก้อนอิฐเก็บสะสมไว้เรื่อยๆได้อีกด้วย
ตอนดูการทำบ้านดินนั้นน่าสนใจมาก คุณคัมภีร์บอกว่าถ้าจะทำบ้านหลังแรกให้ทำหลังเล็กก่อน เมื่อทำเสร็จจะได้มีกำลังใจทำหลังใหม่ต่อไป นักเรียนดูการฉาบบ้านดินด้วยซีเมนต์เพียงนิดเดียว สามารถใช้ดินธรรมดาฉาบบ้านให้ฝาเรียบได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำเอาขวดสีๆมาประดับฝาห้องได้ด้วย พอทำเสร็จแล้วขวดที่ลงสีสวยมากๆ
จบจากบ้านดินคุณคัมภีร์ได้สรุปให้ฟังและบอกว่าถ้าสนใจทำบ้านดินให้ลงมือทำเลย ตอนกลางคืนหลังจากทานข้าวแล้วนักเรียนนำเสนอโครงงานที่ได้ไปทดลองมาตอนเย็น มีโครงงานมะสังพิชิตภัยแล้ง ได้ทดลองใช้พืชตระกูลส้มต่อยอดมะสัง
นอกจากนี้ยังมีโครงงานโซลาเซลว่าในแต่ละช่วงเวลาโซล่าเซลให้พลังงานต่างกันอย่างไร ตามด้วยโครงงานเกี่ยวกับสัตว์เคี้ยวเอื้อง กลุ่มน้อยต้นกล้าศึกษาสัตว์ว่าคือเเพะและวัวชอบกินพืชชนิดไหนโดยทดลองกับพืชหลายชนิดเช่นมะรุม ที่หาได้ในสวนป่า หญ้า ใบตอง กระถินและพืชชนิดอื่นๆเป็นต้น
อีกกลุ่มทำเรื่องวัวว่าชอบกินพืชชนิดใด กลุ่มต่อมาศึกษาเรื่องการใช้กระบอกน้ำหยดว่าควรใช้น้ำหยดเท่าไร เป็นแบบฉีดหรือหยด มีกลุ่มที่ใช้สมุนไพรทำอาหารด้วยโดยทำปลาดุกลุยสวนโดยใช้มะกรูด ตะไคร้ ข่า (โครงงานนนี้ชิมแล้วอร่อยมาก)
กลุ่มสุดท้ายเป็นการวัสดุชนิดต่างๆคลุมดินเช่น จอก แหน ใบไม้แห้ง ฟางข้าว เป็นต้น หลังจากนั้นให้คุณแผ่นดินช่วยให้ความเห็น คุณแผ่นดินบอกผู้เขียนก่อนแล้วว่าการทำโครงงานเป็นวิทยาศาสตร์ อยากให้นักเรียนได้กระบวนการทำงาน(Process) ไปใช้ทำงาน ใช้โครงงานเป็นเครื่องมือ (Tool) ในการเรียนรู้ คุณแผ่นดินพาผู้เขียนมาส่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางตอนกลางคืนแลดูไกลมาก โชคดีที่เราออกมาก่อน ยังจำได้ว่าตอนไปเชียงใหม่คุณแผ่นดินมาส่งที่พิษณุโลกแต่รถหมดเลยผู้เขียนตกรถ นอนค้างที่พิษณุโลกหนึ่งคืน ครั้งนี้กลัวประวัติศาสตร์ซ้ารอย เลยออกมาจากบ้านครูบาสุทธินันท์กันก่อน ขอบคุณน้องแผ่นดินมากครับที่มาส่ง มีคำถามครับ ในภาพเป็นดอกของผักชนิดไหนครับ ดอกสวยมากๆๆ ใครทราบตอบได้เลยครับ .... ขอบคุณรับที่เข้ามาอ่าน...
เป่นเรื่องราวที่น่าชื่นชมมากจ้ะน้องขจิต
สิ้นเดือนนี้ พี่จะขึ้นเหนือ
จุดหมายปลายทาง กำแพงเพชร
ตาก บ้านแม่ตาด สันกำแพง
เชียงใหม่ เชียงราย จ้ะไปด้วยกันไหม
ลืมตอบคำถามของน้อง
พี่ว่าน่าจะเป้น ดอกผักจำพวกคะน้านะ
ไม่เห็นใบ เดายาก แต่เพราะโตมากับ
สวนผัก จึงพอคุ้น ๆ บ้าง
เหมือนภาพข้างบนนี้ ที่พี่นำมาจาก
google นี่จ้ะ ขอบคุณ google จ้ะ
แหม แหม แหม 555
น่าไปร่วมเรียนรู้มากค่ะ โดยเฉพาะโครงงาน ปลาดุกลุยสวน ๕ ๕ ๕ ๕
ขอบคุณพี่ครูมะเดื่อ
ที่ชวน
สิ้นเดือนผมลงใต้ครับ
5555
ใช่เลยครับ
ดอกคะน้า
ถูกแล้วครับ
ขอบคุณอาจารย์ วัสมากครับ
ดีใจได้พบคุณแผ่นดิน
5555
ขอบคุณคุณหมอธิ
เป็นโครงงานที่กินได้ครับ
ได้เรียนรู้ไปด้วยเลย
อ.วัส...อิจฉาพวกเราละสิ...ชิมิๆ
ตามมาอ่านต่อด้วยความชื่นชมค่ะ...
-สวัสดีครับอาจารย์
-ผมอยากเรียนรู้เรื่องบ้านดิน..
-ที่บ้านไร่ของผมมีสถานที่พร้อม คนพร้อมที่จะร่วมเรียนรู้หลายชีวิต..
-มา ๆ มาสร้างบ้านดินกัน อิๆ
-ชอบ ๆ คร้าบ..
น้องคุณครู เทียนน้อย กล่าวได้ถูกต้องที่สุด 555