สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2558

1. ปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

ในหัวข้อนี้ผมชอบประโยคที่ว่า “Learning how to learn” มันเหมือนเป็นการย้ำว่า ชีวิตก็คือการเรียนรู้แต่ก็ต้องมีวิธีการเรียนอย่างถูกวิธีเพื่อจะทำให้การเรียนรู้นั้นก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว

2. ทุนมนุษย์ Mindset Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยน

การเรียนหัวข้อนี้ทำให้ผมต้องกลับไปค้นเพิ่ม what’s a mindset? แล้วก็ต้องเจอกับคำว่า perspective, paradigm, framework ล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกัน แล้วก็พอจะเข้าใจลางๆว่า mindset มันคือสิ่งที่อยู่ลึกในจิตใจ คล้ายๆกับความรู้สึกกลัวผีทั้งที่ไม่เคยเห็น นั่นแหละ

3. CEO-HR-Non HR-Stakeholders

ประเด็นที่น่าสนใจจาก case study ของ อาจารย์เกริกเกียรติ คือกระบวนการที่ ต้องใช้คน 3 คน ทำงานเพื่อรับค่าจ้างเท่ากับคน 4 คน แต่ต้องได้งานเท่ากับใช้คน 5 คนทำ นั้น มันเริ่มต้นจากอะไรก่อน/ใช้กับพนักงานระดับใด/แล้วทำอย่างไรให้ทุกอย่างลงตัว(ทุกคนพอใจ) อันนี้ผมว่าน่าคิดและนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานของเราได้

สุดท้ายผมชอบวิธีการเรียนนะครับ หลังการบรรยายก็จะมีคนสรุป(คุณกล้า)ชอบเรื่องหญ้า ครั้งแรกเป็น หญ้าแฝก ต่อมาเป็น หญ้าแพรก แอบลุ้นอยู่ว่า ครั้งที่สาม อาจเป็นหญ้าอ่อน ฮ่าๆๆๆๆ(เสียดายไม่มี)

นับเป็นการเรียนรู้ศาสตร์ด้านการบริหารอย่างเป็นทางการและหลักการครั้งแรกของผม

หลังจากได้พิจารณาเนื้อหาหลักสูตรอย่างละเอียด และเห็นวิธีการสอนของทีมวิทยากร ตลอดจนบรรยากาศการเรียนรู้

สิ่งที่ได้ในวันนี้ที่ถือว่าสำคัญและคุ้มค่าที่สุด คือ ความอยากรู้อยากเรียน ซึ่งเดิมมันเกิดขึ้นและอยู่เหมือนตัวอ่อน embryo แต่วันนี้มันพัฒนาและเปลี่ยนรูปร่างไปเป็น fetus แล้ว

(หลังปฏิสนธิเกิดเป็นตัวอ่อนที่อวัยวะยังไม่ครบสมบูรณ์เราเรียกว่า embryo ประมาณ 8 สัปดาห์จึงเกิดพัฒนามีอวัยวะครบถ้วนจึงเรียกว่า fetus )

ผมตั้งใจทำให้ fetus ตัวนี้เจริญเติบโตเป็นเด็กทารกลืมตาสู่โลกภายนอกให้ได้ครับ

สรุปประเด็น เรียนรู้สู่การปรับใช้ในการทำงาน 16-7-58

รู้สึกคุ้มที่ได้ทิ้งงานมาเรียน เพราะได้เห็นความรู้หลายด้านจากอาจารย์ และเพื่อนร่วมเรียน เหมือนดอกไม้ที่หลายสีที่เมื่อนำมารวมกันก็จะสวยงาม ชอบคำที่อาจารย์ที่พูดว่า “การเรียนไม่ใช่แค่เรียนจบแล้วจบ แต่เรียนได้ตลอดการทำงาน การใฝ่รู้ และเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา และการพัฒนาให้เป็นคนเก่งและเป็นคนดี”

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทเรียน วันที่ 15 กรกฎาคม 2558

ท่านอาจารย์ได้กล่าวถึง สังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมการอ่านหนังสือ การทำงานที่ต้องทำควบคู่ไปกับการหาความรู้แล้วเอาความรู้ที่หาได้มาใช้ประโยชน์ ซึ่งมีหลายๆทฤษฎีด้วยกัน นอกจากนั้น การยกตัวอย่างบุคคลที่มีคุณค่าควรแก่การหาความรู้และแหล่งที่เราจะเรียนรู้ในหลายๆที่ด้วยกัน

เรื่องของ ทุนมนุษย์ คณะแพทย์ของเราได้มองเห็นถึงความสำคัญในการ “ปลูก” หรือพัฒนาคนในองค์กรซึ่งเป็นการเริ่มต้นทีดีที่จะนำไปสู่การพัฒนาเรื่องที่ดีๆ ในเรื่องของ mindset การปรับ fix mindsetต่างๆที่ไม่ดี เราสามารถทำได้

วิชาสุดท้าย อาจารย์ได้พูดถึง HR transformation สิ่งที่สำคัญคือการมี mildest ที่เป็นบวก และทำอย่างไรก็ได้ให้คนในองค์กร มองที่เป้าหมายเดียวกัน รวมถึงการส่งเสริมหรือพัฒนา soft skill ต่างๆเช่น การพัฒนาในเรื่องของความคิด

สุดท้าย..การมองนอกกรอบ (บ้าง) (Think outside the box) ภายใต้ความจริงที่เราต้องยอมรับ

เป็นสิ่งที่ยาก แต่สามารถทำได้ค่ะ

การเรียนรู้วันนี้ 15 กรกฎาคม 2558

1. จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจ ให้ตนเองอยากเรียนรู้/พัฒนา

**กำลังปรับพยายามปรับตัวเองให้เป็นสิงโต (เพราะ...ไม่อยากเป็น สุนัข 555)

2. CEO,HR,Non HR ต้องทำงานประสานไปด้วยกัน รู้หน้าที่ของแต่ละคน และเรื่องของการบริหารงานบุคคลเป็นหน้าที่ของทุกคน การปรับเปลี่ยนการบริหารงาน จะต้องมองเป้าหมายเดียวกัน เรียนรู้การทำงาน ไม่มองหาคนผิด แต่มองหาว่าสิ่งผิดพลาดนั้นจะแก้ไขได้อย่างไร

การใช้คนทำงาน 3 คน จ่ายค่าแรงเท่ากับ 4 คน เพื่อให้ได้ผลผลิตเท่ากับ 5 คน เป็นประเด็นที่น่าสนใจแต่จะทำอย่างไรในองค์กรของเรา

การเรียนรู้สำหรับวันแรก....15 กค 58

Lesson learn คือ...วิชาแรกการปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้...เริ่มจากการ C-U-V ค่ะ คือ เรียนรู้จากรุ่นที่ผ่านมา สิ่งที่ดี Copy อย่าง Understanding และทำให้เกิด Value Creation..ทำให้เกิดความเชื่อมั่น และเห็นประโยชน์ และสร้าง inspiration ของการเรียนรู้ How to? จากผลงานความสำเร็จที่ผ่านมาของหลักสูตร....อาจารย์แนะนำให้เกิดการปะทะทางปัญญา เติมเต็ม Value ของการเรียน...อธิ หญ้าแฝก หญ้าแพรก ข้าวตอก...เป็นคลังข้อคิดสะกิดปัญญาทั้งสิ้น รวมถึงการแนะนำหนังสือ และสื่อหลายช่องทางให้เรียนรู้นอกห้องเรียนได้....เพื่อการพัฒนาตัวเอง งาน และชีวิตแบบ lifelong learning นอกจากนั้นคำว่า ผู้นำที่ว่า...."ส่วนหนึ่งมาจากพรสวรรค์ แต่สิ่งสำคัญคือ การเรียนรู้และการฝึกฝน"...ขณะเดียวกัน 2R's มองความจริง ตรงประเด็น 2I's จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจ 3V's สร้างคุณค่า สร้างมูลค่าใหม่ สร้างคุณค่าจากการบริหารความหลากหลาย 3L's เรียนรู้จากความเจ็บปวด จากประสบการณ์ และจากการรับฟัง ที่สามารถ "Turn ideas into action"...จาก "Learn Care Share..."

Lesson learn วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์-Mindset Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยน....

8K’s+5K’s เป็นการเรียนรู้ที่เข้าใจทฤษฎีพื้นฐาน และทฤษฎีทุนใหม่เพื่อพัฒนาในยุคใหม่..ที่ชอบคือทุนที่มองไม่เห็นขององค์กรคือ…Happiness…ที่เป็น Social networking…โดยยังต้องคำนึงถึง จริยธรรม ความยั่งยืน และปัญญาต้องมาก่อน มาถึงตรงนี้ยอมรับว่า มุมมองของ Mr.William E.Heinecke..จากหนังสือ The Enterpreneur ที่โดนใจตั้งแต่ข้อแรก “Find a Vacuum and Fill it” และอีกประโยคที่ชอบมากคือ “Act quickly in a Crisis”…พอมาถึงตรงนี้ก็ได้ทำ Mind map ไว้เท่าที่จับประเด็นได้

เราต้อง Set สิ่งที่เป็น Mindset หรือ inner belief คือความเชื่อลึกๆที่อยู่ข้างใน.....ซึ่ง "Cultivation is not as important as Harvesting" "การเพาะปลูกสำคัญก็จริง...แต่การเก็บเกี่ยวย่อมสำคัญกว่า"และประเด็นที่โดนใจอีกประการคือ การ Flexible Mindset และ Growth Mindset นะคะ "ลูกพระบิดา"

Lesson learn วิชาที่ 3 คือ CEO-HR-Non HR-Stakeholders วิชานี้ทำให้เรียนรู้ว่า ลูกค้าคิดอะไร? ผู้ขายต้องการคนที่เป็นลักษณะใด? และ Competency อะไรที่สำคัญ? นอกจากนั้นจะพบว่า การเน้นให้บุคคลสร้างคุณค่า มีความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ เป็น Soft Skill ที่สำคัญกว่า Hard Skill และการพัฒนามนุษย์ที่สำคัญอีกประการคือ การให้เกิดผลทางการค้า Innovative thinking โดย"การต้องคิดให้เร็ว และมี Out resources สนับสนุนที่ดี" ในระหว่างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตัวอย่างที่ชวนคิดมีมากมายที่จำได้คือ Google Port polio ที่ต้องการคนที่มีประสบการณ์ และผ่านการฝึกทักษะที่ดีมากกว่าจะสนใจ GPA หรือสถาบันที่สำเร็จการศึกษา และการดูวิธีคิดของ Messenger ที่สะท้อนว่า "การศึกษาไม่สำคัญเท่ากับวิธีคิด" และสุดท้ายที่ได้ข้อสรุปคือ "การเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ และการที่ เก่ง ดี แล้วต้องขาย idea ให้ได้ด้วย" และฟังประเด็นของคณะแพทย์จากผู้เข้าร่วมอบรมพบว่ามีประเด็นที่ต้องใช้ Strategy ขององค์กรหลายประการใน Multiple crisis ที่เกิดขึ้นของการบริการ การรักษาสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างไรก็ตาม "มูลค่าคน > มูลค่าทางการตลาด" ดังนั้นการ Communication จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลง.....

สรุปประเด็นโดนใจ

หัวข้อ ทุนมนุษย์ mindset Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงของคณะแพทยศาสตร์มอ.

วิชาที่ 2 โดย ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

เน้นเอาศักยภาพคนออกมา เช่น การทำงานที่มีความสุข โดยการปรับ mild set ของตัวเราเองก่อน ว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือเปล่า ซึ่งการเป็นผู้นำที่ดีได้นั้นจะต้องมองภาพที่กว้างกว่าคนในโรงพยาบาล ซึ่งคุณสมบัติผู้นำในอนาคตคือ การจัดการกับวิกฤตที่เป็นอุปสรรคต่อคณะ ผู้นำที่ดีต้องมีความแกร่ง มีความมั่นใจ ต้องจริงใจต่อการแก้ปัญหา

นำไปใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันทั้งในเรื่องการทำงาน routine ในการบริการคนไข้และ การพัฒนาในสิ่งที่แปลกใหม่ ตามโลกปัจจุบัน

วิชาที่ 3 ดร. เกริกเกียรติ ศรีเสริมโภค หัวข้อ CEO – HR – Non HR – Stakeholders

จัดการระบบที่มีปัญหาโดยการดูที่ต้นน้ำและปลายน้ำ มองคุณค่าให้กับคนได้ เช่น soft skill หรือความคิดสร้างสรรค์โดยสร้างนวัตกรรมได้ เกิดผลและสร้างมูลค่าในการทำงานและโรงพยาบาล

นำไปใช้ประโยชน์ ในการผลิตบัณฑิต รังสีเทคนิคให้ออกมามีความสามรถที่เฉพาะด้านสูง ตลาดต้องการ โดยให้เน้นทำ portfolio ว่าทำอะไรไปบ้างซึ่งจะเน้นวิธีคิดและผลงานของนักเรียน ส่วนประโยชน์ของบุคลากรการทำงานคือ ได้เกิดความภาคภูมิใจในการสร้างนวัตกรรมแก่วิชาชีพ

สิ่งที่ได้เรียนรู้ประจำวันที่ 15 กรกฎาคม 2558

วันนี้ เป็นวันแรกของการเข้าเรียนตามโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทย์ศาสตร์ ม.อ.รุ่นที่ 3 ก่อนเข้าเรียนรู้สึกกังวลเล็กน้อย ด้วยความที่เราเป็นแขกที่ทางส่วนกลาง ส่งมาเข้าอบรม ท่ามกลางกลุ่มนักบริหารรุ่นใหม่ของคณะแพทย์ คงจะต้องเจอแค่คุณหมอ แต่พยาบาลวิชาชีพเจ๋ง ๆ เป็นแน่

แต่เมื่อมาเจอเข้าจริง ๆ ปรากฎว่า มีกลุ่มคนรุ่นใหม่หลายหลายวิชาชีพ และการต้อนรับอย่างเป็นกันเองจากทีมงานผู้จัด ทำให้คลายกังวลลงบ้าง เหลือเพียงทำจิตใจให้สบาย ๆ พร้อมรับการเรียนรู้ในเรื่องใหม่ ๆ

สำหรับการเข้าบ้านจีระ ในวันแรกนี้ ความประทับใจที่จับต้องได้ในเบื้องต้น คือ ตัวท่านอาจารย์จีระเองค่ะ ท่านยังคงเป็นบุคคลที่มีบุคลิกโดดเด่น มุ่งมั่นในทุก ๆ เรื่อง มีพลังงานอันมหาศาล จนแผ่มาถึงผู้เรียน เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านในห้องเรียน คงรู้สึกไม่ต่างกับดิฉัน ความประทับใจในลำดับถัดมา คือ เห็นเลยว่า ท่านผู้บริหารคณะแพทย์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรของคณะแพทย์จริง ๆ ถึงแม้ภารกิจท่านจะมากมาย แต่ท่านก็อยู่กับพวกเราเกือบตลอดเวลา สุดท้ายคือเพื่อนร่วมชั้นเรียน ด้วยความหลากหลายในสาขาวิชาชีพ ดิฉันเชื่อว่า คงจะได้มีโอกาสได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแบ่งปันประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ตลอดการเรียนในหลักสูตรนี้

สำหรับในตัวเนื้อหาหลักสูตร ประทับใจหลายเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี 8K’s และ 5K’s เหมือนที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่า ทฤษฎีพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะสายวิชาชีพ HR คุ้นชื่อในแต่ละเรื่องอยู่แล้ว แต่พอถึงเวลานำมาใช้จริง ๆ บางทีเรายังให้ความสำคัญหรือเน้นไม่ตรงจุด ก็คงเป็นจริง อย่างที่ท่านพูดค่ะว่า มหาวิทยาลัยเองในฐานะเป็นส่วนกลางในการดูแลการพัฒนาบุคลากรในภาพรวม เราเองยังทำอะไรไม่สุด ทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ ผลที่ออกมาก็เป็นแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เรายังกินบุญเก่าอยู่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดซะที ซึ่งตรงนี้ ก็ย้อนกลับมาชื่นชมมุมมอง แนวคิด ของท่านผู้บริหารคณะแพทย์ ที่ท่านทำแบบสุด ๆ จริง ๆ ค่ะ

ท้ายสุดขอขอบคุณท่านรองอธิการบดีฝ่ายบุคคลและประกันคุณภาพ นพ.บุญประสิทธิ์ กฤตย์ประชา ที่ท่านส่งดิฉันให้มาเข้ารับการอบรมในหลักสูตรนี้ เพราะท่านคงอยากให้ดิฉันได้มาพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ที่ใครๆ พูดว่า CHIRA ACADEMY ดีนั้น ดีอย่างไร

ติดตามและอ่านครับ รุ่นสาม

สิ่งที่ได้จากการเรียน วันที่ 15/7/2558

คนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดขององค์กรจึงต้องจัดการคนให้มีคุณภาพโดยการพัฒนาศักยภาพของคนโดยใช้ 8K's+5K's สิ่งที่จะนำมาปรับใช้กับตัวเองก่อนก็คือ ต้องมีการพัฒนาเพิ่มความรู้โดยการขยันอ่านและศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้นต้องทำงานควบคู่กับการเรียนรู้ ทำงานอย่างมีความสุขแต่มีคุณภาพ

mindset ทำให้ได้แนวคิดว่าไม่ควรยึดติดกับงานเดิมๆ จะนำมาใช้พัฒนาตัวเองในงานประจำคือในการดูแลผู้ป่วยต้องมีการศึกษาหาความรู้เพิ่มเพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดจึงไม่ควรยึดติดกับงานเดิม ๆต้องคิดนอกกรอบบ้าง

ในส่วนของ ดร.เกริกเกียรติ ทำให้คิดถึงคนต้นแบบ คิดถึงการพ้ฒนาต่อยอด โดยมองที่ความต้องการของผู้รับบริการเป็นหลัก โดยต้องมีความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องนั้น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการให้ได้

และที่สำคัญต้องหยั่งรากให้ลึกเหมือนหญ้าแฝกให้ได้

สรุปประเด็นที่ได้รับจากการฟังบรรยายวันแรก 15-7-58 ครับ

ช่วงปฐมนิเทศ

เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่เมื่อก่อนไม่เคยนึกถึงและไม่เคยคิดที่จะสนใจเลยไม่รู้ว่าเขาเรียนอะไรกันทำไมต้องเรียน ถึงเวลาก็ทำงานมีคนมาช่วยงานก็ใช้เขาทำงานบ้างทำเองบ้าง ได้แต่ทำงานไปพอเจอปัญหาก็มานั่งคิดเองว่าจะแก้อย่างไรคิดเองเออเอง โดยไม่รู้ว่ามีวิธีการมีแนวคิดด้านนี้ที่ทรงคุณค่าอยู่

หัวข้อ ทุนมนุษย์-Mindset Leadership คือ วัฒนธรรมความคิดที่ฝังลึกอยู่และมีผลถึงการกระทำที่แสดงออกมาของผู้นำและผู้ร่วมงาน

สรุปโดยรวม เป็นหัวข้อที่กล่าวถึงการเปิดใจและเห็นถึงความสำคัญของบุคคลคือจะทำอะไรสักอย่าง ต้องมีแนวคิดมีจุดมุ่งหมาย(Attitude)และจะมีวิธีการ(Strategy)อย่างไรให้บรรลุจุดมุ่งหมายนั้นโดยผู้ออกนโยบาย(Leadership)และผู้ปฏิบัติสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมีทัศนคติที่ดีต่อจุดมุ่งหมายนั้นๆร่วมกันสามารถนำไปเป็นแนวทาง(Strategy)ในการปฏิบัติได้อย่างยั่งยืนเป็นวัฒนธรรมสืบต่อไป

หัวข้อ CEO-HR-Non HR-Stakeholders

เป็นหัวข้อที่ตรงกับปัญหาที่หน่วยงานพบอยู่ทั้งจากการบรรยายและอภิปรายในช่วงท้ายและวิธีการแก้ไขที่น่าจะเป็นไปได้ถึงแม้ว่าโดยหลักเนื้อหาตรงหัวข้อนี้จะเน้นเกี่ยวกับทางด้านของบริษัทการค้าแต่ก็มีวิธีการที่สามารถเอามาปรับใช้ได้กับโรงพยาบาลเลยโดยเฉพาะโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบแล้ว

ตัวอย่างของปัญหา

ปัจจุบันและอดีตที่ผ่านมาหน่วยรังสีรักษาคณะแพทยศาสตร์ มอ.ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ได้มีการนำเครื่องมือที่มีความทันสมัยและก้าวหน้าเป็นอย่างมากมาใช้ในการให้บริการรักษาโดยการฉายรังสีให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง จะกล่าวได้ว่าเป็นเพียงแห่งเดียวในภาคใต้ที่มีการนำเครื่องมือที่มีความสามารถสูงระดับนี้มาใช้งาน (เปรียบเทียบกับสถาบันมะเร็งจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งยังมีเครื่องมือไม่พร้อมหรือมีความก้าวหน้าของเครื่องมือยังไม่มีความหลากหลายเท่ากับของ มอ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ) ณ ปัจจุบันถึงแม้ว่าเราจะมีความพร้อมและความหลากหลายทางด้านเครื่องมือที่สูงมาก จนถือได้ว่าอยู่ในระดับแนวหน้า ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยก็สามารถกล่าวได้ แต่หน่วยรังสีรักษา “ก็ไม่เพียงแต่หน่วยรังสีรักษาที่เดียวที่ขาดแคลนบุคลากร นักรังสีการแพทย์ หน่วยรังสีวินิจฉัย หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตลอดจนหน่วยอื่นๆของคณะแพทยศาสตร์ มอ ที่เครื่องมือทางรังสี ได้มีการขาดแคลนบุคลาการ นักรังสีการแพทย์เหมือนกันหมด”

แต่ในส่วนของรังสีรักษา มีความขาดแคลนมากที่สุดปัจจุบันเรามี8คน โดยขาดถึง 18 คน (ตามมาตรฐานของทบวงปรามณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA) และในส่วนของนักฟิสิกส์การแพทย์ ที่ทำหน้าที่ในการคำนวณปริมาณรังสี การควบคุมคุณภาพของการรักษา ควบคุมคุณภาพของเครื่องฉายในระดับสูงยังมีความขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน ดังเช่นเครื่องฉายรังสีชนิดความเข้มสูง TRUE BEAM ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ มอ มีเครื่องมีชนิดนี้ เป็นลำดับที่สามของประเทศตามหลัง โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่ของ มอ มีเครื่องที่มีความก้าวหน้าและทันสมัยมากกว่า ซึ่งในขณะนี้ก็ได้มีการทยอยนำเครื่องมือชนิดนี้มาให้บริการ ที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุย์ กรุงเทพ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์กรุงเทพ และ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่ จ.ขอนแก่น แต่ทุกที่ยกเว้นโรงพยาบาลเอกชน ประสบปัญหาเดียวกันคือ ขาดแคลนนักรังสีการแพทย์ และนักฟิสิกส์การแพทย์ ที่จะใช้ในการควบคุมเครื่องมือต่างๆเหล่านี้ ในผู้ป่วยบางรายมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องฉายด้วยเทคนิคพิเศษ เช่น SRS SBRT ซึ่งต้องใช้เวลาในการคำนวณโดยนักฟิสิกส์การแพทย์ นานกว่าหนึ่งอาทิตย์ ทำให้ปัจจุบันเราสามารถให้บริการด้วยเทคนิคนี้ได้เพียงเดือนละ 1 case เท่านั้น ในห้องฉายบางห้อง ต้องปิดให้บริการ และบางห้องต้องให้บริการแบบหนึ่งห้องเปิดช่วงเช้าอีกหนึ่งห้องเปิดช่วงบ่ายแทน

สรุปประเด็นที่ได้รับจากการฟังบรรยายวันแรก 15-7-58 ค่ะ

1. ประเด็นแรกจากการปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้นั้น เริ่มแรกจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เลย แต่ก็เริ่มเห็นภาพและเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะที่อาจารย์คณบดียกตัวอย่างเรื่องสิงโตเป็นผู้นำ ทำให้เราได้คิดว่าในเมื่อเราเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนองค์กร ถ้าเราก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีศักยภาพเราจะช่วยให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง

2. ประเด็นที่ 2 เรื่องของ ทุนมนุษย์ -Mindset Leadership สำหรับเรื่องของ Mindset นั้นเนื่องจากเป็นเหมือนกระบวนการทางความคิด เป็นความเชื่อที่ฝังลึกซึ่งจะมีผลต่อพฤติกรรมและการกระทำต่างๆ ฉะนั้น Mindset จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์เป็นอย่างมาก การเสริมสร้าง Mindset Leadership ที่ดีจึงเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั่นเอง เริ่มแรกเลยก็คงเป็นเรื่องของการเปิดกว้าง ทำให้ว่าง พร้อมที่จะเรียนรู้และหาโอกาสในการเรียนรู้

3. ประเด็นที่ 3 เรื่อง CEO-HR-Non HR-Stakeholders เรื่องนี้ อ.เกริกเกียรติได้เล่าเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก แม้เป็นในแง่ของทางธุรกิจแต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถือว่าไกลตัวเราเลย มีคำพูดหนึ่งที่อาจารย์พูดไว้คือ วันนี้ (คราวนี้) ผลการทำงานดีแล้ว แต่พรุ่งนี้ผลการทำงานจะต้องดีกว่า คือไม่มีอะไรที่ดีที่สุด วันนี้ดีแล้วก็จริงแต่วันต่อไปก็จะดียิ่งๆขึ้นไปอีกนั่นเอง

สิ่งที่ได้จาการเรียนรู้ วันที่ 15 ก.ค.2558

ทำให้ทราบว่าคน คือทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามากที่สุดในองค์กร เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการคนเป็นอันดับแรก ถ้าคนดีแล้ว ทุกอย่างที่เหลือก็จะดีตามมา ซึ่งการบริหารทุนมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จไปสู่ความเป็นเลิศซึ่งประกอบไปด้วย 3 เรื่องใหญ่ คือ 1.) ปลูก ต้องมี 8 K’s + 5K’s ซึ่งจะทำให้คนเป็นคนที่ดีและมีพร้อมทุกด้าน 2.) เก็บเกี่ยว เมื่อเราสร้างคนแล้ว ก็จะมีคนเก่งในองค์กร ต้องให้เขาทำงานให้เราอย่างเต็มความสามารถ โดยให้เป้าหมายของตัวเองกับเป้าหมายขององค์กรไปด้วยกัน 3.)Execution คือต้องทำให้สำเร็จ เอาชนะอุปสรรค ถึงแม้ว่าอุปสรรคจะยากแค่ไหน จากความรู้ที่ได้ ดิฉันคิดว่าควรจะเริ่มสร้างคนในหน่วยงานของตนเองก่อนแล้วเมื่อทุกหน่วยงานมีคนดี คนเก่งแล้วเมื่อได้รับการสนับสนุนในองค์กรจะทำให้ทั้งองค์กรมีคนดีและมีคุณภาพตามไปด้วย ซึ่งต้องทำให้คนในหน่วยงานทำงานได้อย่างมีความสุข รักในหน่วยงานและองค์กรต่อไป ไม่ลาออกไปทำงานที่อื่น ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ยากแต่เราก็ต้องพยายามทำให้ได้ โดยการสร้างความผูกพัน แรงจูงใจให้คนอยากอยู่ทำงาน ให้โอกาสในการเรียนรู้ การพัฒนา และความมั่นใจในความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน เช่นส่งเข้าอบรม เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน เพื่อให้มีความรู้และเกิดความผูกพันที่จะนำความรู้ ความสามารถที่พัฒนานั้นออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรอย่างเต็มที่

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฏีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

เมื่อได้ทราบถึงความเป็นมาของการจัดโครงการ ตั้งแต่การเริ่มคิด จนเข้าสู่กระบวนปรับสิ่งที่คิดให้เป็นการปฏิบัติจริงผ่านผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความเชี่ยวชาญอย่างสูง ทีมงานทุกฝ่ายดำเนินการด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างทุนมนุษย์ซึ่งถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุด

หนูเป็นคนที่หน่วยงานส่งชื่อเข้ามาร่วมการอบรมซึ่งก่อนหน้านี้อาจจะไม่ทราบความเป็นมาของโครงการมากนัก มีความรู้สึกประทับใจ ได้เห็นถึงความตั้งใจและความคาดหวังของคณะแพทยศาสตรฯและวิทยากรทุกท่าน หนูจึงตั้งใจไว้ว่าจะทำหน้าที่ของผู้เรียนให้ดีที่สุด เรียนรู้ ค้นคว้า ศึกษา สอบถาม ทบทวน ประเมินตนเอง เพื่อให้เกิดการพัฒนาตามแนวทางที่ท่านอาจารย์จีระและวิทยากรทุกท่านให้ไว้

ประทับใจทฤษฏีในการพัฒนาตนเองเรื่องการเรียนรู้ตลอดเวลา ความรู้ไม่มีสิ้นสุด คิดว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันค่ะ

•ฝึกการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา •input ที่ดี •Good system thinking •Creativity thinking •การพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืนในทุกเรื่อง

วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์-mindset leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงของคณะแพทย์ ม.อ.

จากทฤษฏี 3 วงกลม ความท้าทายของผู้นำคือทำอย่างไรให้ทั้ง 3 วงกลม มาบรรจบรวมเป็นวงเดียวกันเพิ่มพื้นที่สีแดงให้เต็ม 100% เพื่อให้มี maximized human capital มากที่สุด

วิชาที่ 3 CEO-HR-Non HR-stakeholders

เพื่อให้เกิดความสำเร็จในการบริหารคนในยุคใหม่ คนทำงานในทุกฝ่ายตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงระดับผู้ปฏิบัติงานทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับงานทรัพยากรบุคคล รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในบริบทอื่น เช่น รับฟังเสียงจากลูกค้า และ partner

ทั้งหมดต้องทำงานประสานกัน หมุนไปในทิศทางเดียวกัน ผ่านระบบการบริหารจัดการที่ดี ภายใต้แนวคิดที่พร้อมจะพัฒนาองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศ เพราะหากฟันเฟืองตัวใดตัวหนึ่งไม่พร้อมทำงาน ทั้งระบบก็จะล้มเหลวไปด้วย

โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทย์ มอ. รุ่นที่ 3

ความรู้ที่ได้ประจำวัน วันที่ 15 ก.ค. 2558

1. แนวคิดการเรียนรู้ Learn Share Care คือ เราต้องเรียนรู้จาก Mindsetของตนเองก่อน ปรับเปลี่ยนมุมมอง แนวคิด ทัศนคติของตนเองไปสู่พฤติกรรมใหม่ๆด้านบวก พร้อมที่จะเรียนรู้ ยอมรับแนวคิดใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พัฒนาตนเองให้เหมาะสม ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น และดูแลซึ่งกันและกัน ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง พัฒนาหน่วยงานให้ไปถึงเป้าหมายหลักขององค์กร

2.thinking outside the box มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิดนอกกรอบ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ในองค์กรเพื่อพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้ฝึกฝน คิดแบบผู้ประกอบการพร้อมๆไปกับการสร้างเครือข่าย

3.แนวคิดการแก้วิกฤต

ประเด็นชวนคิด คือ ทำอย่างไรให้ผู้นำระดับสูงจนถึงระดับล่าง มองเป้าหมายเดียวกัน

ประเด็นประทับใจ : หลักการบริหารแบบ 3, 4, 5 (3คนทำงาน ,4 ค่าตอบแทน,5 Productivity)

คิดว่าน่าจะโดนใจผู้บริหารระดับสูงของคณะแพทย์ปัจจุบันเพราะท่านสนับสนุนการทำงานที่มีผลงานคุณภาพ โดยไม่เกี่ยงที่จะจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับงาน

เมื่อทุกหน่วยงานผลิตผลงานที่มีคุณภาพย่อมนำพาคณะแพทย์ไปสู่เป้าหมาย คือ สามารถเป็นคณะแพทย์ชั้นเลิศระดับนานาชาติ เพื่อสังคมไทยได้…

นาง จิฬารัตน์ ปาณียะ แผนกผ่าตัดเล็ก

1.ทุนมนุษย์ ได้เรียนรู้ ภาวะผู้นำ ที่ต้องมีคุณสมบัติกล้าพูด กล้าแสดงออก กล้ามีความคิดนอกกรอบในเชิงสร้างสรรค์ และ ต้องมีการจัดการ กับการเปลี่ยนแปลงและภาวะที่วิกฤติเกิดขึ้นได้

2. การบริหารทุนมนุษย์ที่เป็นเลิศต้องประกอบด้วย

2.1 ปลูก

2.2 เก็บเกี่ยว

2.3 ทำให้สำเร็จ

3. การบริหารองค์กร ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามให้ทันโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ต้องมี networking และมีนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับระดับสากล

1.การบริหารทุนมนุษย์ ประกอบด้วย 3 เรื่อง

1.1ปลูก ต้องมีการพัฒนาศักยภาพของคนให้เป็นเลิศ

1.2การเก็บเกี่ยว ต้องให้ผู้อื่นทำงานให้เราอย่างเต็มความสามารถ

1.3 ทำให้สำเร็จ โดยจะต้องมีวัฒนธรรมองค์กร

-silo based

-leadership

-ทีมทำงาน

2.การปรับเปลี่ยนการบริหารทรัพยากร ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ทันโลก โลกาภิวัฒน์ นวัตกรรมใหม่ มีเครือข่าย จึงจะทำให้ได้ในยุคปัจจุบัน

เรียนรู้วันแรก

การบริหารทุนมนุษย์ เป็นเรื่องที่วัดปริมาณไม่ได้ เป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ แต่ต้องมองจากคุณภาพ มุ่งเน้นการบริหารทุนมนุษย์ใน 3 ประเด็นใหญ่ๆ ปลูก โดยใช้ทฤษฎี 8 K’s ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ + 5 K’s (ใหม่) เป็นทฤษฎีทุนใหม่ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในยุคโลกาภิวัฒน์ เน้นการพัฒนา Competecies โดยเฉพาะในเรื่อง Entrepreneurial competency เพื่อสร้างจิตวิญญาณ เก็บเกี่ยว ต้องให้คนในองค์กรทำงานเต็มความสามารถ โดยมีเป้าหมายไปในทางเดียวกัน ซึ่งต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้คนทำงานเต็มที่ เต็มความสามารถ และ HR Execution ต้องทำให้สำเร็จเอาชนะปัจจัยที่เป็นอุปสรรค

Mindset Leadership

การพัฒนาต้นทุนมนุษย์ ให้เกิด Leadership ที่เป็นผู้มีความสามารถจัดการกับการเปลี่ยนแปลงและวิกฤต (Crisis) ที่ Fast ,Uncertainly ,Unpredictable

คุณภาพของผู้นำที่สำคัญประการหนึ่งคือ การสื่อสารให้ตรงกับ crisis นั้นๆ ต้องคิดเป็น มีการปรับ mindset

Mindset แตกต่างกับ Attitude

Mindset เป็นทัศนคติที่มีมานาน ฝังรากลึก จนเป็นความเชื่อ แสดงออกเป็นพฤติกรรม มีทั้งแง่บวกซึ่งต้องเก็บรักษาไว้ แง่ลบที่ต้องหาทางกำจัดออกไป และปรับ Fixed mindset ไปสู่ Growth mindset

CEO – HR –Non HR – Stakeholder

• เป็นการบริหารงานในยุคดิจิตอล เป็นการปรับกระบวนการ ปรับ mindset ของคน โดยมีองค์ประกอบในการบริหารงาน ได้แก่ มองคุณค่าคนกับคุณค่าทางธุรกิจ ศักยภาพคนนำสิ่งที่ซ้อนอยู่ในตัวบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยขน์ ความหลากหลาย มีการนำ Non HR , Stakeholder มามีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกัน เข้ามากำหนดมาตรฐานร่วมกัน

• มีการประเมินองค์กรว่าปัจจุบันอยู่ตรงไหนและจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร
• มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเกิด Para dram shift

….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

ประเด็นโดนใจ คือ ภาวะผู้นำที่จะจัดการกับภาวะวิกฤตได้ ต้องมีศักยภาพดังต่อไปนี้

• ต้องมีความแกร่ง Resilience
• ต้องมีความนิ่ง Calm
• ต้องมีทางออกหลายทางที่เหมาะสม
• ต้องมีแนวคิดใหม่ๆ creativity
• ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง
• ต้องมีความจริงใจต่อการแก้ปัญหา
• ต้องขณะทำไม่สำร็จ ต้องให้ประชาชนยังมองว่ายัง “นำ” อยู่
• ต้องสื่อสารให้ความหวังกับคนส่วนใหญ่ตลอดเวลา
• ต้องเสียสละส่วนตัวเพื่อส่วนรวม

การนำไปใช้ประโยชน์

• นำไปปรับใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ /เกิดข้อร้องเรียน

วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์- Mindset Leader shipและการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยน

ประเด็นโดนใจ คือ จริยธรรมความยั่งยืน และปัญญาต้องมาก่อน Creativity หรือ innovation และที่ประเมิณยากที่สุดอาจะเป็นทุนที่มองไม่เห็น เช่น Happiness หรือ social (networking) องค์กรที่ดีมักเริ่มจาก Happiness ก่อน

การนำไปใช้ประโยชน์

นำไปปรับใช้ ให้บุคลากรในหน่วยงาน มีความสุขในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีแรงจูงใจในการทำงาน และทุ่มเทเพื่อองค์กร

วิชาที่ 3 Panel Dission and Workshop หัวข้อ CEO- HR- Non HR – Stakeholder

ประเด็นโดนใจ คือ ประเด็น 3-4-5

3 คือคนทำงาน จ่ายให้เท่ากับ 4 คนทำงาน และผลผลิตต้องได้มากกว่า 5 คนทำงาน

การนำไปใช้ประโยชน์

นำไปปรับใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คนทำงานน้อย แต่ให้ค่าตอบแทนที่พึงพอใจ และผลลัพธ์ที่ได้มากกว่าการลงทุนคือกำไร

สรุปประเด็นรายวิชา วันที่ 15 กค. 58

รายวิชาที่ 1

- เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างศิษย์อาจารย์

- สร้างภาวะผู้นำ เพื่อนำไปปรับใช้กับการทำงาน

- ความรู้แบบไม้เลื้อย หาง่าย แต่ต้องการไม้หลักให้เกาะ (การเอื้อประโยชน์ระหว่างคนเก่ง ไม่เก่ง)

- โครงการหญ้าแฝกในพระองค์ ห้วยห้องไคล้ หัวหิน ไม่ใช่เพราะดินดี แต่เป็นเพราะรากหญ้าแฝกทะลุทะลวงดิน ทำให้ดินแตก ดินร่วน เปรียบเสมือนในองค์กรจะมีคนหลาย ๆ รูปแบบอยู่ร่วมกัน

- การทำงานร่วมกับการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์มาวิเคราะห์ปะทะความจริง

รายวิชาที่ 2

- ภาวะความเป็นผู้นำ นอกจากการเรียนรู้คือประสบการณ์ ภาวะผู้นำมาจากพรสวรรค์ แต่สามารถเรียนรู้ได้

- การปรับ Mindset มาเป็นพฤติกรรมใหม่

รายวิชาที่ 3

- สมัยก่อนการบริหารคนเป็น focus ปัจจุบันดูลูกค้าเป็นหลัก

ความรู้ที่ได้ในวันแรก จะนำไปปรับใช้ในการทำงานค่ะ

สิ่งที่เราได้รับจากการอบรมพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทย์ รุ่นที่ 3

วันแรก วันที่ 15 กรกฎาคม 2558 กลุ่ม 5 ..... ชื่อ นางโสภิณ แก้วสลับศรี

ก่อนอื่นก็ต้องสารภาพก่อนว่า งงๆ หลายเรื่องรู้สึกสับสน (So confused) กับคำใหม่ๆ และรู้สึกว่า มันยากมาก แล้วเราจะก้าวผ่านความกดดันเหล่านั้นไปได้หรือไม่ แต่ด้วยความเป็นนักวิชาการศึกษา ผ่านเรื่องราวอะไรมากมายหลายเรื่องอาจเป็นคนคนหนึ่ง ที่อยู่ในหลายยุค หรือกล่าวว่าเป็นคนร่วมสมัยคนหนึ่ง พอมีอะไรใหม่ๆ เข้าอาจจะต้องใช้เวลาทำเข้าใจสักระยะเพื่อปรับทัศนคติ ปรับความคิด ให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มองทุกอย่างที่มีอยู่ให้เป็นโอกาส และคิดเสมอว่า เราต้องทำได้ มาสะดุดกับคำพูดของท่านอาจารย์อีกอย่าง เราต้องเปิดสมอง เปิดใจรับ และ “หากต้องการชนะ ในอนาคต คุณต้องหาอาวุธใหม่” นั่นคือการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่เราต้องยืนอยู่ให้ได้บนความเปลี่ยนแปลงอันนั้น อย่างมั่นคง และองอาจ ยิ่งสังคมปัจจุบันเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสังคมออนไลน์ เราจึงต้องใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ นั่นคือการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด Life Long Learning

ได้รู้จักคำว่า Moment เปลี่ยน Moment ของเราให้อยากรู้อยากเห็น ปรับสมอง (Nero Science) ให้รับรู้กับศาสตร์ใหม่ๆ และพฤติกรรมให้ดีขึ้น มาถึงตอนนี้ ก็รู้สึก คงต้องมอบความดีความชอบให้กับหัวหน้าที่ส่งมาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้รู้ว่า จริงๆ มีหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่อาจารย์และทีมงานได้มาแนะแนวทางให้เรากลับไปศึกษาเพิ่มเติม หัดคิด และต้องคิดก้าวข้ามอย่าคิดแบบเดิมๆ นั่นคือ การคิดให้เป็นคิดนอกกรอบมันก็กลายเป็นที่มาของการอบรม เพราะทรัพยากรที่สำคัญที่สุดขององค์กร คือ “คน” ถ้าเราให้คนของเรา รู้จักคิดจะได้นำพาองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศในทุกด้าน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกับวิกฤตต่างๆ ได้ไม่ว่า วิกฤตเหล่านั้น จะรวดเร็วแค่ไหน หรือไม่แน่นอน หรือไม่สามารถทำนายได้มันอยู่กับเรานานแค่ไหน เราก็ผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นได้

Learn Share Care และคนในองค์กรต้อง เก่ง ดี มีสุข คิดเป็น และแก้ปัญหาได้ ก็เลยเป็นที่มาของการอบพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทย์ แต่เราจะเอาคนทั้ง 30,000 คนของคณะแพทย์ มาก็คงเอามาไม่ได้ทั้งหมด และต้องเลือกบุคคล มาเรียนรู้ เพื่อนำไปถ่ายทอด และบริหารบุคลากรของตนเองให้ได้เพื่อนำพาคณะแพทย์ไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

สรุปประเด็นเรียนรู้สู่การปรับใช้

วิชาที่ 1 ทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

เข้าใจความสำคัญของการเรียนรู้ท่ามกลางกระแสของการเปลี่ยนแปลง นำไปปรับใช้ในหน่วยงานในฐานะของหัวหน้างานทำให้หน่วยงานมีบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี การสร้างโอกาสจากการเรียนรู้ร่วมกัน ปรับการทำงานให้มี 3 V คือ Value Added การสร้างมูลค่าเพิ่ม Value creation การสร้างคุณค่าใหม่ Value diversity สร้างคุณค่าจากการบริหารความหลากหลาย

วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์ - Mindset leadership และการทำงานในยุคที่เปลี่ยนแปลง

ผู้นำส่วนหนึ่งมาจากพรสวรรค์แต่สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้และสามารถฝึกฝนได้ นำไปปรับใช้ในการทำงานในฐานะผู้นำหน่วยงานคือผู้นำต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ต้องมองภาพกว้างออกสู่สังคมภายนอก ปรับ Mindset thinking outside the box การบริหารทุนมนุษย์โดยยึดหลัก ปลูก เก็บเกี่ยว execution

วิชาที่ 3 CEO -HR- Stakeholders

ในการคิดสินค้าหรือบริการ keep it simple and stupid คือการไปเอาความรู้สึก ความคิดของลูกค้าก่อนมาผลิต เช่นเดียวกับในการการทำงานให้บริการพยาบาล การสนใจความต้องการของผู้ป่วยและญาติมีความสำคัญ การบริหารงานให้ตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ การพัฒนาคุณภาพการบริการหรือสินค้าต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องคิดนอกกรอบ คิดเป็น innovation thinking เกิดผลทางการค้าและเกิดผลกับธุรกิจ

สรุปเนื้อหา วันที่ 15 กรกฎาคม 2558

ประเด็นที่ 1 ทุนมนุษย์

ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน ไม่ใช่เงิน สิ่งของหรือเครื่องจักร แต่เป็นคน

คน คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร

ประเด็นที่ 2 ภาวะผู้นำ

1.ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ต้องจัดการการเปลี่ยนแปลงและวิกฤตที่ อย่างรวดเร็ว

ไม่แน่นอน ทายไม่ได้

2.รวบรวมความคิดของคนในองค์กร มารวบยอดเป็นของทุกคนในองค์กร

3.ต้องมีความตั้งใจ มุ่งมั่น แน่วแน่ ในการแก้ปัญหา การพัฒนาหน่วยงาน

4. สร้างแรงจูงใจ ให้คนในองค์กรกล้าแสดงออก นำความคิดสู่การปฏิบัติ

5. กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ

6. มองไปข้างหน้า

ประเด็นที่ 3 ทัศนคติ (Mindset)

1. Mindset คือความเชื่อ ที่ฝังรากลึกที่อยู่ภายในยากต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรับ จากอิทธิพล

การศึกษา การทำงานและครอบครัว ต่อมากลายเป็นปรัชญาของชีวิต และงาน

2. Mindset ที่ไม่เหมาะสมอาจสร้างความขัดแย้ง ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

การนำมาปรับใช้

สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากร ค้นหาทัศนคติ (Mindset) ของคนในองค์กร ส่งเสริม Mindset ที่เป็น Positive และปรับทัศนคติ Mindset ใหม่ ที่ดีกว่าเดิม ด้วยการค้นหา เริ่มจากตัวเอง

leaarn share care สามคำนี้จำแม่นจากการเรียน และจะนำไปใช้กับการทำงานให้มากขึ้นค่ะ

ประเด็นที่นำมาใช้ในการทำงานคือ3 4 5 คือ ใช้คน3 คน ทำงานได้4 ชื้นและต้องให้ได้ผลลัพธ์เท่ากับ5 ทั้งนี้ต้องนำหลักการที่ฝั่งอยู่ในmindset มาปรับให้เข้ากับคน นั่นคือการใช้ทุนมนุษย์ที่คุ้มค่า

วันแรกที่ได้จากการได้เข้าโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทยศาสตร์ รุ่น 3

ดิฉันอยู่ในหน่วยคลังพัสดุ ซึ่งเป็นหน่วยงานสายสนับสนุน ในการให้บริการวัสดุทางการแพทย์ ในการรักษาผู้ป่วย

ทำหน้าที่บริหารจัดการวัสดุให้เพียงพอ ลดต้นทุนการสต็อก พร้อมทั้งบริหารจัดการพื้นที่ในการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการอบรมหัวข้อภาวะผู้นำ ทุนมนุษย์ และ Mindset เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะ

เกิดขึ้น ได้ปลุกความคิดของดิฉัน ที่มีความกลัวกับการเปลี่ยนแปลงในการรับมอบหน้าที่ใหม่ ที่ไม่มีประสบการณ์ อันดับแรก เปิดใจรับ ต้องสร้างคุณค่าในตัวเองก่อน สร้างความเชื่อมั่นว่าฉันต้องทำได้ มันไม่ยากสำหรับการเรียนรู้ อาจจะยากครั้งแรกที่ลงมือทำ เช่น เป็นกรรมการเปิดซองสอบราคา ซึ่งต้องร่วมงานกับบุคลากรตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตกว่า ทั้งหัวหน้าพยาบาล อาจารย์แพทย์ ผู้บริหาร ผู้จัดการบริษัทต่าง ๆ ต้องใช้ประสบการณ์ในการทำงานด้านพัสดุเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ต้องศึกษาข้อมูลผู้จำหน่าย และหาข้อมูลเชิงรุกจากหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบราคา ต้องได้ราคาถูกและต้องคุณภาพดี เพื่อไม่ให้ส่วนราชการของเราต้องเสีย

1. วิกฤติในคณะแพทย์ฯ แบบมาแล้วมาอีก (Permanent Crisis) และมาหลายรูปแบบชนิดขนมชั้น ( Multiple) เกิดขึ้นอย่างไร

• -เกิดจากการสื่อสารระหว่างผู้บริหารลงสู่ผู้ปฏิบัติ ไม่ตรงกับ crisis ปัจจุบัน
• -คนในองค์กรมีอัตตาสูง
• -ขาดทีมwork
• -ขาดการวางแผนระยะยาว
• -ตัวอย่าง mindset ที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อน เช่น การยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ความเชื่อมั่นของบุคลากรว่าองค์กรตนเองว่าเป็นเลิศทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
• -คำแนะนำในการปรับ mindset คือ การคิดนอกกรอบ การปรับทัศนคติยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีกว่า การมองสิ่งแวดล้อมรอบข้างตัวเอง

ตัวอย่าง crisis ของคณะแพทย์ฯ

-การเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหาร /นโยบาย

คุณภาพของผู้นำที่พึงปรารถนาของคณะแพทย์

- เป็นคนดี ซื่อสัตย์ เป็นธรรม มีธรรมาภิบาล

- ลดความมีอัตตา ยอมรับฟังความคิดเห็นบุคลากรระดับรองลงมา

- ยอมรับการเปลี่ยนแปลง สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้จากข้อผิดพลาด

- มี vision

- มีจิตวิทยาการบริหาร

2. อธิบายข้อแตกต่างระหว่าง Attitude/Mindset/Strategy

Attitude เป็นค่านิยม ทัศนคติที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ไปตามยุค

Mindset เป็นค่านิยมหรือความเชื่อที่ฝังรากลึกไปในนิสัยส่วนตัว มีทั้งด้านบวกและด้านลบ

Strategy ถูกกำหนดไว้ เป็นแนวทางในการบริหารเพื่อให้เป้าหมายได้ง่ายขี้น ตรงกันทั้งองค์กร

ต้องอาศัยการผสมผสานระหว่าง Attitude + Mindset การปรับ Mindset โดยคิดหาเหตุผล ระดมสมอง

• -ตัวอย่าง mindset ที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อน เช่น การยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ความเชื่อมั่นของบุคลากรว่าองค์กรตนเองว่าเป็นเลิศทำให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง
• -คำแนะนำในการปรับ mindset คือ การคิดนอกกรอบ การปรับทัศนคติยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีกว่า การมองสิ่งแวดล้อมรอบข้างตัวเอง

วิกฤตในคณะ (เร็ว/ไม่แน่นอน/ทายไม่ได้) แบบมาแล้วมาอีก / มาหลายรูปแบบชนิดขนมชั้น เกิดขึ้นอย่างไร

Permanent crisis

• ที่จอดรถ ทั้งของบุคลากร และผู้มารับบริการ ไม่เพียงพอ

เกิดขึ้นเนื่องจาก : จำนวนรถเพิ่มขึ้นไม่ได้สัดส่วนกับพื้นที่จอดรถ

การบริหารจัดการพื้นที่จอดรถยังไม่ได้ประโยชน์สูงสุด พฤติกรรมการผู้จอดรถ

ก่อให้เกิดปัญหา

Multiple crisis

• การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์

เกิดขึ้นเนื่องจาก : ผลิตได้น้อย การแข่งขันในตลาดสูง การแข่งขันระหว่าง รพ.รัฐ vs เอกชน ไม่มีแรงจูงใจให้อยู่กับองค์กรได้นาน ภาระงานกับค่าตอบแทนไม่สมดุลกัน

คุณภาพของผู้นำที่พึงปรารถนาของคณะ ที่จะสามารถจัดการกับวิกฤตควรมีคุณลักษณะอย่างไร

• มีจริยธรรม คุณธรรม เป็นที่น่าไว้วางใจ (ซื่อสัตย์) มีมุมมอง “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”
• จริงใจและจริงจังกับการแก้ปัญหา หาทางแก้ปัญหาไม่ใช่หาว่าใครผิด คิดทางออกหลากหลาย มีแนวคิดใหม่ ๆ เป็นทางออก นอกกรอบ
• มีทักษะในการเจรจา มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ กล้าเสี่ยง รอบรู้ หรือ สามารถศึกษาจนรู้ในเวลาอันรวดเร็ว
• บริหารโดยทีมงานด้วยทีมเวิร์คที่ดี

ยกตัวอย่าง mindset ที่เป็นอุปสรรค ให้คำแนะนำในการปรับ mindset

• ยึดติดกับกฎระเบียบมากเกินไป
• ไม่ขยับออกจากมุมมองเดิม ๆ ตีกรอบว่าทำไม่ได้ (กลัวการเปลี่ยนแปลง)
• เป็นข้าราชการทำงานแย่แค่ไนก็ไม่ถูกย้ายหรือให้ออก
• จุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจ ในการเรียนรู้ พัฒนาตนเอง ถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้มาให้ผู้ร่วมงานเพื่อพัฒนางาน และรู้แนวทางในการแก้ไข

ซึ่งเป็น fixed mindset เชิง negative หลักสูตรนี้ทำให้เรียนรู้ว่า สามารถเปลี่ยน fixed mindset ให้เป็น growth mindset ได้ โดยใช้การประเมินคุณภาพเข้ามาจับ สร้างวัฒนธรรมองค์กรเชิงคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับทั้งองค์กร การประเมินคนตามคุณภาพ สามารถปรับเปลี่ยนโยกย้ายคนได้

หลักสูตรช่วยอะไร

ความแตกต่างระหว่าง attitude mindset strategy

Attitude ความเชื่อผิวเผิน ชั่วคราว สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

Mindset ความเชื่อฝั่งลึก/ฝั่งราก

Strategy กลยุทธ์ ยืดหยุ่น ปรับตัวได้ตามสถานการณ์

การบ้านกลุ่ม 1

1. วิกฤติในคณะแพทย์ฯ แบบมาแล้วมาอีก (Permanent Crisis) และมาหลายรูปแบบชนิดขนมชั้น (Multiple Crisis) เกิดขึ้นอย่างไร ? อธิบายและยกตัวอย่าง คุณภาพของผู้นำที่พึงปรารถนาของคณะแพทย์ฯ ที่จะสามารถจัดการกับวิกฤติ ควรมีคุณลักษณะอย่างไร

คำตอบ

• ขาดแคลนบุคลากร
• เตียงไม่พอกับผู้รับบริการ
• อายุเฉลี่ยของบุคลากรสูง
• อัตราการลาออกของบุคลากรเพิ่มขึ้น
• เครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอ
• สิทธิ์ในการรักษา
  • วิกฤติการขาดแคลนบุคลากร จากการมีอัตราการลาออกของบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่สามารถขยายเตียงหรือห้องตรวจเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มาใช้บริการได้
  • 
    
  • คุณภาพของผู้นำที่ต้องการ
• มองปัญหาให้ออกว่า กระทบอะไรบ้าง อย่างไร
• กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง
• มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะแก้ไขจริง
• ต้องมีความจริงใจ
• รับฟังปัญหาต่างๆ ด้วยความเป็นกลาง และไม่อคติ
• ให้โอกาสผู้ใต้บังคับบัญชา เสนอความคิดเห็น
• มีความซื่อสัตย์ ยุติธรรม จริงใจ

• 2.2 อุปสรรค

• ความเชื่อว่าคณะแพทย์เป็นคณะที่ใช้สำหรับการเรียนการสอน และการทำวิจัย เท่านั้น
• นโยบายไม่ต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนแปลงตามผู้บริหาร
• ความไม่เท่าเทียม

2. อธิบายข้อแตกต่างระหว่าง Attitude / Mindset / strategy และยกตัวอย่าง mindset ที่เป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนคณะแพทย์ฯ และให้คำแนะนำในการปรับ Mindset เพื่อการพัฒนาและหลักสูตรนี้จะช่วยได้อย่างไร

• ข้อแตกต่างระหว่าง Attitude / Mindset / strategy

คำตอบ

- Attitude เป็นทัศนคติหรือความเชื่อที่อาจมีผลต่อพฤติกรรม แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้

- Mindset เป็นกระบวนการคิด หรือความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรม เกิดมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของ

ชีวิต เป็นความเชื่อที่ฝังรากลึก ปรับเปลี่ยนได้แต่ต้องใช้เวลามากกว่า Attitude

- strategy เป็นแนวทาง หรือ วิธีการที่จะทำให้องค์กรเกิดบรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จ

• คำแนะนำในการปรับ Mindset

- รับฟังความคิดเห็นของบุคลากรทุกระดับ

- ชี้แจงนโยบายให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรับทราบ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

- มีการทำกิจกรรมสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างบุคลากร & ผู้นำ

วิกฤตในคณะแพทย์ฯแบบมาแล้วมาอีก และมาหลายรูปแบบชนิดขนมชั้น เกิดขึ้นอย่างไร อธิบายและยกตัวอย่างคุณภาพของผู้นำที่พึงปรารถนาของคณะแพทย์ฯที่จะสามารถจัดการกับวิกฤติ ควรมีคุณลักษณะอย่างไร..

คำตอบ

การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ บุคคลากรมีการลาออกโอนย้ายอย่างต่อเนื่อง ขาดแคลนผู้เชียวชาญ สาเหตุมีหลายๆปัจจัย เช่น

….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

การพัฒนามนุษย์ ถือเป็นการลงทุนที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร การเรียนรู้ของเรา (มนุษย์) ต้องเรียนรู้ทั้งชีวิต ต้องพัฒนาทั้งชีวิต และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ปลูก เก็บเกี่ยว เพื่อความสำเร็จ และไม่ลืมที่จะสร้างและพัฒนาในเรื่องของจิตวิญญาณในตัวคน

สรุปบทเรียนวันที่ 15 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 1

ปฐมนิเทศ และแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

สิ่งที่ได้ คือ โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 3 และเป็นรุ่นที่จะต้องให้เกิดการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมได้จริง เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับเปลี่ยนหลักการเรียนการสอนมากขึ้น และมีเป้าหมายชัดเจนในการให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

แนวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้เพื่อประสิทธิภาพประสิทธิผล ได้แก่ 4L’sจุดสำคัญคือ Learing Opportunities สร้างโอกาสจากการเรียนรู้ร่วมกัน 2 R’s , 3V’s, 2i’sและ3 L’s หากต้องการให้เกิดองค์ความรู้จะต้องทำตัวคล้ายหญ้าแฝกคือการชอนไชรากให้ลึกขยายวงกว้างเพื่อเกิดการซึมซับของน้ำสู่ดินได้ดีและหญ้าแพรกที่บอกถึงความเจริญงอกงามทางความรู้และสติปัญญาอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงความอดทน

วิชาที่ 2

ทุนมนุษย์-Mindset Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนของคณะแพทย์ฯมอ.

สิ่งที่ได้ คือ การบริหารคนให้ประสบความสำเร็จไปสู่ความเป็นเลิศจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ปลูก เก็บเกี่ยว ดำเนินการ หากต้องการให้เกิดการพัฒนาคนให้มีความยั่งยืนจะต้องมีการเปลี่ยน mindset จาก Fixed Mindset ไปสู่ Growth Mindset

วิชาที่ 3

CEO – HR -Non HR – Stakehodlders

สิ่งที่ได้ คือ มุมมองของการบริหารองค์กรในภาคเอกชนที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่องและเติบโตได้ไกล โดยได้รับการร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ใช่เฉพาะจากตัวองค์กรอย่างเดียว( CEO – HR -Non HR) ส่วนที่ช่วยขับเคลื่อนให้พัฒนาด้วยก็คือ customer หรือ หน่วย supply และการเปลี่ยน mindset ของคนในองค์กร

สรุปความรู้ที่ได้จากวันที่ 16 กรกฏาคม 2558

รายวิชาที่ 4 Managing Self Performance / อ.อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์

ว่าด้วยเรื่องการจัดการตนเอง จำเป็นต้องมี Coaching ให้รู้จักตนเอง องค์กร และมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง รวมถึงเรื่องสมรรถนะการทำงาน (competency) ซึ่งประกอบด้วยความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ (พฤติกรรม ทัศนคติ และแรงบันดาลใจ) ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัด และส่วนที่มองไม่เห็น ซ่อนอยู่ภายในแต่ละคน ความมุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และบรรลุตามวัตถุประสงค์ทีตนวางไว้ และบรรลุเป้าหมายขององค์กร

(ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง สามารถพัฒนาได้ และต้องการได้รับการพัฒนา และทุกคนต้องการประสบการณ์ที่ดี มีการสื่่อสารดีทั้งต่อตนเอง/ผู้อื่น)

รายวิชาที่ 5 Personality and Social Skills Development / อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์

รายวิชานี้เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ชอบมาก อ.ณภัสวรรณ สอนเรื่องบุคลิกภาพ การพัฒนาทักษะทางสังคมได้สนุก นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี (แต่งตัวดี มาดดี พูดจาดี อารมณ์ดี รู้จักกาลเทศะ)

รายวิชาที่ 6 Key words of success : Leadership-Mindset-Thinking outside the box - Thinking new box." / อ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์

การคิดนอกกรอบ เป็นการเรียนโดยตั้งคำถามและหาคำตอบ ความคิดของทุกคนส่วนใหญ่จะอยู่ในกรอบ ไม่ยอมออกจากกรอบความคิด กรอบคือความกลัว, กรอบของสังคม

เมื่อไหร่ที่เราสามารถคิดนอกกรอบได้ + กรอบสังคม = ความคิดคร่อมกรอบ (เป็นครึ่งหลังของความคิดสร้างสรรค์)

Pluses ดีอย่างไร

Potentials คิดอนาคต

Concerns ติด แต่ กังวลอะไร

Opportunities ทะลุ ทะลวง หลบเรื่องที่กังวลออกไป

อาจารย์สอน 5 ขั้นตอนในการเสนอไอเดียใหม่ ๆ (ผ่านเกม คุณเนียน คุณพริ้ว คุณรื่น)

-ทำให้หัวหน้า"สั่ง"ให้เราคิด

-เสนอไอเดียตามที่หัวหน้าสั่ง (ถ่อมตน)

-"ถาม" หัวหน้าถึงข้อดี

- ขอให้หัวหน้า "สอน" เพิ่มเติม

- เสนอไอเดียเพิ่ม ตามที่หัวหน้า "สั่ง" & "สอน"

สรุปบทเรียนวันที่ 16 ก.ค.58
วิชาที่4
Managing Self Performance
มนุษย์ทุกคนต้องการได้รับการดูแลและพัฒนา
ในตัวของแต่ละคนมีศักยภาพของตนซ่อนอยู่ในตัว
การจะดึงศักยภาพออกมาจะต้องฝึกให้คิดเองก่อน และชื่นชมในงานที่ทำได้ดี  
Competency ที่สามารถมองเห็นได้โดยตรง
คือ know ledge และ skills ในส่วนที่อยู่ภายใน
ได้แก่ ทัศนคติ ค่านิยม การมองตนเอง บุคลิกภาพ แรงจูงใจ ความเข้าใจ  
กระบวนการการทำงานสำเร็จ
ต้องมีเป้าหมาย กำหนดกลยุทธ์ วางแผน ถ่ายทอด ปฏิบัติ
วิชาที่ 5
Personality and Social Skill
Development
ภาพลักษณ์ภายนอก คือความประทับใจแรกที่เจอและสัมผัสได้  บุคลิกภาพดี มีส่วนประกอบหลายด้าน ได้แก่
การแต่งตัว มาดดี พูดจาดี อารมณ์ดี รู้จักกาลเทศะ 
วิชาที่ 6
Key words of success :
Leadership-Mindset-Thinking outside the box-Thinking new box
ความคิดที่ติดในกรอบขึ้นอยู่กับ ความกลัว สังคม ธรรมเนียมประเพณี
การคิดแบบกระโดดจะช่วยให้เกิดสิ่งสร้างสรรค์ มีการคิดนอกกรอบ ซึ่งจะได้ผลแค่ 50% อีก 50%
ต้องมีการนำความคิดนั้นโยงเข้ามาอยู่ในกรอบที่เรียกว่าคร่อมกรอบ ที่ใช้ทฤษฎี PPCO

สิ่งที่เรียนรู้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2558

วันนี้นับเป็นวันแรกของการเริ่มต้นเข้าสู่โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทย์ รุ่น 3 หลังจากการได้รับฟังอาจารย์ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับทุนมนุษย์และการทำงานในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงทำให้ตระหนักได้ว่าคนเป็นทุนมนุษย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพและดึงศักยภาพของคนแต่ละคนออกมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งการพัฒนาศักยภาพของคนมีการใช้แนวคิดต่างๆมากมาย แต่ในส่วนของเรียนรู้ในวันนี้ทำให้ได้รู้จักแนวคิดหลัก 2R , 4L , 3 V และ 2i's ซึ่งจะนำมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของคน โดยเฉพาะการเริ่มต้นใช้กับตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนี้การพัฒนาเพื่อให้ได้มาซึ่งการรู้แจ้งและจริงจำเป็นต้องขยันอ่านและกล้าที่ถามในสิ่งที่ไม่รู้ให้มากขึ้น ในส่วนของเรื่องเกี่ยวกับ mindset ทำให้ได้แนวทางในการปรับ mindset ของตนเองโดยการหัดคิดนอกกรอบให้มากขึ้น และไม่ควรยึดติดกับกฏระเบียบข้อตกลงให้มากนัก ดังตัวอย่างหญ้าแฝกที่อาจารย์ได้กล่าวถึง

สรุปเนื้อหาที่เรียนวันนี้ 15/7/58

ที่มาของการจัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน อย่างมีทิศทาง มีการพัฒนาความคิด ทัศนคติในเชิงบวก และสามารถทำให้เกิดการปรับใช้ได้จริงกับงานประจำที่ทำอยู่ หลักการเรียนรู้คือการคิดและตั้งคำถามที่ดี เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยกัน อย่างต่อเนื่อง

2. mindset -leadership; ของบุคคลากรในคณะแพทย์ ทุกคนเป็นบุคคลากรที่มีความสามารถ มีต้นทุนทาง

ด้าน science ความคิดวิเคราะห์ แต่เพื่อให้เกิดการพัฒนาขององค์กรต้องมีการใช้สมองซีกขวาเพื่อให้เกิดการคิดนอกกรอบ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดทันที แต่จะค่อยๆสะสม และที่สำคัญต้องต่อเนื่อง

3. CEO-HR-NonHR-Stakeholders ; ต้องมีการทำงานประสานกันทั้ง 3 ฝ่าย แต่ละฝ่ายต้องรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง และมีการ share ส่วนได้ส่วนเสีย

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์กร ให้เข้มแข็ง ทันยุคและทันสมัย ต้องปลูกคน ปลูกความคิด สร้างทัศนคติ การพัฒศักยภาพ คน สังคม จริยธรรม ไอที ความสุข ให้เดินไปด้วยกันที่มีผลต่างกันน้อยที่สุด และก้าวไปได้ไกล้เคียงกันที่สุด

ประทับใจหลักสูตรตั้งแต่ชื่อ การพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทยศาสตร์ ทำให้ตัวเองต้องตั้งใจทำความเข้าใจและต้องนำไปใช้ให้ได้

Leadership ภาวะผู้นำ เราต้องสร้างให้เกิดกับตัวเราเอง ต้องมีความกล้า ยอมรับการเปลี่ยนแปลงมีความมุ่งมั่นตั้งใจ

ทุนมนุษย์ คน คือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในองค์กร การเรียนรู้ การฝึกตนเองเพื่อนำไปใช้ในการทำงาน การบริหารต้องใช้หลัก ปลูก เก็บเกี่ยว ทำให้สำเร็จ

CEO HR ต้องทำให้ทุกคนในองค์กรตั้งแต่ผู้บริหารถึงเจ้าหน้าที่ระดับล่างมองเป้าหมายอันเดียวกัน เพื่อทุกคนจะได้ทำหน้าที่ของตนเองไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน

16 กรกฎาคม 2558

วันนี้ได้เรียนรู้ว่าการจะวัดความสำเร็จ ศักยภาพหรือสมรรถนะการทำงานของคน ต้องรู้ว่าทุกคนมีศักยภาพในตนเอง และศักยภาพของคนแต่ละคนนั้นสามารถพัฒนาได้หรือต้องได้รับการพัฒนา การพัฒนาศักยภาพบางครั้งจำเป็นต้องได้รับการชี้แนะ แต่ก่อนจะรับการพัฒนาต้องรู้จักตัวเองก่อนและต้องรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร

ในส่วนของเรื่องบุคลิกภาพ ที่สำคัญ คือ ภาพลักษณ์ภายนอกทั้งในส่วนของการแต่งกาย เสื้อผ้าหน้าผม การยืน เดิน และนั่ง รวมถึงการทักทายด้วยการสวัสดี ต้องมีความเหมาะสมและถูกกาลเทศะซึ่งต้องขอบคุณท่าอาจารย์ณภัสวรรณ มากๆที่วันนี้ทำให้ได้รู้ว่าตัวเองมีจุดไหนที่ต้องปรับเปลี่ยน

สุดท้ายตามด้วยอาจารย์ศรัณย์ ที่ทำให้บรรยากาศในการเรียนรู้ในวันนี้มีความสนุกสนาน ไม่เครียด อีกทั้งยังช่วยให้ได้รู้ลึกเกี่ยวกับวิธีการคิดนอกกรอบและวิธีการเสนอไอเดีย 5 ขั้นตอนกับผู้บังคับบัญชาโดยไม่ทำให้ผู้บังคับบัญชาขัดเคือง ซึ่งมั่นใจว่าประเด็นในวันนี้จะมีการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้อย่างแน่นอน

สรุปที่เรียนมา เมื่อวันที่ 15 กค.2558

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฏีที่สำคัญเพื่อการเรียน

ได้ทราบถึงจุดมุ่งหมายในการเรียนครั้งนี้ คือ

เพื่อพัฒนาบุคลากรและตัวเราเอง ให้มีวิสัยทัศน์ ความรู้ ทัศนคติ และมีภาระการเป็นผู้นำมากขึ้น กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง อีกทั้งตัวเรายังสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาในงานที่ทำได้

วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์

การเป็นผู้นำที่ดี จะต้องไม่ใช่แค่การสั่งแต่เป็นการเข้าใจ ถึงความรู้สึกกันและกัน อีกทั้งศักยภาพ ของคนทำงาน คือทำงานแล้วต้องมีความสุข มีแรงบันดาลใจ รวมถึงการใช้ 3 V's ควบคู่ไปด้วยกัน แต่ถ้ามีอุปสรรคเกิดขึ้นมา เราควรจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหานั้น จะทำให้งานมีประสิทธิผลจนสำเร็มากขึ้น.

วิชาที่ 3 CEO - HR - Non HR

ประโยคโดยใจ "คิดบวก" ไม่ว่างานจะยากหรือง่าย ดีหรือร้าย ถ้าเราคิดในแง่ดีอยู่เสมอ จะทำให้งานที่ออกมาดี และไหลลื่น ไม่มีอะไรสะดุด

สิ่งที่ได้จากบทเรียน 15 กรกฎาคม 2558

เรียนรู้ทฤษฎีสำคัญเพื่อการเรียนรู้ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลง เช่น 4 L, 3L, 2R, 3V, 2I , C&E, C-U-V

การบริหารความเปลี่ยนแปลง ต้องใฝ่เรียนรู้ ต้องมีวินัย ฝึกการทำงานอย่างมีระบบ

การปลูกทุนมนุษย์ ใช้หลัก 8 K, 5K

การเอาศักยภาพของคนในสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ความสุข เครือข่ายสังคม ซึ่งองค์กรที่ดีต้องเริ่มจากความสุขในการทำงาน จึงทำให้มีการทำงานอย่างมีความสุข ทำให้มีพลังออกมา

การทำงาน ต้องมองคน โดยมองภาพกว้าง ดูด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเมือง ต้องติดตามวิเคราะห์ โดยมองมากกว่าการทำงานในโรงพยาบาล

Crisis management เน้นคุณภาพของผู้นำ ต้องเป็นคนดี สงบนิ่ง มีความคิดสร้างสรรค์ อุปสรรคต้องช่วยกันแก้ปัญหา

เรียนรู้ความแตกต่างระหว่าง Attitude กับ Mindset การปรับ mindset จาก Fixed Mindset ไปสู่ Growth Mindset

homework 16/7

สรุปเนื้อหา

management self performance ;

มนุยย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเองที่สามารถพัฒนาได้ และต้องมีการพัฒนา มนุษย์ต้องการสื่อสารทั้งภายในตนเองและกับผู้อื่น การสร้างประสบการณ์ที่ดีเริ่มจากกัลยาณมิตรก่อน

สิ่งที่สำคัญคือ เวลา และเข็มทิศ เราต้องรู้จักจัดสรรเวลาและมีเป้าหมายที่ไปให้ถึง โดยมีความมุ่งมั่นที่จะไปยังเป้าที่ต้องการ ต้องก้าวผ่านความกลัวไปให้ได้

keywords of success: leadership-mindset-inking outside the box-thinking new box

การคิดนอกกรอบเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ เราอาศัยกระบวนการ PPCO ในการทำให้ความคิดนอกกรอบย้อนกลับมาอยู่คร่อมกรอบ

5 ขั้นตอนในการนำเสนอ idea ใหม่ให้หัวหน้ายอมรับ

ให้หัวหน้าสั่งให้คิด

เสนอ idea อย่างถ่อมตน

ถามหัวหน้าถึงข้อดี

ให้หัวหน้าสอน

เสนอ idea เพิ่มตามที่หัวหน้าสั่งและสอน

การบ้านอ.ศรันย์ จันทรพลาบูรณ์ 16/7

1. ความประทับใจ - อาจารย์ชี้ให้เห็นความสำคัญของการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่เป็นพิษเป็นภัย และชี้ให้เห็นแนวทางในการทบทวนแบบ PPCO เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ อาจารย์มีบทสรุปที่ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจ

2. ข้อเสนอแนะ - อยากให้มีหลายสถาณการณ์ เพื่อให้เห็นหลายรูปแบบ

3. เพลิดเพลินสนุกสนาน (10) - 8

4. สาระ & บันเทิง - ครบ

5. อยากนำไปใช้จริง (10) - 9

6. อยากเจอศรันย์อีก (10) - 9

วันนี้ทั้งสามวิชามีบรรยากาศการเรียนที่สนุกมาก ขอชื่นชมเหล่าคณาจารย์และทีมงานผู้จัดหลักสูตรครับ

แต่ที่อยากจะแสดงความคิดเห็นแต่ยังไม่มีโอกาสคือ เรื่องการคิดนอกกรอบแล้วปรับแต่งจนสุดท้ายเป็นการคิดคล่อมกรอบ

ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีน่าสนับสนุนให้คนในองค์กรส่วนหนึ่งมีความคิดเหล่านี้บ้าง โดยส่วนตัวก็พยายามทำเช่นกัน แต่มีหลักคิดที่จะเอามาประกอบการพิจารณาว่าควรทำหรือไม่ด้วยการเฝ้าถามตัวเอง 4 ข้อว่า

1.เป็นสิ่งดีหรือไม่ (ธรรมะ หรือ อธรรม)

2.ผิดกฎหมายผิดศีลธรรมหรือไม่

3.ทำแล้วเป็นประโยชน์กับใคร

4.ทำให้ใครเสียประโยชน์หรือไม่

หากคำตอบเป็นที่น่าพอใจจึงจะเดินหน้าต่อครับ

อาจจะเป็นประโยชน์บ้างนะครับ

….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

16 ก.ค 2558 วันนี้เรียนสนุกไม่เครียด ผ่อนคลาย อาจารย์สอนสนุก

ได้เรียนรู้การสื่อสารกับตัวเองภายใน เป็นสิ่งสำคัญ การพัฒนาจิตโดยการทำสมาธิ

ถ้ามีการบริหารจัดการเวลาที่ดี ถ้าเจอสิ่งที่ชอบ ได้ทำในสิ่งที่ชอบ พลังชีวิตจะเพิ่มขึ้น

ช่วงอ.ณภัสวรรณ ได้เรียนรู้ ความประทับใจตั้งแต่แรกพบ การแต่งกาย น้ำเสียง คำพูด กาลเทศะ

การแต่งกาย ท่าทาง การวิเคราะห์ลักษณะบุคลิกของแต่ละบุคคล การติดต่องานต่าง ๆ มากมาย

ช่วง อ.ศรัณย์ ช่วงที่สนุกที่สุด อ. มีการสอนการคิดนอกกรอบ มีการสอนที่ทันสมัย สนุก ไม่ง่วงในช่วงบ่าย เรียนรู้การคิดสร้างสรรค์ ต้องกระโดดออกนอกกรอบ การคิดคร่อมกรอบ

หลักการ CEF และ PPCO แนวทางในการเสนอไอเดียใหม่ให้หัวหน้ารับฟังและอนุมัติโครงการ

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันที่ 16/7/58

วันนี้เป็นอีกวันที่ประทับใจครับ

Managing Self Performance

“การตอบคำถาม ด้วยคำถามปลายเปิด”

Personality and Social Skills Development

“กาลเทศะ การยืน เดิน นั่ง และการแต่งตัว”

Key words of success: Leadership-Mindset-Thinking outside the box-Thinking new box

“คิดไม่ออกหรือว่าคิดแล้วไม่ยอมให้มันออก”

PPCO และการ นำเสนองานกับหัวหน้า

สรุปบทเรียนสรุปบทเรียนวันที่ 16 ก.ค.58

วิชาที่4 Managing Self Performance...

ได้เรียนรู้ว่ามนุษย์เราทุกคนมีศักยภาพเต็มเปี่ยมอยู่ที่ว่าเราจะช่วยให้เขาเอาศักยภาพออกมาใช้ได้แค่ไหน ต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับตัวเอง ฝึกการทำสมาธิ กระบวนกวนการทำงานให้ประสบความสำเร็จอยู่ที่ต้องมีเป้าหมายในการทำงานก่อนให้รู้ว่าเราต้องการไปที่ไหน ต้องการเป็นอย่างไร จึงจะมากำหนดกลยุทธ์ แล้วจึงวางแผนการทำงาน การที่จะประสบความสำเร็จ ต้องการบริหารเข็มทิศและนาฬิกาชีวิต เปลี่ยนความคิดกล้าเผชฺิญ ปัญหา ต้องมีสุขภาพดีทั้งสุขภาพกายและใจ

วิชาที่ 5

personality and social skills development

ได้เรียนรู้ที่จะทำให้บุคคลอื่นเกิด first impression ซึ่งเกิดได้ทั้งด้านดีและไม่ดี เราสามารถสร้างให้คนอื่นมีfirst impressionที่ดี ได้ ต้้งแต่ การมี บุคลิกภาพดี ได้แก่ การแต่งตัวดีเหมาะกับตัวเองถูกกาละเทศะ น้ำเสียง การพูด อารมณ์ดี รู้จักกาลเทศะ เรียรรู้มารยาทสังคมที่ต้องใช้ในการทำงาน

วิชาที่ 6 Key words of success : Leadership-Mindset-Thinking outside the box-Thinking

ความคิดสร้างสรรค์ ทุกคนมีแต่ส่วนมากมักถูกขังอยู่ในกรอบ กรอบตัวแรกคือความกลัว และกรอบสังคม เช่นผิดระเบียบ ผิดขนบธรรมเนียม ซึ่งอาจารย์สอนว่าการคิดอะไรใหม่นั้นให้คิดออกนอกกรอบ ได้เรียนรู้วิธีการคิดนอกกรอบ หลังจากนั้นจึงคิดคร่อมกรอบ โดยมีหลีก PPCO นอกจากนั้นยังได้หลัก 5 ขั้นตอนในการเสนองานกับหัวหน้างาน อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411 อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

การเรียนรู้ ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2558

หัวข้อ 1 Management self- performance

ทำให้หวนคิดถึงเรื่อง coaching“Walk with them” through the decision-making process (critical thinking/ discovering) rather than telling them what they should do” ที่เคยใช้ในการอบรมครูพี่เลี้ยง (preceptor)และการ์ตูนหนึ่งที่เคยได้เอาไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูพี่เลี้ยง ว่าจะต่อยอดความคิดของผู้เรียนให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่างไร ลองเข้าไปดูเรื่อง How to work ใน https://www.youtube.com/watch?v=UY75MQte4RU ได้คะ

การเป็นโค้ชต้องมีกลวิธีที่ทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากคำถาม/ข้อสงสัยและแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง คำตอบ/ผลลัพธ์ที่จะตามมา คือ การเรียนรู้ด้วยตนเอง (ปัญญา/รู้แจ้ง) และเกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ (เห็นจริง)

-การมีสุนทรียสนทนา (dialogue) รู้จักฟังอย่างตั้งใจ สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร เข้าใจ/เข้าถึงกันและกันและมีสติจะช่วยทำให้องค์กรมีความสุขและสื่อสารกันและกันอย่างสร้างสรร

-การใช้คำถามที่มีประสิทธิภาพ (using questioning) ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ทั้งผู้นำ/อาจารย์/ผู้เรียนต้องฝึก เพราะถือว่าเป็นการฝึกความคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพราะที่ผ่านมาหลายคนถามโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองมาก่อน หรือถามคำถามที่เป็นระดับ low cognitive level ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน หรือการตั้งคำถามก็มักเป็นลักษณะ low cognitive level ทำให้ขาดการกระตุ้นความคิดขั้นสูง (วิเคราะห์ สังเคราะห์) เป็นต้น ซึ่ง Albert Einstein กล่าวไว้ว่า “ the important thing is not to stop questioning”

หรือ เคยได้เห็นประโยคที่น่าสนใจ ประโยคหนึ่ง ที่ทำให้ต้องเรามาคิดถึงความสำคัญของการตั้งคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นครู/หัวหน้า/ผู้บริหารเพื่อนำไปใช้ในการเรียนรู้ และประเมินผลการเรียนรู้/เข้าใจของบุคคลได้ “ We know whether he/she is clever or not by his/her answers. We know whether he/she is wise or not by his/her questions.”

-การ feedback ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นในการที่ทำให้ผู้เรียนหรือคนไทยหลายคน ไม่ค่อยกล้าแสดงออกในการตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็น พฤติกรรม เนื่องจากกลัว/อาย/ไม่กล้า กลัวผิด กลัวถูกหาว่าโง่ กลัวถูกตำหนิ (คิดด้านลบ) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันปรับความคิด/อารมณ์กลัว โดยมี constructive feedback (การให้ข้อมูลป้อนกลับอย่างสร้างสรร) ดังภาพ ชื่นชมในที่สาธารณะและวิพากษ์/ตำหนิในที่ส่วนตัว (praise in public and critique in private)

“ ...ความสำเร็จและความสำเร็จของผู้ให้และผู้รับ (หัวหน้าและผู้ปฏิบัติงาน) ”

หัวข้อ 2 การแต่งกายสไตล์ของนักบริหารยุคใหม่

สร้างความสุข สนุกสนานด้วยรอยยิ้มและความงดงาม กับการได้เห็นแบบอย่างของการแต่งกายที่เหมาะสม ทำให้นึกถึงอาชีพของเรา การเป็นแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สุขภาพ เรื่องบุคลิกภาพ หรือ ภาพลักษณ์ มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกหรือการฟื้นหาย/เยียวยาทางจิตใจ( ทางอ้อม) ของผู้รับบริการได้ นอกจากรูปลักษณ์และการแต่งกายแล้ว กิริยา มารยาทในเรื่องของคำพูดก็สามารถเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจได้ การพูดอย่างมีศิลปะ มีความสุภาพ ก็สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของวิชาชีพได้ ถือว่าเป็น soft skill หนึ่งที่บุคลากรทางสุขภาพต้องนำไปใช้ในการพัฒนาตนเพื่อพัฒนาบริการ

(“.....หน้านอก.. บอกความงาม หน้าใน..บอกความดี หน้าที่...บอกความสามารถ หน้านอก...แต่งให้พอดี หน้าในกับหน้าที่...แต่งให้มาก ๆ .. จาก หอจดหมาย.ปัญญานันทภิกขุ”)

หัวข้อที่ 3 ความคิดสร้างสรร

คนเรามีความคิดมากมาย แต่เพราะความกลัว/ความไม่กล้า/จากหัวข้อที่ 1 ที่เพิ่งเรียนผ่านมา ยิ่งสนับสนุนให้เห็นว่าเรายังไม่ได้ให้โอกาสคนได้คิดได้อย่างเต็มพลังความสามารถ วันนี้จึงได้เรียนรู้ ของขั้นตอน Pluses-Potential-Concern- Opportunity และเคล็ด(ไม่) ลับ 5 ข้อของวิทยากรที่ทำให้ได้เห็นความลงตัวความแตกต่างของผู้คิดอยู่ในกรอบ(ยึดติดกับดักในกรอบ -Mindset) กับผู้คิดนอกกรอบ (กระโดดออกนอกกรอบสุด ๆ ) นั่นคือ คำว่าการคิดคร่อม/ข้างกรอบ ซึ่งเป็นแนวทางของการร่วมสานรอยต่อของความคิดแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ได้อย่างงดงาม

“ คิดใหม่ ทำใหม่ ใจพร้อมเผชิญ เดินไปสู่โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลง ....โลกเปลี่ยนไป เมื่อใจเปลี่ยนแปลง”

Lesson learn วันที่ 16 กค 58

วิชาที่ 4 "Managing Self-Management" โดย อ.อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์.."จากความเชื่อที่ว่า..มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง...และทุกคนสามารถเติมเต็มชีวิตด้วยการบริหารเวลา..และการมีเข็มทิศชีวิต"

วิชาที่ 5 "Personality and Social Skills Development"....โดย อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์...โดยปกติแล้ว...ภาพลักษณ์ภายนอก ของคนเรา การแต่งกายมีผลต่อผู้พบเห็น 55% น้ำเสียง 38% และคำพูด 7% ด้วยการให้เกียรติ อัทธยาศรัย ไมตรี อารมณ์ดี และรู้จักกาลเทศะ...อาจารย์สวย สง่า และบุคลิกดีจนลืมอายุค่ะ

วิชาที่ 6 - Key words of success: Leadership - Mindset - Thinking outside the box - Thinking new box... โดย อ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์..."การคิดนอกกรอบความคิด กรอบสังคม...กรอบศีลธรรม...อย่างสร้างสรรค์..บ่มความคิด..ไม่ติดกรอบด้วย "ความกลัว"...และกลับมาคล่อมกรอบขององค์กร และสังคม...^^ ด้วย New box of thinking...^^

ประเด็นที่ประทับใจ
15/7/2558
วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศ
- การพัฒนาคนทำให้เกิดความสำเร็จทั้งระยะสั้นและยาว
- เน้นการตั้งคำถามด้วย 2R
Reality ตั้งบนพื้นฐานความจริง
Relevance คำถามเข้าแนว -> ตรงประเด็น -> แหลมคม
- การเรียนรู้ด้วยตนเอง อ่านหนังสือเสมอ
- อุปสรรคสำคัญคือการไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์ mindset leadership
- โครงการนี้เน้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยเริ่มต้นจากการมอง mindset ของตนเอง
ว่าความเชื่อฝังลึกมีอะไรบ้างและปรับเปลี่ยนแนวคิดนั้นเพื่อให้เกิดพฤติกรรมใหม่
- ทุนมนุษย์ ประกอบด้วย 3 ส่วน
1.ภาวะความเป็นผู้นำ มาจากพรสววรค์และการเรียนรู้ฝึกฝน
2.ความเป็น entrepreneur ความคิดแบบผู้ประกอบการโดยนำมาประยุกต์ใช้กับคณะแพทย์
3.การปรับ mindset เพื่อให้เกิดพฤติกรรมใหม่
วิชาที่ 3 CEO-HR-Non HR-Stakeholders
- บุคลากรทุกระดับควรมีส่วนร่วมในการบริหารทรัพยากรมนุษย์
- หลักการบริหารคน
3 ใช้ 3 คนทำงาน
4 จ่ายค่าจ้างเท่ากับ 4 คน
5 productivity ที่ออกมา
- สร้างคนให้มี soft skill เน้น innovative thinking และความเร็ว
16/7/2558
วิชาที่ 4 Managing self performance
- คุณสมบัติของคนที่จะทำงานสำเร็จคือความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบ เลิกโทษสิ่งอื่นหรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราล้มเหลว ควรหันมาปรับที่ตัวเอง
- การพัฒนาคนในสายงานของเรา ควรเน้นการตั้งคำถามเพื่อให้เขาได้คิด มีผลให้เขาได้พัฒนาตนเองและทำให้เราได้เรียนรู้จากเขาด้วย
- การฝึกเผชิญในสิ่งที่เราไม่ชอบหรือกลัว ในที่สุดเราจะเคยชินและเข้มแข็งขึ้น
- การจัดการเวลาในชีวิต ควรมี 3 ส่วน
ช่วงเช้า making hours ทำสิ่งที่ชอบ
ช่วงบ่าย management time จัดการงานต่างๆ
ช่วงค่ำ family time ใช้เวลากับครอบครัว
วิชาที่ 5 personality & social skill development
- ความประทับใจแรกพบมาจากภาพลักษณ์ เสียงและการสื่อสาร
- การแต่งกายควรดูตั้งแต่รูปร่าง รูปแบบ สี เนื้อผ้าและกาลเทศะ
- การไหว้เป็นการลดฐิติ
วิชาที่ 6 key words of success: leadership-mindset-thinking outside the box
- เรามีศักยภาพที่จะคิดนอกกรอบ เริ่มต้นที่ความกล้า

สำหรับวันนี้ 16-7-58

อ.อิทธิภัทร์ โค้ชให้ "ตอบคำถาม ด้วยคำถาม" เพื่อกระตุ้นศักยภาพภายในของคนนั้นให้ออกมา การได้คิดคำตอบด้วยตนเองจะเกิดการทุ่มเทให้กับสิ่งนั้น (เคยถูกอาจารย์ถามกลับมาเหมือนกัน..ก็งง งง ว่า อาจารย์จะถามเราทำไม ถ้าเราเก่งอย่างอาจารย์ เราก็ไม่มานั่งทำงานหรอก อาจารย์ต้องการอะไรก็บอกมาเลยซิ.. เพิ่งเข้าใจว่าอาจารย์อยากสอนให้เราหัดคิด แต่สงสัยศักยภาพที่หลับอยู่ หลับลึกจริง ๆ )

อ.ณภัสวรรณ โค้ชให้ "จงสร้างความประใจแรกพบ" เพราะเราไม่สามารถไปแก้ตัวอะไรกับสิ่งที่เราได้ทำลงไปได้ เช่น การแต่งกาย การเดิน การนั่ง

อ.ศรัณย์ โค้ชให้สามารถนำความคิดนอกกรอบที่คิดได้ไปไตร่ตรอง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง (PPCO) 1.เห็นข้อดีของความคิดนั้น 2.ข้อดีที่จะเกิดในอนาคต 3.ความกังวลที่อาจจะเกิดขึ้น 4.หาทางทะลุ หลบ เลี่ยง ความกังวลเหล่านั้น

บทสรุปที่เรียนวันที่ 16-07-58

วิชาที่ 4

ความเชื่อของคน

1.มนุษย์ทุกคนมีทรัพยากรที่ดี

2. มนุษย์ทุกคนสามารถพัฒนาได้ และต้องการได้รับการพัฒนา

3. การสื่อสารกับตัวเองภายใน สื่อสารคนอื่นและมีส่วนร่วมมีความสำคัญต่อมนุษย์ เช่นการนั่งสมาธิ เป็นการอยู่กับตัวเองมากที่สุด

4. ทุกคนต้องการประสบการณ์ที่ดี

การเป็นหัวหน้าที่ดี ควรจะปล่อยให้ลูกน้องคิดเอง ไม่บังคับ โดยหัวหน้าควรจะเป็นผู้สอนให้คิดถึงความตั้งใจ ให้มีศักยภาพ ของการทำงานให้มากขึ้น อย่าพยายามชี้นำ

ได้รู้ถึงคุณลักษณะที่สำคัญของการทำงานเพื่อให้ออกมาประสบความสำเร็จ คือ "ความมุ่งมั่น" โดยที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และมาตรฐานที่ได้ โดยคำนึงถึง ผลงาน และคุณภาพ เป็นตัวสำคัญ ตลอดจนผลการปฏิบัติงานเป็นที่ดีอย่างสม่ำเสมอ อ.สอนให้เรารู้ว่าสมาธิ กับ สติ ไม่เหมือนกัน คือ สมาธิ หมาถึง ความสงบ ส่วนสติ หมายถึง การคิด ดั้งนั้นแต่เวลาทำงานเราควรมีสติ ให้มาก

วิชาที่ 5

ขอบคุณ อ.ณภัสวรรณ มากๆ ค่ะ ที่ทำให้เราได้รับความรู้ ความเข้าใจ

1.การแต่งกาย อย่างไร ให้มีความสดชื่น

สดใส เพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้างเห็น

แล้ว ประทับใจ เช่น การ เลือกสีเสื้อผ้า

เครื่องประดับ รองเท้า ให้เหมาะสมกับ

รูปร่าง หน้าตา และสีผิว

2. การไหว้ ที่สวยงาม

3. การนั่ง การยืน ที่ทำให้บุคลิกภาพ ดูแล้ว

เรียบร้อย

4. การเรียกขานสรรพนาม ที่เหมะสมและ

ไพเราะ น่าฟัง

5. การไปเป็นแขก วิธีการนั่งอย่างไร

6. การนั่งคันเดียวกับผู้บริหาร นั่งอย่างไร ที่

เป็นการให้เกียรติ

วิชาที่ 6

เป็นการคิดนอกกรอบ โดยนำ PPCO มาใช้ เป็นเครื่องมือ ขอบคุณ อ. ศรัณย์ มากๆ ค่ะ ที่ทำให้สามารถกล้าคิด กล้าแสดงออก ในการคิดนอกกรอบ โดยการคิดนอกกรอบนี้เป็นการ คิดที่สร้างสรรค์ พร้อมทั้งยังทำให้เรากล้าที่จะเสนอหัวหน้า กล้าที่พูดคุย ในสิ่งที่เราคิดเพื่อที่จะพัฒนาองค์กร

วันที่ 2 : วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วิชาที่ 4 : Managing Self Performance

ต้องบอกก่อนว่าวิชานี้ เรียนแล้วรู้สึกมีแรงบันดาลใจอย่างมาก นั่นคือ ทุกคนต้องการพัฒนา แต่ไม่ได้รับโอกาสเท่านั้นเอง แสดงว่า ทุกคนย่อมมีพลัง พลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพียงแต่ยังไม่ได้ถูกดึงมาใช้เท่านั้นเอง และได้เรียนรู้ว่า แม้คนที่มีธุรกิจใหญ่โต ร่ำรวยแค่ไหน มีคนในปกครองมากมายเพียงใด .... ย่อมต้องการผู้ชี้แนะ นำทางนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ ...// การเป็นผู้ชี้แนะ หรือ Coaching ต้องรู้จักตั้งคำถามว่า แล้วคุณคิดอย่างไรละ ? … แล้วจะทำอย่างไรต่อ... (นั่นนะซิ แล้วฉันต้องทำอย่างไรต่อดี) ฟังดูเหมือนยาก แต่คุณรู้ไหมว่า คนที่ถูกตั้งคำถามให้ตอบกลับมานั้น ย่อมรู้ความหมายของตัวเองอยู่แล้ว แล้วต้องคิดเผื่อไว้เสมอ .. หากได้รับคำชม หรือ ต่อยอดให้ทำสิ่งนั้น ... จิตใจมันพองโต รู้สึกเบิกบานเหมือนได้ฟังธรรมะขั้นสูง ขอบอก ..//

อีกอย่างการที่ประทับใจมาก คือ หากเราเจอปัญหา เราต้องกล้าเผชิญมันไปให้ได้ และหากต้องฝืนใจบ้างในบางครั้ง แต่หากเราทำบ่อยครั้งเข้า เราก็จะรู้ว่า มันไม่มีอะไร เหมือนอย่างที่เราคิด ...และความกลัวเหล่านั้นจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเราอีกเลย...สาบาน...//

วิชาที่ 5 : Personality and Social Skills Development

ดิฉันฟังเรื่องนี้แล้ว สะดุดกับคำว่า “ผู้หญิงอย่างหยุดสวย” เกี่ยวกันหรือเปล่านะ แต่ที่แน่ๆ อาจารย์สวย ค่ะบุคลิกดีมาก จนบางครั้งแอบคิดว่า คนอะไร ไม่ยอมแก่ ถ้าเราอายุเท่าเค้า เราจะสวยสักครึ่งเค้าได้ไหมน่า อันนี้ แค่ความรู้สึก...เล็กๆ ส่วนตัวค่ะ เอาละทีนี้ ต้องบอกเลยว่า คนเราไม่ว่า จะสูง ต่ำ ดำ ขาว ย่อมสวยได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าราคาแพง แต่ ขอให้ดูดีสะอาด และเรียบร้อย ถูกกาลเทสะ นี่ซิค่ะ ถึงจะสวย.. ยังไม่หมดค่ะ กริยามารยาท ท่วงท่าการเดิน ก็สำคัญต้องไม่แพ้กัน..สิ่งเหล่านี้มันจะช่วยระดับ ความเป็นตัวตน ของคุณให้เด่นชัดขึ้น..แต่คุณรู้ไหมค่ะว่า วันนี้ ดิฉันประทับใจ การไหว้มาก....ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ดิฉันไหว้ไม่เอาไหนเลย.. (ไม่มีใครเคยบอกหรือสอนวิธีการไหว้ที่ถูกและสวยงามให้เลย เรียนตั้งเด็กเลยจำไม่ได้ค่ะ) อาจารย์ก็เปรียบเสมือนกระจกบานใหญ่ ที่คอยส่อง ให้ทุกคนมองเห็นตัวเองให้เด่นชัดมากขึ้นอันนี้ต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ ๆๆๆ

วิชาที่ 6: Key words of success : Leadership – Mindset – Thinking outside the box- Thinking new box

เอาเข้าใจๆ ดิฉันแอบชื่นชม บุคลิกอาจารย์ค่ะ ที่กล้าผูกเนคไท สีเขียวแบบสะท้อนแสง ในชีวิตนี้ คงไม่เห็นใครใส่อีกแล้วค่ะ และเค้าคงทำมาแค่อันเดียว สำหรับอาจารย์โดยเฉพาะ ยอมรับเลยเรียนกับอาจารย์แล้วรู้สึกสนุก เพราะได้แสดงความคิดเห็นไปด้วย ทำให้มีส่วนร่วม ทำให้รู้ว่า ทุกคนมีพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ เพียงแต่ถูกจำกัดเอาไว้ ถูกล้อมกรอบไว้ ด้วยหลายๆ ประการ ซึ่งดูเหมือนมันยาก มันทำไม่ได้ แต่หาก เราได้ ไตร่ตรอง คิดดีๆ และนำมาสกัด แยกแยะข้อดีข้อเสีย รับรองว่า ต้องมีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นแน่นอน ค่ะ // ไม่เขียนมากค่ะ เพราะอาจารย์ให้เขียนความประทับใจ ส่วนตัว กับอาจารย์อีก หลายข้อ ... คงต้องอ่านกันยาวๆๆๆ หรือ เขียนความประทับใจแบบยาวๆๆๆๆ กันทั้งคืนเลยค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความประทับใจ กับ ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์วิชาที่ 6 Key words of success : Leadership – Mindset – Thinking outside the box- Thinking new box

• ความประทับใจ บุคลิก ที่นำเสนอ และยกตัวอย่างได้อย่างสนุกสนาน เป็นการพูดที่ท้าทายคนฟังตลอด ยกตัวอย่างหากแอบเล่นไลน์ ในระหว่างเรียน นี่ รับรอง เลยว่า จะตามอาจารย์ไม่ทัน และจะพลาดช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการบรรยายไปก็ได้
• เสนอแนะ บวก กับ ลบ: ส่วนตัวแล้วดิฉันเป็นคนใจดีค่ะ การเสนอแนะ จึงทำได้แค่บอกว่า ดีมาก ดีจริงๆ ไม่เคยฟังอะไรที่สนุก แล้วได้ความรู้มาก่อน เชยไปไหมค่ะ
• ความสนุกและความเพลิดเพลิน : อันนี้ต้องชมก่อนว่า การสอนคน แล้วได้ความรู้ ยังสอนเรื่องที่ค่อนข้างเครียดแล้วเค้าได้รับความรู้ไปด้วย และ รู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น หัวเราะ อาจารย์ทำได้ดีค่ะ ถึงแม้ไม่ตลกมาก เหมือนแก๊งเท่งโหน่ง ก็ไม่เป็นไร ค่ะ เพียงแต่ เรา รู้สึกผ่อนคลาย ที่ได้รับฟัง และเรารู้สึก เราสามารถเดินไปหาสิ่งนั้นได้โดย ปราศจากอุปสรรค ให้น้อยที่สุด อันนี้ยกนิ้วค่ะ (สมัยนี้ต้องกดไลด์ค่ะ)
• ความสมดุลระหว่าง สาระ และ บันเทิง : อันนี้บอกก่อน ถ้าอาจารย์เปรียบเสมือนตาชั่ง อาจารย์ไม่ได้เบ้ไปทางซ้ายหรือขวาหรือหรอกค่ะ หากจะเบ้ หนักไปไหนทิศทางไหนบ้าง ก็น่าจะอยู่ตรง ส่วนที่อาจารย์ต้องการจะเน้นหรือให้รู้ว่า นี่มันสำคัญนะ ต้องจำไว้ มากกว่า ...// หากรู้สึกว่า มันเยอะไปแล้ว อาจารย์ก็จะแย่งซีนหนักกลับมาเสียจะได้รู้ว่า แม้ จะหนักหนาอย่างไร กำลังและรอยยิ้ม ก็ยังอยู่เคียงข้างกันเสมอ..//
• หากนำไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน สิ่งที่พูดวันนี้ คะแนนเต็ม 10 ดิฉันให้ 8 ค่ะ อาจจะด้วยอายุอานามที่เยอะขึ้น และคงต้องได้ใช้ในระยะเวลาอันใกล้อย่างแน่นอนค่ะ
• คำถามสุดท้าย น่ารักมากค่ะอาจารย์ถามว่า “อยากเจอกันอีกไหม” ลูกอ้อนเหมือนเด็กเลยค่ะ ...// แล้วใครจะใจร้ายทำได้ลงละค่ะ อาจารย์ ให้ เต็ม 10 คะแนน ค่ะ อยากให้กลับมายืนตรงนี้อีก แน่นอน //

7 . ข้อ 7 ไม่มีค่ะ แต่จะบอกว่า ง่วงนอนมาก สวัสดีค่ะ...

สำหรับการเรียนในวันนี้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ..สนุกสนาน..แต่สาระครบถ้วน..สุดยอดมากคะ..ทั้ง3บทเรียน..เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมอบรม

สำหรับความรู้ที่ได้รับ คือ.

1..การสื่อสารกับตัวเองภายใน.ค้นหาเป้าหมายของตนเองให้เจอ..การให้เวลากับคนที่ดูแล..ชอบคำพูดที่ว่า"ให้คุณเป็นสาเหตุของผลลัพธ์ อย่าเป็นเหยื่อหรือผลกระทบจากการกระทำของคนอื่น"

2.เรียนรู้การปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ กริยา ท่าทาง การวางตน การแต่งกายที่เหมาะสมกับกาละเทศะ

3. แนวคิดในการคิดนอกกรอบ..วิธีการทำให้ผู้บริหารระดับสูงกว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เราคิด..เทคนิคการใช้หลักCEF..และPPCOมาวิเคราะห์..

เทคนิคการนำเสนองานแล้วได้รับการยอมรับ

. ซึ่งทั้ง3เรื่องสามารถนำมาปรับใช้ในหน้างานและชิวิตจริงได้..

สิ่งที่ได้เรียนรู้ประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2558

วันนี้รู้สึกการเรียนทั้ง 3 วิชาเป็นกันเอง การเรียนสนุก บรรยากาศในห้องเรียนไม่ตึงเครียด สามารถเข้าใจง่าย และได้ความรู้จากการเรียนดังนี้

รายวิชาที่ 4 Managing Self Performance / อ.อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์

มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเองที่สามารถพัฒนาได้ และต้องการได้รับการพัฒนาเพื่อให้ศักยภาพที่สูงขึ้น ซึ่งมีทั้งการสื่อสารภายในที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด รวมถึงการสื่อสารกับผู้อื่น และการมีส่วนร่วม และที่สำคัญคือการบริหารเข็มทิศและนาฬิกาเวลาชีวิตให้เหมาะสม ถูกต้องเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ อย่าปล่อยให้ชีวิตเหมือนตุ๊กตาล้มลุกที่ไม่มีลมเพราะมันจะไม่สามารถล้มลุกได้ เราต้องเป็นตุ๊กตาล้มลุกที่มีลมเต็มอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้การทำหน้าที่และมีศักยภาพสูงสุดอยู่ตลอดเวลา

รายวิชาที่ 5 Personality and Social Skills Development / อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์

การแต่งกายเป็นภาพลักษณ์ภายนอกที่สำคัญ ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ถ้าเราแต่งกายดีทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกชอบและอยากเข้าใกล้มากกว่าครึ่่ง แต่การแต่งตัวดียังไม่พอเราต้องมีมาดดี อารมณ์ดี พูดจาดี และรู้จักกาละเทศะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

รายวิชาที่ 6 Key words of success : Leadership-Mindset-Thinking outside the box - Thinking new box." / อ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์

การเรียนวิชานี้อาจารย์ได้ถ่ายถอดความคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบให้เห็นชัดเจน ทำให้ผู้เรียนเข้าใจง่าย และสนุกกับการเรียน ตั้งแต่เรื่องการใช้รูปภาพ และการแสดงละครเรื่องกระบวนการ PPCO ทำให้ทราบว่าการที่เราจะเสนอความคิดนอกกรอบเรื่องอะไรก็แล้วแต่เราต้องรู้จริงในเรื่องนั้นๆ รู้ให้รอบด้าน ทะลุทะลวง แต่ให้คิดแค่ครึ่งเดียวและอีกครึ่งให้คิดเข้ามาในกรอบขององค์กร และกรอบของสังคม เรียกว่าการคิดคร่อมกรอบ ถ้าสามาถคิดและทำแบบนี้ได้เราก็จะประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่อง

16/7/58

1. Management self performance

สมรรถนะการทำงาน (competency) ประกอบไปด้วย ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ

