บทเรียน..Best Practices


พยายามถามตัวเองเสมอว่า..ประกวดประชันขันแข่งไปทำไม..ไม่เหนื่อยบ้างรึ..ความสุขที่ได้ทำงานในโรงเรียนขนาดเล็กมาเกือบสิบปี สั่งสมบารมี และชิ้นงาน จนเกิดความมั่นใจ..ที่อยากจะบอกใครต่อใคร ว่ามันเหนื่อยแต่ท้าทาย..ให้สู้..ให้ต้องอยู่..เพื่อนักเรียนและชุมชน ยืนหยัด..ที่จะไม่ให้เขายุบ..

บันทึกแห่งความทรงจำ..ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่นำโรงเรียนขึ้นสู่เวที..Best Practices..ตามที่ได้หวังไว้ ขอให้ได้ไปสักครั้ง เป็นตัวแทนเขต ไปแสดงผลงาน เพื่อบอกว่า..โรงเรียนขนาดเล็ก..ภายใต้กรอบ..ชยันโต โมเดล..เป็นครอบครัวเล็กๆ อยู่กันแบบไหน อยู่อย่างไรให้มีคุณภาพ..ก็ต้องบอกเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

ก็พยายามถามตัวเองเสมอว่า..ประกวดประชันขันแข่งไปทำไม..ไม่เหนื่อยบ้างรึ..ความสุขที่ได้ทำงานในโรงเรียนขนาดเล็กมาเกือบสิบปี สั่งสมบารมี และชิ้นงาน จนเกิดความมั่นใจ..ที่อยากจะบอกใครต่อใคร ว่ามันเหนื่อยแต่ท้าทาย..ให้สู้..ให้ต้องอยู่..เพื่อนักเรียนและชุมชน ยืนหยัด..ที่จะไม่ให้เขายุบ..

และก็ต้องทำเพื่อตัวเองด้วย..เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตราชการ..เคยมีผลงานในระดับชาติและระดับภาคก็หลายครั้ง..ถ้าครั้งนี้..สำเร็จอีกสักครั้ง..ก็หมายถึง..ตำแหน่งเชี่ยวชาญ(ระดับ ๙) ใกล้เข้ามาทุกที..แต่ถ้าไปไม่ถึงดวงดาว..บอกตัวเองเสมอว่า..ชีวิตราชการก็ก้าวมาไกลพอสมควรแล้ว บ้าน รถ ยศ ตำแหน่ง มีพร้อมแล้ว เงินเดือนก็มิใช่น้อย..ดังนั้น..เป้าหมายสูงสุด..คือ..ประสบการณ์..ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต..ทำอะไรให้องค์กรบ้าง ..ทำได้ไกลสูงสุดแค่ไหน..และทุกครั้งจะทำอย่างเต็มที่..และยอมรับผลที่ออกมาทุกครั้ง...

แต่ครั้งนี้..ยอมรับภายใต้ความเจ็บปวด ไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป ทั้งลงทุนลงแรง แทนที่จะเอาเวลาไปสอนหนังสือ ก็ต้องมานั่งทำเอกสาร เตรียมผลงาน ..ประสานทุกฝ่าย..แล้วยิ่งผู้บังคับบัญชาที่เขตฯ ให้ความสำคัญ..ก็ต้องยิ่งต้องทำให้ดีที่สุด..เท่าที่จะทำได้..

พกความมั่นใจไปเต็มร้อย ไม่ใช่เพราะดีกว่าคนอื่น..แต่เชื่อมั่นว่า..เราก็มีดีเหมือนกัน..พร้อมที่จะแบ่งปันในห้องประชุมโรงแรมโกลเด้นซิตี้ เมืองราชบุรี..ในเช้าวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ ในบรรยากาศทางวิชาการ ที่ไม่รู้สึกประหม่าแต่อย่างใด ผู้จัดและพิธีกรของเจ้าภาพ(สพป.ราชบุรี เขต ๑) พยายามจะบอกย้ำให้โรงเรียนทั้ง ๑๔ โรง ได้ทราบว่า..กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จาก ๑๔ เขต ...จะให้คะแนนอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยดูที่เอกสารที่แต่ละโรงเรียนส่งมา (ความหนาไม่เกิน ๑๐๐ หน้า) ,ดูผลงานที่จัดนิทรรศการ..และฟังจากการพูดที่ให้เวลา ๒๐ นาที ตอบคำถามกรรมการ ๕ นาที...

