หนังสือเล่มนี้เดิมทีเป็นบทความในหัวข้อ “นักจิตวิทยาในรูแย้” ที่ถูกนำเสนอในที่ประชุมผู้เชียวชาญด้านมานุษยวิทยาในอิสลาม (AMSS) ในสหรัฐอเมริกาและคานาดา ในปี ค.ศ.1975
หัวข้อ “รูแย้” ที่ค่อนข้างแปลกนี้ มาจาก วจนของศาสดา (หะดีษนบี-ศอลฯ) ที่รู้จักกันดี ที่ว่า
عن أبي هريرة قال : قال رسول الله ( ص ) : ( لتتبعن سنة من كان قبلكم باعا بباع وذراعا بذراع وشبرا بشبر حتى لو دخلوا في حجر ضب لدخلتم فيه ، قالوا : يا رسول الله ! اليهود والنصارى ؟ قال : فمن إذن ) ؟ ความว่า : รายงานจากอะบูฮุร็อยเราะฮฺ ว่า ท่านรซูลุลอฮฺ กล่าวว่า “พวกเจ้าจะตามแนวทางขอคนก่อนพวกเจ้า ที่ละวา ทีละศอก ที่ละคืบ จนกระทั่งพวกเขาเหล่านั้นเข้าไปในรูแย้ พวกเจ้าก็จะตามเข้าด้วย” บรรดาเศาะฮาบะฮฺก็ถามว่า “พวกนั้นคือ ยะฮูดและนะศอรอ (ยิวและคริสต์) ใช่ไหม” ท่านก็ตอบว่า “จะเป็นใครอีกเล่า” (บันทึกโดย อิบนุอะบีไชย์บะฮฺ) ในทุกวันนี้ไม่ว่าอะไรที่ฝรั่งเขาทำ เราจะเห็นดีเห็นงามไปหมด แม้แต่การรุกรานประเทศอื่นก็ยังเชื่อในข้ออ้างของเขา เห็นดีเห็นงามกับเขา ทฤษฎีต่างๆที่เราร่ำเรียนมาและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็มาจากเขา บางครั้งวัฒนธรรมหรือภูมิความรู้ที่ดีที่คนเก่าคนแก่ของเราได้สืบทอดกันมา เราละทิ้งและหันไปนิยมถือปฏิบัติตามที่เขาสั่งสอน ซึ่งหลายอย่าง และหลายครั้งที่การกระทำของเราเช่นนั้นนำพาเราสู่สภาพที่อับจนเราก็ยังคงตามเขาอีก คงไม่ต่างอะไรกับการอุปมาอุปมัยที่ว่า แม้นว่าเขาจะวิ่งหนีเข้าสู่รูแย้ ที่ทั้งเล็กทั้งอับ ขาดอากาศหายใจ เราก็ยินดีที่จะตามเขาเข้าไป บางคนอ้วนพีอยู่ในนั้นจนไม่สามารถกลับออกมาอีก บางคนอยากออกแต่ก็สายเสียแล้ว แต่หลายคนที่ยังคงรักและชอบสภาพในรูแย้เช่นนั้นในทางจิตวิทยา ส่วนใหญ่แล้วเราจะตามเขา อ้างทฤษฎีเขาในการนำไปใช้กับตัวเราเอง กับคนรอบข้าง กับเด็ก กับเยาวชน หรือบางครั้งเราไม่ได้บอกว่าเราตามเขา แต่ในสมองเรา หลักการคิดของเรา เจตคติของเราที่มีต่อสถานการณ์นั้นๆ ถูกทฤษฎีของพวกเขาครอบงำโดยไม่รู้ตัว มีผู้ปกครองบางคนเป็นหวงเยาวชนเรา พยายามออกมาทักท้วงพฤติกรรมบางอย่างเยาวชน แต่มีนักต่อสู่เพื่อสิทธิเด็กกลับมาต่อต้านและกล่าวว่า ทำไมต้องโยนความผิดที่เด็ก หรืออย่างที่เราเคยได้ยินบ่อยจากนักจิตวิทยาบางท่านกล่าวว่า เด็กผิดไม่ได้ เพราะตามแนวทฤษฎีของกลุ่มพฤติกรรมนิยมแล้ว พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจะเกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้า ในเมื่อสิ่งเร้าเย้ายวนในเด็กตอบสนองเช่นนั้น เด็กก็แสดงพฤติกรรมนั้นออกมา คนผิดจึงจะน่าจะเป็นผู้ใหญ่ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม !!!?
อัลบัดรีย์ ผู้นำเสนอบทความในเรื่อง“นักจิตวิทยาในรูแย้”นี้ ได้เขียนในตอนหนึ่งว่า..
ฉันได้กล่าวแก่เพื่อนร่วมงานของฉันซึ่งเขานิยมในจิตวิทยาเด็กสมัยใหม่มาก โดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ในประเทศตะวันตก หรือที่อยู่ในสังคมอิสลามที่ถูกทำให้ทันสมัยว่า ว่า..
“ถ้าท่านต้องการให้ลูกๆของท่านเติบโตโดยวางเท้าของเขาบนโต๊ะที่ตรงหน้าของท่านอย่างที่เราเคยเห็นในหนังตะวันตก และถ้าท่านต้องการให้เขานำท่านและมารดาของเขาเข้าสู่บ้านพักคนชราเมื่อท่านแก่เฒ่า ท่านจงทำตามตำราจิตวิทยาอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าท่านรักที่จะตามอัลกุรอาน ที่เชื่อมระหว่างการภักดีต่ออัลลอฮฺกับการทำความดีต่อบิดามารดา ท่านจงนึกถึงอัลกุรอานในอายัตต่อไปนี้
وَقَضَى رَبُّكَ أَلاَّ تَعْبُدُواْ إِلاَّ إِيَّاهُ وَبِالْوَالِدَيْنِ إِحْسَاناً إِمَّا يَبْلُغَنَّ عِندَكَ الْكِبَرَ أَحَدُهُمَاความว่า : และพระเจ้าของเจ้าบัญชาว่า พวกเจ้าอย่าเคารพภักดีผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้นและจงทำดีต่อบิดามารดา เมื่อผู้ใดในทั้งสองหรือทั้งสองบรรลุสู่วัยชราอยู่กับเจ้า ดังนั้นอย่ากล่าวแก่ทั้งสองว่า อุฟ !(แสดงออกถึงความไม่พอใจ) และอย่าขู่เข็ญท่านทั้งสอง และจงพูดแก่ท่านทั้งสองด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยน และจงนอบน้อมแก่ท่านทั้งสอง ซึ่งการถ่อมตนเนื่องจากความเมตตา และจงกล่าวว่า “ข่าแต่พระเจ้าของฉัน ทรงโปรดเมตตาแก่ท่านทั้งสองเช่นที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันเมื่อเยาว์วัย” (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัลอิสรออฺ 17/23-24)
และถ้าท่านหวังในวจนของท่านนบี(ศอลฯ) ที่ว่า “สวรรค์อยู่ใต้ฝาเท้าของมารดา” ท่านจงระวัง ไม่อย่างนั้นท่านจะตกอยู่ในรูแย้อย่างไม่รู้ตัว”
USM P.Pinang Malaysia
15/11/2006
ไม่มีความเห็น