คำแก้ต่าง, คำปลอบใจ, หรือแม้แต่รางวัลคำชมเชย มันก็เหมือนยาแผนปัจจุบัน แม้จะกินง่ายเห็นผลไวขั้นตอนไม่ซับซ้อน แต่การสะสมของสารเคมีสังเคราะห์ในร่างกายที่พร้อมจะเป็นผลข้างเคียงอันตรายกับร่างกายได้เสมอ...ยาสมุนไพร ต้องขุดดินหารากปีนป่ายตัดใบ ทั้งบดผสมเคี่ยวจนน้ำเกือบเหือดหาย กว่าจะได้ยามาระบายบรรเทาอาการป่วย แถมรสยังขมเหมือนดั่งเชือกกล้อยมัดคอกว่าจะกลืนได้ และกว่าจะหายต้องทนกินทนใช้สักระยะเวลา...การตำหนิ ติเตือน การลงโทษ นั้นมันเป็นยิ่งกว่ารางวัลแห่งความสำเร็จ เพราะรางวัลแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง "การเข้าใจและนำไปใช้ให้เกิดผล"หาใช่ "การหลงระเริง เพ้อเคลิ้ม กับสิ่งตอบแทนอันลวงตา"...ไม่เช่นนั้นคนโบราณเราไม่พูดหรอก "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี"...ผู้ทรงคุณวุฒิที่ดำรงตำแหน่งชั้นสูงในสังคมปัจจุบัน ระดับ ศาสตราจารย์ ล้วนเติบโตมาตามแนวทางคนโบราณ ที่คอยเคี่ยวเข็ญ ป้อนยาขม ฝืนทนตีลูก จนได้เป็นบุคคลสำคัญของสังคมเรา