โรงเรียนบ้านหนองผือ..ได้พูดคนที่ ๖..แต่ก่อนที่โรงเรียนแรกจะขึ้นพูด..ในเวลา ๑๐.๐๐ น.คณะกรรมการขอเดินชมผลงานนิทรรศการก่อน ใช้เวลา ๔๐ นาที

ผมจึงยืนรอกรรมการ เพื่อทักทายอย่างเคารพและนบนอบ พร้อมจะแนะนำผลงาน ขั้นตอนและกระบวนการทำงาน..แต่ก็ผิดคาดและเริ่มไม่ประทับใจ..กับสีหน้าท่าทางของกรรมการบางคน..โดยเฉพาะ ๔ - ๕ คนแรก..ที่พูดว่า..."ผมไม่เห็นรายงานของโรงเรียนบ้านหนองผือเลย" "..มีโรงเรียนเดียวนี่แหละ..ที่ไม่มีรายงาน" กรรมการบางคนพูดเสียงกร้าว เหมือนถือแต้มต่อและก็เหมือนไม่อยากซักถาม เพราะเขาไม่มีข้อมูล.." กรรมการผู้หญิงบางคนยืนยิ้ม เหมือนจะเห็นใจผม..เมื่อได้ยินผมบอกว่า "ผมส่งให้เขตฯไป ๑๔ เล่มแล้วนะครับ..." พูดไปแล้วก็ขนลุกซุ่..ณ นาทีนี้น่ะหรือ..ที่กรรมการไม่มีเอกสารรายงาน ๑๐๐ หน้าของเรา ที่อดหลับอดนอน รวบรวมและเรียบเรียง...ผมหันไปบอกครู ช่วยเชิญคุณ....เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและแผนฯของเขต..ที่เป็นผู้ประสานงานหลักและเป็นคนทำเรื่องนี้ทั้งหมด..มาพูดคุยกันสักนิด

"...กรรมการบอกว่า..ยังไม่ได้รับเอกสารรายงานของโรงเรียนบ้านหนองผือนะครับ.." ผมถามเจ้าหน้าที่

"...ไม่เป็นไร ท่าน ผอ. เราลุยไปเลย ไม่ต้องกังวล..เรามีดี..ไม่ต้องกลัวใคร.." เจ้าหน้าที่พูดกับผม

"..หือ.." เจ้าหน้าที่ของเขตฯ ไม่ได้ยินหรอก ว่าผมร้องอยู่ในลำคอ กับคำว่า..ไม่เป็นไร..ในด้านเอกสารที่เป็นคะแนนและเป็นหัวใจสำคัญของงานนี้...และอีกไม่กี่นาทีผมต้องขึ้นเวทีแล้ว..

ความรู้สึกบอกไม่ถูก ความมั่นใจหดหาย พยายามเก็บอาการ เมื่อกรรมการฯที่เป็นผอ.เขต เข้ามาชื่นชม กับชื่อ..ชยันโต..โมเดล.."ที่ท่านบอกแปลกใหม่ ผมก็บอกไป ว่าผมทำได้จริง ทำมานานและต่อเนื่อง เห็นผลเชิงประจักษ์แล้ว...

๑๓.๔๐ น.ได้เวลาของผม..นำเสนอผลงาน..ใจไม่สั่น แต่มือที่ถือไมค์สั่น ไม่หวั่นเรื่องข้อมูล แต่หวั่นใจว่ากรรมการจะคิดอย่างไร..เมื่อโรงเรียนบ้านหนองผือไม่เป็นไปตามเกณฑ์....ณ เวลานั้น ดูเหมือนผมต้องพูดบรรยาย ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเป็นสองสามเท่าว่า..ผมทำงานอย่างไร...ความที่เสียงดังฟังชัด ทุกคนมองผมเป็นตาเดียว อมยิ้ม พยักหน้า...แน่นอน ทุกคนต้องตั้งใจฟังผม เพราะเขาไม่มีเอกสารรายงานในมือ..

ครับ..เที่ยงคืนแล้ว..ผมยังหลับไม่ลง..และผมก็ไม่ได้คิดเลยว่า ผมจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ จะผ่านหรือไม่ผ่าน จะติดหนึ่งในห้าหรือไม่..แต่ผมคิดถึง...เอกสารของผมไปไหน..สพป.กจ.๔ ให้ผมส่ง ๑๔ เล่ม ผมออกค่าใช้จ่ายเอง ๘,๐๐๐ บาท..เขตฯส่งให้ราชบุรี หรือเปล่า..ถ้าส่ง..เขตได้ตามเรื่องไหม..ว่าถึงมือ ผอ.เขตฯที่เป็นกรรมการฯหรือไม่อย่างไร...

ผมมาทราบทีหลังจากครู..ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายและแผนของเขตฯ ที่เป็นแม่งานนี้..ทราบเรื่องแล้วว่าไม่ถึงมือกรรมการ..แต่ไม่กล้าบอกผม กลัวผมกังวลใจ..นี่คือ ปัญหาปลายเหตุ ต้นเหตุ.ทำไมไม่รอบคอบกับภารกิจของโรงเรียนขนาดเล็กที่ ท่านผอ.เขต ๔ (ท่านไพฑูรย์ อรุณศรีประดิษฐ์) ให้ความสำคัญ เคยส่งไลน์มาย้ำเตือนผมเพื่อขอรับทราบความก้าวหน้าและพยายามจะส่งทีมงานมาดูแลช่วยเหลือ..ด้วยเห็นว่า..หนองผือ..มีกำลังน้อย

ผอ.เขตฯจะทราบไหมว่า..คณะทำงานของท่าน ส่งเสริมสนับสนุนผม ในขณะเดียวกัน ก็ส่งผมขึ้นไปเชือดนิ่มๆ โดยใช้ลูกยอปอปั้น..มากกว่าการทำงานที่มีประสิทธิภาพ..เพียงพอ

รายงาน ๑๐๐ หน้า..ของผมไปหล่นที่ไหน..ใครเก็บไว้..มันไม่ใช่สาระของใครก็จริง..แต่มันเป็นลิขสิทธิ์ของผม ที่ผมทำมันขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ..ใช้สติปัญญา ใช้เงินตรา ใช้เวลาราชการ..ผมคงเรียกร้องอะไรกลับคืนมาไม่ได้..นอกจากบันทึกนี้..เพื่อเป็นบทเรียนชีวิตและการทำงาน..