• ความรู้และทักษะเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ขัดเจน
• คุณลักษณะเป็นส่วนที่ถูกซ่อนอยู่ในตัวตน มองไม่เห็น ได้แก่ พฤติกรรม ทัศนคติ ค่านิยม แรงบันดาลใจ

คุณลักษณะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในสมรรถนะทั้ง 3 ด้าน เพราะสามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาสมรรถนะด้านอื่นๆ ตามมา

"โลกเปลี่ยนไป เมื่อใจเปลี่ยนแปลง"

2. Personality and social skills development

บุคคลิกภาพที่ดีเกิดจากการแต่งกายที่ดี มีการวางตัวเหมาะสม พูดจาสุภาพ อารมณ์ดี และมีกาละเทศะ ถ้าบุคคลิกดีก็จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและมีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำงานมากกว่า

บุคคลิกภาพเป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนพัฒนาได้ บางอย่างแค่มีสติและคิดก่อนปฏิบัติ แต่บางอย่างก็ต้องอาศัยมุมมองและเสียงสะท้อนจากคนอื่นๆ ด้วย

3. Thinking outside the box

การคิดอะไรนอกกรอบควรเริ่มต้นด้วยการคิดโดยปราศจากอคติใดๆ ทั้งในเรื่องของความถูกผิด ความเป็นไปได้ หรือว่ามันจะอยู่ในกรอบของสังคมหรือกฎหมายหรือไม่ แล้วค่อยใช้กระบวนการ PPCO อันได้แก่ Pluses, Potentials, Concerns และ Oppotunity เข้ามาพิจารณา ก็จะทำให้เกิดความคิดและเหตุผลรอบด้านมากกว่า ก่อนที่จะนำไปปรับแก้หรือลงมือทำต่อไป

การนำเสนอความคิดนอกกรอบที่สุดโต่งบางครั้งต้องใช้กลยุทธในการค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดที่ละส่วน มิฉะนั้นอาจจะทำให้เกิดแรงต่อต้านจนให้ต้องหยุดทำไปเลย แต่การค่อยๆ เปิดเผยข้อมูลที่ละส่วนแล้วทำให้ผู้ร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชารู้สึกน่าสนใจจนเข้ามาร่วมคิดด้วยจะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

สรุป

1.ทรัพยากรมนุษย์มีคุณค่าต่อองค์กรมากที่สุด

2.ผู้นำต้องก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ในยุคปัจจุบัน

3.Mindset คือความเชื่อในอดีต และปรับเปลี่ยนความคิดเดิมได้ยาก

การนำเนื้อหาในบทเรียนมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน/ในหน่วยงาน จะทำให้องค์กรมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่ามากขึ้น

สรุปเนื้อหาการอบรมประจำวันที่ 16-7-58

Managing self performance

เป็นวิธีในการสื่อสารโดยก่อนที่จะสื่อสารกับใครให้เข้าใจต้องรู้จักการสื่อสารกับตัวของเราเองก่อน ในการสื่อสารกับตัวเองนั้น อ. ได้ให้เราสื่อสารกับตัวเองผ่านรูปถ่ายที่ได้เลือกมา ซึ่งเป็นการเลือกรูปที่มาจากความรู้สึกลึกๆภายในจิตใจของเราและเราจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาเป็นคำพูดให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างไร

Personality and social skills development

First impression บุคลิกภาพที่ดีสามารถสร้างได้โดยเฉพาะบุคลิกภาพที่ดีตั้งแต่แรกพบ ซึ่งจะเป็นการสร้างความประทับตรึงตราเข้าไปในจิตใจของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแนบแน่นที่สุด และในหัวข้อนี้ก็เป็นการกล่าวถึงประเด็นนี้ อ.ได้ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการวางตัวเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมในวาระต่างๆทั้งในเรื่องการจัดประชุม การนั่งรถ การเดิน การนั่ง ในโอกาสต่างๆ เพื่อให้ผลที่ออกมากับตัวเราดีที่สุดในสายตาของคนอื่นๆที่พบ

Thinking outside the box- Thinking new box

หัวข้อนี้เป็นการฝึกให้เราคิดนอกกรอบ นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่มี เพราะกรอบและกฎเกณฑ์ต่างๆนั้นบางทีอาจปิดกั้นความคิดที่ดีๆ เอาไว้ อ.ได้ฝึกให้เราคิดย้อนแนวทางเดิมๆที่เคยปฏิบัติกันคือปล่อยความคิดให้เป็นอิสระคือนอกกรอบก่อนแล้วหาวิธีการที่จะนำกลับเข้ามาอยู่ในกรอบที่สามารถนำมาปฏิบัติได้

การอบรมวันที่ 16 กค. 58

ความเชื้อเกี่ยวกับคน เราเชื้อว่าคนทุกคนมีศักยภาพที่ดี สามารถพัฒนาได้และต้องได้รับการพัฒนาและทุกคนต้องการประสบการณ์ที่ดี การสื่อสารกับตนเองเป็นส่ิงสำคัญ ซึ่งหมายถึงการพัฒนาทางด้านจิตใจการฝึกจิตโดยการฝึกสมาธิ เพื่อให้ได้สติ ในการทำงาน ซึ่งจะให้ผลที่ดีมาก หากเราทำอย่างจริงจัง

ในเรื่องของการพัฒนาบุคลิกภาพ ได้เรียนรู้ตั้งแต่การแต่งตัวดี , มาดดี, พูดจาดี, รู้จักกาลเทศะ, อารมณ์ดี ซึ่งจะสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่พบเห็น

ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ บางครั้งเรารู้สึกว่าเราคิดไม่ออก หรือ กลัว หรือคิดแล้วติดกรอบสังคมทำให้ไม่กล้าคิด การคิดนอกกรอบเป็นควมคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นเป็นความคิดที่เปลี่ยนไปจากเดิม คิดถึงข้อดีของความคิดเราก่อน คิดถึงอนาคต ติดอะไร แปลว่าอะไร กังวลอะไร หลบ เลี้ยว และจะทะลุเพื่อความสำเร็จนั้นชื่นชม รูปแบบของกิจกรรมได้จัดทำให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ

สิ่งที่ได้จากการเรียน วันที่ 15/7/2558

ประเด็นที่ 1 ทุนมนุษย์

ทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในองค์กร ต้องมีวิธีการจัดการและพัฒนาศักยภาพโดยใช้ 8K's+5K's ทำให้มองย้อนมาที่ตนเอง คือ ต้องมีการพัฒนาความรู้จากการอ่านหนังสือให้มากขึ้น ขยันอ่านและศึกษาหาความรู้ทำงานควบคู่กับการเรียนรู้ รวมทั้งนำบทเรียนที่ได้ไปปรับใช้ในส่วนของหน่วยงาน เพื่อที่คนในหน่วยงานจะได้ทำงานอย่างมีความสุข ผูกพันกับองค์กร ไม่ลาออกหรือโยกย้ายไปทำงานที่อื่น โดยให้โอกาสในการเรียนรู้ การพัฒนา และความก้าวหน้ามั่นคงในการทำงาน

ประเด็นที่ 2 ภาวะผู้นำ

ต้องมีความแกร่ง แน่วแน่ ในการแก้ไขปัญหา

ต้องมีความนิ่ง

ต้องมีทางออกหลายทางที่เหมาะสม

ต้องมีแนวคิดใหม่ๆ ไม่ยึดกรอบ

ต้องมีความยืดหยุ่น

ต้องมีความจริงใจและตั้งในการแก้ปัญหา

ต้องขณะทำไม่สำร็จ ต้องให้ประชาชนยังมองว่ายัง “นำ” อยู่

ประเด็นที่ 3 ทัศนคติ

Attitude คือ ทัศนคติ ความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

Mindset คือ กรอบตวามคิดความเชื่อ ความเป็นตัวตน

สิ่งที่สำคัญคือการมี mildest ที่เป็นบวก และทำอย่างไรก็ได้ให้คนในองค์กร มองที่เป้าหมายเดียวกัน

สิ่งที่ได้จากการเรียน วันที่ 16/7/2558

ประเด็นที่ 1 Management self performance

ความสำเร็จของคน ประกอบด้วย

• ตัววัดความสำเร็จ ศักยภาพและสถรรถนะการทำงาน (Competency) รู้ว่าองค์กรมองและพัฒนาบุคลากรและผู้นำด้านใดบ้าง
• รู้จักตนเองและมีเป้าหมาย (Know & Discover Self / Have Goal)
• สมมุติฐานที่เชื่อแล้วจะช่วย (Big Assumptions for Life) เพื่อการประครองชีวิตการทำงานอย่างมีความสุขและความก้าวหน้า

ประเด็นที่ 2 Personality and social skills development

First Impression คือ ความประทับใจแรกพบ รู้สึกดี เป็นมิตร อยากคุยด้วยบุคลิกภาพที่ดี ประกอบไปด้วย 1) แต่งตัวดี 2) รู้จักกาลเทศะ 3)มาดดี 4)พูดจาดี 5)อารมณ์ดี

ประเด็นที่ 3 Thinking outside the box

Insanity คือ การทำสิ่งเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคาดหวังว่าผลที่ได้ตามผลลัพธ์เดิม

ทำต่างจากเดิม คิดต่างจากเดิม เรียกว่า ความคิดสร้างสรรค์

การคิดคร่อมกรอบ PPCO คือ คิดแบบนอกกรอบ Outside the box แล้วนำความคิดเลี้ยวเข้ามาในกรอบองค์กร สังคม และ Landing เอาความคิดเรามาอยู่ในกรอบสังคม นโยบายฯ เรียกว่า เป็นการคิดคร่อมกรอบ เป็นครึ่งหลังของการคิดสร้างสรรค์ วิธีการ : มาจาก CEF creative Educatio Foundation

คิดถึงข้อดีของความคิดของเรา -> Pluses คิด บวก + +

คิดถึงข้อดีที่อาจเกิดในอนาคต ->Potential

คิดถึงว่าติดอะไร กังวลอะไร แต่ว่าอะไร ->Concerns

พยายามทะลุทะลวงข้อ 3 หลบ เลี่ยง หรือทะลุให้ได้ -> Opportunities

บันทึกการเรียนรู้..วันที่ 16 ก.ค.58

วันนี้ เป็น 3 รายวิชาที่สนุก ไม่เครียด และ “ โดนใจ” ในหลายๆอย่าง ทั้งเนื้อหาสาระ และท่านอาจารย์ค่ะ

วิชาแรก การ coaching แบบที่ให้เราพยายามรู้จักตัวตนของตนเอง โดยให้เราสื่อสารกับตัวเองภายในบ้าง การให้หาประสบการณ์ที่ดี จากคนรอบๆตัวเรา การหาเวลาและโอกาสในการดูแลชีวิตตนเองและคนที่เรารัก ท่านอาจารย์มีกิจกรรมดีๆที่ให้เราได้เล่าเรื่อง เล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต กิจกรรมที่สอนให้เราได้สร้าง สติ กับตัวเอง สุดท้าย สิ่งที่คิดว่าจะต้องนำไปปรับใช้กับตัวเอง คือ การจัดหาเวลาให้กับสิ่งที่เราชอบและมีความสุข และพยายามค้นหาศักยภาพของตัวเองต่อไป

วิชาที่สอง เป็น วิชาที่ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ สนุกและมีประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในชีวิตได้เลยค่ะ

วิชาที่สาม เป็นวิชาที่โดนใจ ตั้งแต่ชื่อบริษัท..37.5 องศาเซลเซียส, กบเหลาดินสอ อะไรแบบนี้ นอกจากนั้นแล้ว เนื้อหาสาระที่ท่านอาจารย์ได้ถ่ายทอด เรียกได้ว่า นำเอาไปใช้ได้จริงๆ แบบที่เราเคยได้แต่ คิด คิด คิด แล้วก็คิดไม่ออกหรือคิดแล้ว แต่ไม่ยอมให้ออกแบบที่ท่านอาจารย์ว่... การฝึกการใช้ PPCO น่าจะต้องลองนำเอาไปใช้ในชีวิตจริงของเราค่ะ สุดท้ายต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์ ที่สอนให้เราวิชา “คิดคร่อมกรอบ” ให้พวกเราค่ะ

สรุปบทเรียน วันที่ 16/7/58

หัวข้อของ อาจารย์ อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์

ได้แนวคิดในการโค้ช โดยการใช้ศักยภาพของคนที่มีอยู่ภายใน การสร้างความสำเร็จ จะเกิดได้ต้องมีความรู้ มีทักษะ ได้แนวคิดในการสอนโดยไม่กล่าวโทษที่ตัวบุคคล แต่จะโทษที่พฤติกรรมนั้น ๆ แทน ได้แนวคิดการเผชิญความกลัวจากชีวิตจริงของคุณโจน จันได ได้เรียนรู้การสร้างจินตนาการจากรูปภาพ

หัวข้อของ อาจารย์ ณภัสวรรณ จิลลานนท์

ได้แนวคิดในการแต่งตัว เพื่อให้มีบุคลิกที่ดี ท่าไหว้ที่ถูกต้อง การเลือกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย มารยาทในสังคม สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และสอนเพื่อนร่วมงานได้

สุดท้ายเป็นหัวข้อของ อาจารย์ ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้จากการเรียน : ความคิดสร้างสรรค์เกิดได้ทุกที่ เมื่อเราคิดนอกกรอบ ไม่อยู่กับความซ้ำซากจำเจ สิ่งที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ไม่เกิด : คือ ความกลัว กฎระเบียบ งบประมาณ สังคม ขนบธรรมเนียม ได้แนวคิดในการเลือกเรื่องที่ทำโดยคิดถึง ข้อดี อนาคต สิ่งที่เป็นอุปสรรคและการจัดการ ได้รูปแบบการนำเสนองานกับหัวหน้า เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้า

วันที่ 2 วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

รายวิชาที่ 4 Managing Self Performance / อ.อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์

1. ตัววัดความสำเร็จ ศักยภาพ และ สมรรถนะการทำงาน โดยทุกคนต้องมี competency ซึ่งประกอบไปด้วยความรู้ (knowledge ) ทักษะ (skills) คุณลักษณะและความเชื่อ (attitude & value) สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีเพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและบรรลุเป้าหมายขององค์กร แต่การพิจารณาคนต้องดูให้ละเอียดตั้งแต่ knowledge ,skillsซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้ชัดเจน ส่วน attitude & value เป็นส่วนที่ซ่อนอยู่ภายในบุคคล ต้องดูว่าถึงแม้มีความรู้ ทักษะที่ดีแต่ถ้ามีทัศนคติ ความเชื่อที่ไม่ดี มองในแง่ลบ ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อองค์กรได้

2. ได้เรียนรู้วิธีการสื่อสารโดยผ่านรูป ทำให้มีข้อคิดได้ว่าก่อนที่จะสื่อสารกับใครให้เราพยายามเข้าใจตัวของเราเองก่อน ว่าตัวเรามีความรู้สึกอย่างไร ต้องการให้มีชีวิตดำเนินไปและมีเป้าหมายอะไร โดยผ่านการเลือกรูปที่มาจากความรู้สึกลึกๆภายในจิตใจของเราและเราจะสามารถถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาเป็นคำพูดให้ผู้อื่นเข้าใจ รับรู้ได้อย่างไร

รายวิชาที่ 5 Personality and social skills development / อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์

first impression เป็นสิ่งสำคัญมากที่ส่งผลให้ผู้พบเห็นเราเกิดความประทับใจแรกพบหรือไม่ การเป็นหัวหน้าคนควรมี บุคลิกภาพดี ตั้งแต่การแต่งตัวดีทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า ให้ถูกกับกาลเทศะ การมีน้ำเสียง การพูดที่ดี อารมณ์ดี รวมทั้งกิริยามารยาทในการเข้าสังคมต่างๆ ซึ่งทำให้รายวิชานี้ขณะเรียนมีความสุขสนุกสนานมากคะ

รายวิชาที่ 6 Leadership -Mindset - Thinking outside the box , Thinking new box /อจ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์

Insanity คือ การทำสิ่งเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคาดหวังว่าผลที่ได้จะต่างจากเดิม

การจำกัดครอบความคิดเกิดจาก ความกลัว ยึดติดกับกฎระเบียบไม่กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ถ้าจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต้องคิดนอกกรอบและคร่อมกรอบ โดยใช้หลัก PPCO

1.คิดถึงข้อดี Pluses คิด บวก 2.คิดถึงข้อดีที่ในอนาคต ->Potential

3.คิดว่าติดอะไร กังวลอะไร ->Concern 4.พยายามทะลุทะลวงข้อ 3 หลบ เลี่ยง หรือทะลุให้ได้ -> Opportunities

เมื่อได้ความคิดสร้างสรรค์นั้นมาแล้ว ต้องมี 5 ขั้นตอนในการเสนอไอเดียใหม่ๆแก่ระดับหัวหน้างานดังนี้

1.ทำให้หัวหน้าสั่งเราคิด 2.เสนอไอเดียตามหัวหน้าสั่ง(ถ่อมตน)

3.ถามหัวหน้าถึงข้อดี 4.ขอให้หัวหน้าสอนเพิ่มเติม

5.เสนอไอเดียเพิ่ม ตามที่หัวหน้าสั่ง/สอน

การเรียนรู้และนำมาใช้จากการเรียน วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 1

1 ตัววัดความสำเร็จ ศักยภาพและสถรรถนะการทำงาน (Competency) รู้ว่าองค์กรมองและการพัฒนาบุคลากรและผู้นำด้านใดบ้าง

2 รู้จักตนเองและมีเป้าหมาย (Know & Discover Self / Have Goal) รู้จัก และ การค้นหาความต้องการในใจตนเอง

3 สมมิติฐานที่เชื่อแล้วจะช่วย (Big Assumptions for Life) เพื่อการประครองชีวิตการทำงานอย่างมีความสุขและความก้าวหน้า วิชาที่ 2

