..... โคลงสี่สุภาพ .....
๐๐๐ กางเขนดงก่งร้อง .......................ประชัน
กาเหว่าร้องเรียกกัน ............................กึกก้อง
นกเขาเล่าขับขัน ...............................บนกิ่ง...ยางนา
เป็ดป่าถลาร้อง ..................................พวกพ้องลงบึง
............................................................................
.....กาพย์ยานี ๑๑ .....
๐๐ กางเขนดงก่งร้อง ..........................ท่วงทำนองมาประชัน
กาเหว่าร้องเรียกกัน .............................ดังกึกก้องคล่องบรรเลง
๐๐ นกเขาเล่าขับขัน ...........................เสียงดังลั่นกระชั้นเพลง
เป็ดป่าบินมาเอง .................................เร่งสู่หนองลองจับปลา
๐๐ นกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่า ...................เป็นเรื่องเล่าในตำรา
มันเกาะและเสาะหา .............................ตัวแมลงแหล่งหลังควาย
๐๐ นกยางร่างสีขาว ............................คอมันยาวดูคมคาย
กินปลาและหอยลาย ...........................อยู่เป็นกลุ่มลุ่มท้องนา
๐๐ อีลุ้มนกคุ่มสี ..................................บินเร็วรี่หนีใครมา
แหงนหน้ามองท้องฟ้า ..........................เหยี่ยวตัวใหญ่ไล่จิกตี
๐๐ นกคุ่มบินหลบหลีก .........................เหยี่ยวกางปีกจิกทันที
สงสารนกคุ่มสี ....................................จบชีวีเพราะเหยี่ยวพลัน
๐๐ ต้นไทรใหญ่สาขา ...........................ฝูงนกกาอาศัยกัน
กินลูกของไทรนั้น ................................เป็นอาหารอันโอชา
๐๐ มะม่วงลูกร่วงหล่น ...........................สุกคาต้นจนเน่าคา
มะดันเปรี้ยวจริงหวา .............................เก็บลูกมาต้มปลาทู
๐๐ ชมพู่ดูชุ่มฉ่ำ ...................................ลูกแดงคล้ำอมชมพู
ลำไยขึ้นเคียงคู่ ....................................มะขามอยู่ดูงามตา
๐๐ ต้นไม้ทั้งน้อยใหญ่ ............................ที่อาศัยฝูงนกกา
ต้องช่วยกันรักษา ...................................อย่าโค่นป่า..อย่าทำลาย
ผู้ประพันธ์ : วันปีย์
.......... กาพย์ห่อโคลง ตามปกติจะเป็นการนำเอา กาพย์ยานี ๑๑ มาแต่งสลับกับ
โคลงสี่สุภาพ โดยจะต้องมีความหมายเดียวกัน หรือจะใช้ฉันท์ ในรูปแบบต่างๆ
มาแต่งสลับกับโคลง ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ ครับ
(เป็น) นักคิดนักเขียน เพียรอักษร
สื่อสารเป็นบทกลอน สะท้อนจิต
ตามองเห็นวรรคตอน ร้อยคำ ตามเห็น
เป็นปราชญ์ศิลป์ผลิต ถักถ้อยร้อยคำคม