ท่านผู้อ่านคงเข้าใจผม..ถึงแม้ว่า..จะมีเอกสารของผมครบถ้วนในมือกรรมการ..ผมอาจจะไม่ได้ไประดับชาติก็ได้..แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า..ผมจะถูกตัดสินโดยที่ผมยังทำอะไรได้ไม่เต็มที่..อย่างนั้นหรือ..

อยากรายงานท่าน ผอ.เขต..ให้ได้รับทราบ ที่ท่านอุตส่าห์มุ่งมั่นทุ่มเทกับงานนี้เหลือเกิน...แน่นอน..ต้องมีคนเจ็บและรับผิดชอบ..ตอบปัญหาให้โรงเรียนขนาดเล็กบ้าง ..แต่ผมก็อึดอัด..เพราะฝ่ายนโยบายและแผน..ก็เป็นคน..ชง..ผมขึ้นไป..ให้ได้รับประสบการณ์และบทเรียน จนกลายเป็นบันทึกชิ้นนี้...ดังนั้น..การให้อภัย..จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

สำคัญที่สุด คือ ผมโชคดี..เพราะคนโชคดี ไม่ได้หมายถึงว่า พบแต่เรื่องดีๆ แต่เขาเห็นเรื่องดีๆ ในเรื่องไม่ดี..ต่างหาก...ผมคิดอย่างนี้จริงๆ..ปลงแล้วครับ

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๕ สิงหาคม ๒๕๕๘




หมายเลขบันทึก: 593175เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2015 21:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 สิงหาคม 2015 21:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ชื่นชมในตัวตนของอาจารย์ครับ

บทเรียนราคาแบงนะท่านผอ.คนเก่ง ที่แพงเพราะ....

ค่่าแห่งความพยายาม ค่าแห่งการทุ่มเท...และ ค่าแห่งกำลังใจ

แม้ไม่ได้หวังผลสุดท้ายที่ชัยชนะ แต่...ก็หวังว่า ทางเดินที่บากบั่น

จะต้องราบรื่น แก่...กลับสะดุดชนกำแพง...ที่โผล่มาจากไหนก็ไม่..

เป็นบทเรียนที่ต้องซื้อมาด้วยจิตวิญญาณของผู้กล้า...โดยแท้...!

ไม่เป็นไร...เดี๋ยวก็ถึงพรุ่งนี้แล้ว...ดวงตะวันยังเป็นของเราอยู่นะ...

ยิ้ม...เชิดหน้า...มองตะวันของเราเอาไว้ท่าน...เดินต่อไปจ้ะ

ถือเป็นประสบการณ์ราคาแพงเลยครับ

ผมอึ้งกับการเตรียมงานของ ผอ

แต่ผลมาจากการทำงานของสำนักงานที่ไม่ส่งเอกสาร

เดินหน้าสู้ต่อไปนะครับ ตามมาเชียร์

การได้ review เอกสารล่วงหน้าก่อน เป็นเรื่องจำเป็นของกรรมการ .. ที่ต้องทำความเข้าใจกับเนื้องาน รู้สึกเห็นใจค่ะ ..

เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยเลยนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อกรรมการ และเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับคนเตรียมที่ทุ่มเทอย่างมากมายทั้งแรงกายและทุนทรัพย์ แต่เมื่ออ่านมาถึงประโยคสุดท้าย ต้องขอแสดงความนับถือน้ำใจอาจารย์มากๆที่รับได้กับเรื่องนี้ ถ้าอาจารย์ไม่ได้รางวัล ก็น่าจะมีส่วนอย่างยิ่งจากการขาดเอกสารนี่แหละค่ะ แต่ถ้าได้ ก็ต้องถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

แต่ที่สุดแล้ว เชื่อว่ารางวัลเป็นเพียงส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่งานนี้ให้คนอื่นได้เอาไปปรับใช้แบบอ้างได้สวยหรูและใช้เป็นส่วนประกอบความก้าวหน้าในวิชาชีพ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อาจารย์ได้เอาชนะความยากลำบากทั้งมวล สร้างผลงานให้กับประเทศนี้ ที่จะมีคุณูปการใหญ่หลวงต่อชาติของเรา ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดค่ะ ขอชื่นชมอย่างสุดหัวใจเลย

เหตุการณืแบบนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้น..น่าเห็นใจ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท