เขียนธรรมะลึก ๆ แล้วอ่านยาก
วันนี้หันมาเขียนธรรมะง่าย ๆ กันบ้าง หนอ
หลายปีก่อนตอนเริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ นั้น
ผมมีโอกาสได้ไปร่วมวิจัยแก้ปัญหาความยากจนเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
โดยคณะวิจัยได้ออกแบบร่วมกัน แล้วให้แต่ละสายลงพื้นที่ PAR ชาวบ้านร่วมลงมือแก้ปัญหาความยากจน
ด้วยความด้อยประสบการณ์ของผม ทำให้สายที่ผมดูแลอยู่ไม่สามารถสร้าง Model แก้ปัญหาความยากจนออกมาได้
แต่สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในตอนนั้น คือ ชาวบ้านมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูงขึ้นจากแต่ก่อนมาก ทั้งนี้เพราะ แต่ก่อนนั้นเป็นการดำรงชีวิตแบบพึ่งตนเอง ทำมาหากิน ไม่ใช่ ทำมาค้าขาย กล่าวคือ ไม่ได้มีชีวิตเพื่อเงิน ไม่ได้พึ่งเงินมากเหมือนอย่างปัจจุบันนี้ ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ไม่ต้องซื้อกิน จะสังเกตุว่า ที่ตั้งหมู่บ้านนั้นจะตั้งใกล้ ๆ กับแหล่งน้ำ เพราะในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ทำมาหากินได้ง่าย ใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น ไม่ได้ดิ้นรนหาไปขาย
แต่ในปัจจุบันนี้ ต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ ค่าหมอ ค่าเทอมลูกหลาน มีค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ต้องจ่าย
ทั้ง ๆ ที่รายได้ยังคงเท่าเดิม ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเกษตรที่ได้ปีละครั้ง คือ การขายข้าว
แต่ในปัจจุบันค่าปุ๋ย ค่าควายเหล็ก ค่าน้ำมัน ค่าความรีบร้อน ต้องจ่ายอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
ตอนนั้นใกล้จะปิดโครงการแล้ว ผมยังคิด Model แก้ปัญหาความยากจนยังไม่ได้
อยู่มา เย็นวันหนึ่ง ผมนั่งรถเพื่อเดินทางไปสอนตอนเย็นที่จังหวัดร้อยเอ็ด
การคิดหา Model ยังอยู่ในหัว ตอนที่รถวิ่งผ่านตลาดสดใกล้ ๆ วงเวียนหอนาฬิกา
ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เห็นชาวบ้านนั่งขายผักอยู่ริมฟุตบาท
ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า Model แก้จนนอกจากจะคิดเพื่อช่วยชาวบ้านต่างอำเภอ
ก็ต้องคิดเผื่อชาวบ้านริมฟุตบาทนี้ด้วย
นั่งรถผ่านไปไม่กี่นาที ผมฉุกคิดขึ้นมาในใจว่า
.. ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีเงินเดือน ต้องหาเช้ากินค่ำ ทั้งในต่างอำเภอและในเมือง
แล้วผมล่ะ ได้เงินเดือนทุกเดือน แต่ก็ยังไม่เคยรู้สึกพอ
หมายความว่า แม้ผมจะยังหารูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนยังไม่ได้
แต่การทำวิจัยครั้งนี้ กลับทำให้รู้จักผมรู้จักตนเองมากขึ้น แม้มีมากกว่า ก็ยังรู้สึกขาด ยังไม่รู้จักพอ
หวนให้นึกถึง ตอนที่มารับราชการใหม่ ๆ เป็นข้าราชการผู้น้อยเงินเดือนยังน้อยอยู่ ก็คิดไปว่า ถ้าได้เงินเดือนเท่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้วคงดีคงจะพอ แต่เอาเข้าจริง ๆ "มีมากกว่าแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกพอ" เมื่อไม่ได้ 2 ขั้น ก็เป็นทุกข์ หนอ
*** ทำให้ผมเห็นว่า ไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินว่ามีมากหรือมีน้อย มันอยู่ที่ใจต่างหาก
ว่า ใจพอ พอที่ใจ แล้วหรือยัง ?
เห็นแล้วอยากทดลองฝึกสร้างบ้านดินดูครับอาจารย์