​เพื่อนที่ดี (กัลยาณมิตร)


เพื่อนที่ดี (กัลยาณมิตร)

เพื่อนมีหลายแบบ ถ้าในความหมายกลางๆก็เป็นคนที่เรารู้จักมักคุ้นและชอบพอในระดับต่างๆ ไม่ใช่คนแปลกหน้า สำหรับมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์สังคม การมีเพื่อน และตัวเพื่อนเองจึงมีความหมายมาก เนื่องจากสิ่งหนึ่งที่เราได้จากเพื่อนคือ "พลัง"

สัตว์สังคมมีข้อได้เปรียบคือการ "หยิบยืมพลัง" จากคนรอบๆข้าง จากครอบครัว คนรู้จัก จากเพื่อน ทำให้ใช้ประโยชน์ได้เยอะแยะ เพื่อนช่วยเยียวยาเรา เติมพลังที่เราขาด เสริมพลังที่เรามี และเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเรา "มี" อะไรที่พอจะเป็นต้นทุนชีวิตอยู่บ้าง

"ต้นทุน" ที่ว่านี้เป็นคำกลางๆ ยังไม่ได้มีความหมายว่าดี/ไม่ดี เป็นพลังงานศักย์ดิบๆ ที่ไม่ได้ปรุงแต่ง รอคอยการนำเอาพลังงานนี้ไปใช้ก่อน มนุษย์ถึงค่อย "รับรู้" เรื่องดี/ไม่ดี

จึงมีการให้ความหมายต่อถึง "เพื่อนดี (กัลยาณมิตร)" เพื่อแยกแยะจากเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยังคงให้ "หยิบยืมพลัง" เหมือนเพื่อนทุกๆคน แต่เพื่อนกลุ่มนี้จะเติมพลังด้านลบ เสริมพลังด้านลบ และจะมีอิทธิพลในการใช้ชีวิตไปสู่วิถีอันไม่เป็นสิริมงคล ดังนั้นศาสนาใดๅ ความเชื่อใดๆ ก็มักจะมีเรื่องของการคบหาเพื่อนรวมอยู่ด้วยเสมอ ภาษิตไทยก็คือ "คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล" เป็นต้น

การ "วินิจฉัย" เพื่อนไม่ดีค่อนข้างยากหน่อยนึง เพราะคนเหล่านี้ทำให้เรา "มีพลัง" เราสบายใจ อุ่นใจ ฮึกเหิม รู้สึกถูกเยียวยา รู้สึกว่ามีกำลังจะทำงานต่อ ดังนั้นสิ่งที่ "ดูเหมือนจะดี" เหล่านี้จะกลายเป็นเมฆหมอกบังตาที่เราจะแยกแยะได้ว่าเรากำลังถูกชักนำพลังงานด้านไหนออกมามีอิทธิพลต่อชีวิต เพราะความสบายใจ อุ่นใจ ฯลฯ ที่ว่านั้นเป็นเสมือนดื่มยาพิษ ยาเสพติด แก้กระหายนั่นเอง

@@@ เพื่อนที่ดี "จะไม่" เสริม เติม ชักจูง พลังงานด้านความโกรธ เกลียด กลัว ที่เกิดขึ้นในตัวเราให้เพิ่มมากขึ้น @@@

ความโกรธ เกลียด กลัว เป็นพลังงานด้านมืด และทรงพลัง ทำให้เกิดกิจกรรม เกิดงาน เกิดการกระทำได้มากมาย แต่เมื่อไรที่ใช้ความโกรธ เกลียด กลัว เป็นเชื้อเพลิง มันจะ "เผาผลาญปัญญา" ไปในเวลาเดียวกัน พลังงานด้่านลบมีเหลือเฟือ งอกงามรวดเร็ว และต่อง่าย เติมง่าย แต่ทุกๆครั้งที่เรา "ยอมอ่อนข้อ" ให้พลังงานเหล่านี้ dominate ชีวิตเรา เราสูญเสียปัญญาไปเสมอ

การเติม เสริม เชื้อโกรธ เกลียด กลัว อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เพื่อนเหล่านี้ไม่รู้ตัวก็ได้ (หรือถ้ารู้ตัวก็จะน่ากลัวมาก) เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องรู้เองว่าพลังงานด้านไหนของเราที่ถูกกระตุ้นขึ้นมา พิจารณาได้จากภาษาที่ใช้ การ narrative เล่าเรื่องที่ใช้ เชื้อเพลิงที่เติมสุมเข้ามา และการปิดกั้นแสงสว่างด้านอื่นๆที่จะทำให้อยู่ในด้านมืดนี้ต่อไปให้นานที่สุด

การมีเพื่อนเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เรามีพลังมากกว่าเราเพียงลำพัง แต่เราก็ต้องดูแลพลังงานที่ใช้ เหมือนกับชีวิตจริงที่เราไม่อยากใช้พลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมภายนอก ในชีวิตจริงของเรา เราก็ไม่อยากใช้พลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมภายในของเราเช่นกัน ต่างกันตรงเราอาจจะหนีไปอยู่ในที่ต่างๆ ใส่หน้ากาก ใส่ mask กันมลภาวะภายนอก แต่เราจะไม่อาจจะหนีมลพิษของความโกรธ เกลียด กลัวจากภายในของเราเอง เราต้องเผชิญหน้า มองเห็น และจัดการกับสิ่งเหล่านี้ด้วยปัญญาของเราเอง

น.พ.สกล สิงหะ
บ้านพักแพทย์ พ.๓๑ ม.สงขลานครินทร์
วันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๗ นาฬิกา ๒๗ นาที
วันแรม ๔ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะแม
วันฮัลโลวีน

หมายเลขบันทึก: 596901เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2015 17:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม 2015 17:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ชอบความคิดของอาจารย์หมอมากจริง ๆ ครับ

ความหมายของคำนี้ มีสิ่งสำคัญซ่อนอยุ่ให้เราคิดเสมอเลยนะครับ..เพื่อนที่ดี "จะไม่" เสริม เติม ชักจูง พลังงานด้านความโกรธ เกลียด กลัว ที่เกิดขึ้นในตัวเราให้เพิ่มมากขึ้น.....

ในชีวิตของผม...ผมมีเพื่อนเพียงไม่กี่คนหรอกนะครับที่ผมสัมผัสพลังเช่นนี้...และผมคิดเสมอว่า..เพียงเท่าก็เพียงพอแล้ว สำหรับผม

ได้เห็นมุมมองของกัลยณมิตรเลยครับ

เพื่อนที่ดีมีมากแล้วมีความสุขครับ

ขอบคุณมากครับ

ร่ายสุภาพ

...เพื่อนหรือ คือผู้ใด...............คือผู้ให้ เมตตา

อ่อนล้า เฝ้าประคอง...............ทุกข์เศร้าหมอง ปลอบปลุก

ลุกสู้ ท้าชีวิต.........................จึงตั้งจิต ระลึกไหว้

พรประเสริฐ วอนเทพไท้..........โปรดได้ อวยเพื่อน...สุขนา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท