องค์กรภาคีเครือข่ายต่างๆในงานจิตอาสาเพื่อสังคม ได้ร่วมกันจัดเวที "ปาฐกถาไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ ๓" เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๙ ณ ห้องอโนมาแกรนด์ รร.อโนมา กรุงเทพฯ นับเป็นการจัดต่อเนื่องหลังจากสองครั้งที่ผ่านมา คือ
ครั้งที่ ๑ หัวข้อ "มหามวลมิตรพัฒนาประเทศไทย" เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๖ โปรดคลิ๊กที่ :
https://www.gotoknow.org/posts/521358
ครั้งที่ ๒ หัวข้อ "ร่วมสร้างสังคมน่าอยู่" เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ โปรดคลิ๊กที่ :
https://www.gotoknow.org/posts/572537
องค์กรภาคีเครือข่ายจิตอาสาเพื่อสังคม ประกอบด้วย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ศูนย์คุณธรรม สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ มูลนิธิหัวใจอาสา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ(สสส) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ สำนักงานส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม มูลนิธิชุมชนไท มูลนิธิกองทุนไทย มูลนิธิเพื่อคนไทย สถาบัน Change Fusion บริษัทร่วมทุนชนบท จำกัด กลุ่มบริษัทแปลน/บริษัท แปลนโมทิฟ จำกัด ฯลฯ
วัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสีบสานเจตนารมย์ของคุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ในการสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่และร่มเย็นเป็นสุข โดยสนับสนุนความร่วมมือขององค์กรต่างๆที่ทำงานเพื่อสังคม ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ/หรือ กำหนดทิศทางในการทำงานร่วมกันจนบรรลุเป้าหมายอย่างมีผลสัมฤทธิ์ ในขณะเดียวกัน สื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้ เข้าถึง มีส่วนร่วม และเกิดแรงบันดาลใจในการร่วมกันพัฒนาสังตม ตลอดจนเห็นช่องทาง กลไก และค้นแบบของงานพัฒนาสังคม ที่มีประชาชนคนไทย ช่วยกันขับเคลื่อนให้สังคมน่าอยู่
องค์ปาฐกในงานครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้ทำงานจิตอาสาเพื่อสังคม ที่ได้มาเล่าประสบการณ์การทำงานด้านต่างๆจำนวน ๖ คน คือ
๑.คุณอภิศักดิ์ ทัศนี ที่ปรึกษาชมรม Beach for Life ได้ร่วมกลุ่มกับเพื่อนเยาวชนจากรร.มหาวชิราวุธ จ.สงชลา ในการศึกษาปัญหาหาดสงขลากับเครือข่ายนักวิชาการอิสระในงาน The World Beach Day ทำให้เรียนรู้สภาพการพังทลายของหาดสมิหรา จึงได้ร่วมกับเพื่อนๆก่อตั้งชมรม Beach for Life เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในระบบธรรมชาติของหาดทราย การพังทลายของหาดสมิหรา และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของพลเมืองสงขลา ในการอนุรักษ์หาดสมิหราอย่างยั่งยืน และได้รับการสนับสนุนจากโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา ดำเนิกงานโดยสงขลาฟอรั่ม สนับสนุนโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ
๒. คุณนิติรัฐ พึ่งเดช ครูรายวิชาภาษาอังกฤษ รร.ชุมชนหมู่บ้านพัฒนา ที่เข้ามาร่วมงานจิตอาสาของโครงการ Teach for Thailand เป็นงานแรกหลังจบการศึกษาปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ามารับผิดชอบดูแลสอนหนังสือแก่เด็กจำนวน ๒๐๐ คนอย่างใกล้ชิด เอาใจใส่ในความเป็นอยู่ด้วยความรักใคร่ สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางลบได้ด้วยความไว้วางใจของเด็กๆ ให้เกิดความรักเรียนอย่างต่อเนื่อง
๓. คุณอภิชาติ การุณกรสกุล ประธานคณะกรรมการมูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ได้ร่วมสร้างมิคิใหม่ทางสังคมของคนพิการ โดยดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับองค์กรต่างๆในการจ้างงานคนพิการกว่าพันคน โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มขึนอีกในระดับห้าพันคนขึ้นไปทั้งในตัวเมืองและชนบท ด้วยการสร้างโอกาสทั้งด้านการฝึกฝนอาชีพ และพื้นฐานที่แข็งแกร่งในชีวิตอันเหมาะสมต่อไป
๔. คุณทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ได้ทำงานมุ่งเน้นในการปรับเปลี่ยนทัศนคติของเยาวชนทีด้อยโอกาสในสังคมเพราะความผิดพลาดในอดีต ให้เห็นคุณค่าในตนเอง เกิดความหวังในการปรับปรุงตน โดยส่วนหนึ่งร่วมมือกับผู้ปกครองและผู้คนแวดล้อม เสริมทักษะชีวิตในการรับมือกับปัญหาที่เผชิญอยู่อย่างกล้าหาญและสร้างพี้นที่ยืนในสังคม ด้วยการออกไปทำประโยชน์แก่สังคมอย่างมีความสุข
๕. ดร.สมจินต์ กรไพศาล กรรมการผู้จัดการบลจ.ทหารไทย จำกัด ได้นำเสนอกลยุทธ์การออมและการลงทุน เพื่อจัดการการเงินที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีขององค์กรสาธารณกุศลและจิตอาสาในการเลือกวิธีการที่สามารถเลี้ยงตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
๖. นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช หัวหน้าโครงการพัฒนาชุมชนเป็นสุข และประธานเครือข่ายฟื้นฟูชายฝั่งอันดามันหลังคลื่นยักษ์สินามิ พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้ให้ข้อคิดและบทเรียนงานจิตอาสาที่เป็นกระบวนการในการรักษาระบบที่มีพื้นฐานของการนำมาประยุกต์ใช้ได้ทันทีในทุกสถานการณ์ โดยมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพของคนกลางในการเชื่อมโยงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที และทั่วถึง ทั้งกลไกภาครัฐและเอกชนที่เหมาะสมกับความถนัดและทุนทางสังคมของแต่ละพื้นที่
ศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ข้อคิดเห็นว่า คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ได้เป็นผู้นำทางงานจิตอาสาในแนวทางที่ดีมาก คือให้เรียนรู้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ยังขาดการดึงการมีส่วนร่วมภาคประชาชน แต่ในประเทศไทยได้เห้นรูปธรรมของแนวทางนี้ที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ นับเป็นเรื่องน่ายินดีและควรสนับสนุนให้เข็มแข็งยั่งยืนต่อไป
ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิสยามกัมมาจล ได้กล่าวว่า คุณค่าของงานจิตอาสา คือมีความหลากหลายให้เลือกทำ แต่ต้องมีวิธีจัดการที่เหมาะสมและประสิทธิภาพ ต้องอาศัยประสบการณ์ และการเรียนรู้ระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ
......................................................................................................................................................................................................
ตามมาแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลด้วยครับ
เป็นแฟนคุณไพบูลย์ตั้งแต่ต้น
ต้องขอบคุณพี่ใหญ่ที่ส่งหนังสือคุณไพบูลย์มาให้อ่าน
ได้แนวคิดดีๆมากเลย
ขอบคุณมากครับ
ขอร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของอาจารย์ไพบูลย์ ด้วยนะครับ
..
ความดีของท่าน...จะอยู่คู่กับประเทศชาติต่อไปครับ
..