• เรื่องบุคลิกภาพ ความประทับใจแรกพบ

ขอสำคัญบุคลิกภาพที่ดีคือ

• แต่งตัวดี เหมาะสม
• มาดดี
• อารมณ์ดี
• พูดจาดี
• รู้จักกาลเทศะ เหมาะสมกับสถานที่นี้สำคัญที่สุด วิชาที่ 3 ถึงวิธีการคิดนอกกรอบ Outside the box มาจาก CEF creative Educatio Foundation การคิดคร่อมกรอบ PPCO คือ
• คิดถึงข้อดีของความคิดของเรา (Pluses) คิด บวก + +
• คิดถึงข้อดีที่อาจเกิดในอนาคต (Potential)
• คิดถึงว่าติดอะไร กังวลอะไร แต่ว่าอะไร (Concerns)
• พยายามทะลุทะลวงข้อ 3 หลบ เลี่ยง หรือทะลุให้ได้ (Opportunitie) แบบที่ไม่ผิดขนบธรรมเนียมประเพณี ,สังคม

สรุปประเด็นที่ได้รับจากการฟังบรรยายวันที่ 16-7-58 ค่ะ

1. ประเด็นแรก ในหัวข้อ Managing self performance ซึ่งอาจารย์ได้ให้ประเด็นที่น่าสนใจไว้หลายๆ ประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะในเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับคน ที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตนเอง มีความสามารถในการพัฒนา โดยการสื่อสารกับตนเองก็มีความสำคัญ และการหาประสบการณ์ที่ดีได้จากใกล้ตัว

2. ประเด็นที่ 2 ในหัวข้อ Personality and social skills development เป็นหัวข้อที่ให้ความรู้ในด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งบางเรื่องเราก็อาจจะยังไม่รู้ บางเรื่องเราก็รู้แต่ปกติอาจจะไม่ได้ใส่ใจ ซึ่งหัวข้อนี้ก็สามารถจะมาจุดประกายในหลายๆเรื่อง ทำให้เราหันมาให้ความสำคัญกับบุคลิกภาพมากยิ่งขึ้น

3. ประเด็นที่ 3 เรื่อง Thinking outside the box- Thinking new box เป็นการสนับสนุนการคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ ซึ่งวิธีการที่เราได้สวมบทบาทสลับกัน เป็นทั้งลูกน้องที่มาเสนอไอเดียใหม่กับหัวหน้า และเป็นทั้งหัวหน้าที่รับฟังไอเดียใหม่จากลูกน้อง ทำให้เราได้เห็นมุมมองที่ต่างกันชัดเจนมากขึ้น

จากคำถามของอาจารย์ศรัณย์

1. ความประทับใจ ; อาจารย์มีวิธีการใหม่ๆในการนำเสนอ ทำให้ทุกคนได้รับความรู้ไปโดยอาจจะไม่รู้ตัว

2. เสนอ ; ได้ทำกิจกรรมทำให้สนุกมาก แต่เวลาของบางช่วงกิจกรรมอาจจะน้อยไปหน่อย

3. เพลิดเพลินสนุกสนาน (10) ; 10

4. สาระ vs. บันเทิง ; ให้สนุกและได้รับความรู้ไปในคราวเดียวกัน

5. อยากนำไปใช้จริง (10) ; 9

6. อยากเจอศรัณย์อีกไหม (10) ;10

สรุปประเด็นสำคัญและสิ่งที่ได้รับ

15/7/58

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฎีเพื่อการเรียนรู้

- พูดถึงหัวข้อการเรียนรู้ทั้งหมด และวิธีขั้นตอนที่จะทำอย่างไรให้ รพ.มุ่งสู่ความเป็นเลิศ การมองไปข้างหน้า มองอนาคต คิดนอกกรอบ มีความมุ่งมั่น การแคร์กัน มีความกล้าแสดงออก การเรียนรู้เพื่อพร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง

- ภาวะการเป็นผู้นำที่ดี ต้องพร้อมเรียนรู้และฝึกฝน

“Learning how to learn”

วิชาที่ 2 ทุนมนุษย์-Mindset Leadership และการทำงานในยุคที่เปลี่ยนแปลง

- การมองทรัพยากรมนุษย์ อย่ามองแค่ภายนอกองค์กร แต่ควรมองให้กว้างๆ และให้สอดคล้องกับสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วย โดยใช้ 8 K’s และ 5 K’s

- การจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยยกตัวอย่างผู้นำจีน ใจต้องนิ่ง จัดการอย่างแกร่ง มีคุณภาพ ทางออกเหมาะสม มีความคิดสร้างสรรค์ อย่ากลัวในความเลวที่เกิดขึ้น มีความมั่นใจ และมีความจริงใจในการแก้ปัญหา

-“Thinking of success”

- Mindset คือ พื้นฐานฝังรากลึก ไม่มีปรุงแต่ง ความเชื่อ เปลี่ยนยาก มีทั้งด้านบวกและลบ

Attitude คือ ค่านิยมชั่วคราว เปลี่ยนแปลงง่าย

วิชาที่ 3 CEO-HR-Non HR-Stakeholders

- ยกตัวอย่างบริษัทเครื่องสำอาง โดยการให้ทุกคนทุกตำแหน่งในองค์กรได้พบลูกค้า เพื่อให้มีโอกาสได้คุย ได้รู้ความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้าง Value ให้องค์กร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ Mindset ของแต่ละคน

- CEO – HR - Non HR คือคนภายในองค์กร ซึ่งมี Stakeholders คือลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ที่จะเป็นตัวกำหนดตัวชี้วัดการทำงานขององค์กร

- ยกตัวอย่างบริษัท ที่รับคนที่มีวิธีคิดที่ดี ประสบการณ์การทำงาน โดยไม่คำนึงถึงการศึกษา

16/7/58

วิชาที่ 4 Managing self Performance

- การเพิ่มความสุขในชีวิตการทำงานประจำ คือ การหาอะไรใหม่ๆมาเติมเต็มในชีวิต

- กิจกรรมเลือกรูป 3 รูป แล้วอธิบายถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยให้สอดคล้องกับรูป

- คลิปคุณโจน จันได ได้กล่าวถึงความกลัวที่จะเผชิญกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่กล้าพูดคุย จนวันหนึ่งเขาคิดที่จะเปลี่ยนตัวเอง เขามีความกล้าในสิ่งที่กลัว กล้าเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น และเอาชนะตัวเองได้

- สติกับสมาธิ สติ คือ รู้ตัวเอง สมาธิ เป็นความนิ่ง ความสงบ ซึ่งเป็นพื้นฐานการฝึกสติ

วิชาที่ 5 Personality and Social Skills Development

การมีบุคลิกภาพดี คือ แต่งกายดี พูดดี มีกาลเทศะ มาดดี และอารมณ์ดี และสอนเกี่ยวกับการนั่ง เดิน ยืน พูด ฯลฯ ที่ถูกต้องเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ สามารถนำสิ่งที่สอนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

วิชาที่ 6 Key words of success: Leadership – Mindset – Thinking outside the box– Thinking new box.

- การคิดนอกกรอบ คิดคร่อมกรอบ ความคิดสร้างสรรค์ โดยเอาหลัก PPCO มาใช้ เพื่อเป็นเหตุผลให้ความคิดดังกล่าว เข้ามาในกรอบสังคมได้ง่ายขึ้น

- อยากเจอกันอีกไหม อยากเจอค่ะ ถ้ามีโอกาส

และจากคำถามของอาจารย์ศรันย์ที่ถามในห้องเรียนค่ะ

- ความประทับใจ อาจารย์สอนสนุก เข้าใจง่าย ไม่เน้นวิชาการ ได้ผ่อนคลาย ทำให้ได้เป็นตัวของ ตัวเองมากขึ้นค่ะ

- การนำเสนอ เป็นไปในด้านบวกค่ะ นำเสนอได้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน

- ความสนุกสนาน ให้ 9 ค่ะ

- สาระบันเทิง เต็มเปี่ยม ค่ะ

- การนำไปใช้ในชีวิตจริง ให้ 9 ค่ะ

• โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทยศาสตร์ รุ่นที่ 3
• วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศและแนะนำทฤษฏีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่ออนาคตของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งได้ดำเนินจัดมาตั้งแต่รุ่นที่ 1 (3 ก.ค. – 1ต.ค. 58) รุ่นที่ 2 (2 ต.ค. -26 ธ.ค. 58) และในรุ่นที่ 3 (15 ก.ค.-15ต.ค.58) โดยต้องการพัฒนาบุคลากรให้มีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ทำให้เกิดการเรียนรู้มากมายในงาน นำวิชาที่ได้เรียนไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ในงานที่ปฏิบัติ

วิชาที่ 2 Learning Forum “ทุนมนุษย์-Mindest Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนของคณะแพทยศาสตร์มอ.”

แนวคิดและทฤษฎีสำคัญเพื่อการเรียนรูในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างมูลค่าและประสิทธิภาพ โดยมีทฤษฎีที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ คือการมองความเป็นจริงและตรงประเด็น เพื่อสร้างคุณค่า มูลค่าเพิ่มจากการบริหารและทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งเรียนรู้จากความเจ็บปวด ประสบการณ์ การรับฟังและนำไปทิศทางหรือเป้าหมายเดียวกัน โดยเฉพาะผู้นำในทีม ( Leadership) ต้องเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ เห็นคุณค่าของคนที่มีส่วนสำคัญในองค์กรมากที่สุด

การบริหารทุนมนุษย์ให้ประสบผลสำเร็จไปสู่ความเป็นเลิศ ประกอบด้วย 3 ข้อสำคัญคือ 1.ปลูกหรือพัฒนา 2.เก็บเกี่ยว 3. เอาชนะอุปสรรค

Mindset เป็นพฤติกรรมที่กิดจากความเชื่อลึกๆๆๆที่อยู่ข้างในและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต

Attitude คือทัศนคติหรือค่านิยมชั่วคราวที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า

วิชาที่ 3 “ CEO –HR-Non HR –Stakeholders”

ปัจจัยการขับเคลื่อนสังคม คือ การเปลี่ยนแปลง โลกาภิวัตน์ นวัตกรรม ซึ่งองค์กรในปัจจุบันต้องมีคุณค่าคนกับคุณค่าทางธุรกิจ ซึ่งสามารถเป็นทุนที่จับต้องได้ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนทางกลยุทธ์ ทุนทางการตลาด ทุนทางมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางโครงสร้าง ศักยภาพคน เป็นสิ่งซ่อนเร้นอยู่ในตัวบุคคลมีรูปแบบความรู้ ทักษะ หรือความแตกต่าง และความหลากหลาย

วิชาที่ 4 “ Managing Self Performance”

Competency หมายถึง กลุ่มของความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ ซึ่งประกอบด้วยพฤติกรรม ทัศนคติและแรงบันดาลใจ ที่มีความจำเป็นต้องมุ่งมั่นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายขององค์กร เพราะกว่าคนเราจำสำเร็จต้องล้มลุกคลุกคลานมาก่อน

แนวคิดของโจ จันได ต้องกล่าเผชิญต่อความเป็นจริง ชนะต่อการดูถูกเหยียบหยาม ทำให้อยู่กับตัวเราเองมากที่สุด อาจฝืนทำสิ่งที่ตัวเองเกลียด ไม่ชอบ อย่าวิ่งตามอารมณ์ สร้างจิตใจให้เข้มแข็ง ทำให้เกิดความคุ้นชิน เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

วิชาที่ 5 “ Personality and Social Skills Development”

การแต่งกายสไตล์สำนักบริหารยุคใหม่ ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ภายนอกที่เห็น (Look) 55% น้ำเสียง (Sound ) 38% และคำพูด (Word) ซึ่งประกอบด้วย การแต่งตัว มาด พูดจาดี อารมณ์ดีและถูกต้องกาลเทศะ คำนึงให้ความสำคัญในการเรียกชื่อ เขียนชื่อ นามสกุลของคนอื่นให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการให้เกียรติผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ เรียนรู้ถึงการแต่งกายให้เหมาะสมกับลักษณะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ทักทาย การนั่ง การเดิน การรดน้ำสังข์ เป็นต้น

วิชาที่ 6 “ Kry words of success: Leadership-Mindest –Thinkong outside the box-Thinking new box”

การทำอะไรก็ตามย่อมทำให้เกิดผลลัพธ์ ต้องกล้าคิดนอกกรอบเหมือนต้นกล้าที่เติบโตอยู่ในกรอบอาจติดกรอบนโนบาย สังคม หรือเกิดความกังวลกลัวในขณะที่คิด ไม่สามารถดึงความคิดนั้นออกมาเพราะยึดติดอยู่กับสังคม ระเบียบ ประเพณี ศีลธรรม เป็นต้น แต่เราสามารถดึงเอาความคิดเข้ามาอยู่ในกรอบขององค์กร คือ

Pluses: คิดข้อดีไอเดียดีๆๆจากตัวเรา

Potentials : คิดในสิ่งที่ดีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

Concern : คิดว่าติดกังวลอะไร

Opportunities’ : คิดอย่างทะลุแลพยายาม

5ขั้นตอนในการเสนอไอเดียใหม่ๆๆๆ

• ทำให้หัวหน้าสั่งให้เราคิด
• เสนอไอเดียตามที่หัวหน้าสั่ง(ถ่อมตน)
• ถามหัวหน้าถึงข้อดี
• ขอให้หัวหน้าสอนเพิ่มเติม
• เสนอไอเดียเพิ่มตามที่หัวหน้าสั่งและสอน

ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านมากๆๆค่ะ

วันที่ 15 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศ และแนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

• การอบรมโครงการพัฒนาบุคลากรครั้งนี้ ต้องการเน้นการพัฒนาภาวะความเป็นผู้นำ ที่ต้องนำไปปรับใช้ในการบริหารงานในปัจจุบันที่ทำอยู่ ซึ่งเน้นการเรียนรู้ร่วมกัน โดยการเข้าใจตนเองและผู้อื่น
• หากเรามีเวลาแค่ 15 นาที เราต้องคิดว่าอะไรสำคัญที่สุด ของการทำอะไรสักอย่าง และมุ่งมั่นทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ
• พัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ / การกล้าแสดงความคิดเห็น
• ภาวะผู้นำ (มาจากพรสวรรค์)
• การมีพรสวรรค์ ควรเรียนรู้และสามารถฝึกฝนได้
• ใช้ความคิดแบบผู้ประกอบการ
• การปรับ Mindset ให้เป็นพฤติกรรมใหม่ ๆ ให้ดีและต้องเก่งด้วย
• ต้องมีความสุขในการทำงาน
• หากให้เกิดผลงานที่ยอดเยี่ยม เราควรรักในองค์กรที่เราทำงาน
• เน้นผลงานของบุคลากรมากกว่าเน้นเวลาที่ทำงาน
• HR จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กร โดยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลักดัน แก้ปัญหาในการทำงาน
• HR สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ และลดงานประจำที่ไม่ได้เพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรโดยรวม
• เราต้องหาประสบการณ์ที่ดีจากคนใกล้ตัวก่อน
• คนเราถ้ามี 2 สิ่ง คือ การบริหารเวลา และเข็มทิศ เพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง มาเติมเต็มในชีวิต หากเจอสิ่งที่ชอบจะทำให้งานประจำดีขึ้น
• Competency ของคนเราจริง ๆ เปรียบเหมือนตุ๊กตาล้มลุก
• อย่าเป็นเหยื่อหรือผลกระทบจากการกระทำของคนอื่น
• การหนีจะไม่ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่กลัว สิ่งที่อาย ถ้าเราคุ้นเคยแล้ว ความกลัวก็จะลดลง กลายเป็นเรื่องธรรมดา ควรฝึกที่จะต้องเผชิญกับความกลัว เพราะทำให้ใจเปลี่ยนได้ ถ้าวิ่งตามอารมณ์จะทำให้เหนื่อย
• บางครั้งเพื่อนร่วมงานอยากให้เราสดใส แต่งตัวสดใสให้คนรอบข้างสดชื่น
• มารยาทของการแนะนำ หากใครสำคัญให้เรียกชื่อคนนั้นก่อน
• การที่บุคคลจะได้การยอมรับนับถือ การสนับสนุน ความไว้วางใจ และความประทับจากผู้อื่นนั้น ก็ควรจะแสดงบุคลิกภาพที่ดีและเหมาะสมให้ผู้อื่นเห็น เพราะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของผู้พบเห็น
• การแต่งกายควรให้เหมาะสมกับกาลเทศะ และวางตัวเหมาะสมกับกาละเทศะ
• การสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ต่างไปจากเดิมจะทำให้สนุกกับการทำงาน
• กรอบความคิด คือ ความกลัว เช่น กลัวโน้น กลัวนี้ กลัวนั้น
• แต่ถ้าคิดนอกกรอบแล้ว อาจจะติดกรอบอีกกรอบ เช่น กรอบนโยบาย กรอบสังคม กรอบงบประมาณ จึงควรมองความคิดนอกกรอบแบบครึ่งเดียว แล้วนำมารวมกันกับกรอบองค์กร และกรอบสังคม หรือการคิดคร่อมกรอบ ก็จะเป็นความคิดสร้างสรรค์ได้

วิชาที่ 2 “ทุนมนุษย์ – Mindset Leadership และการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนของคณะแพทยศาสตร์ มอ.”

ควรมี

วิชาที่ 3 “CEO – HR – Non HR – Stakeholders”

วันที่ 16 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 4 “ Managing Self Performance”

“โลกเปลี่ยนไปเหมือนใจเปลี่ยนแปลง”

วิชาที่ 5 “Personality and Social Skills Development”

วิชาที่ 6 “Key words of success: Leadership – Mindset – Thinking outside the box – Thinking new box.”

การบ้าน

วิชาที่ 6 “Key words of success: Leadership – Mindset – Thinking outside the box – Thinking new box.”

• ความประทับใจ
• ข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มหรือลดอะไร
• วันนี้เพลิดเพลิน สนุกสนานมากน้อยแค่ไหน (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
• ความสมดุลย์ระหว่างสาระกับความบันเทิง
• อยากนำสิ่งที่คุยกันไปใช้จริง (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)
• อยากเจอ อ.ศรัณย์ฯ อีกมั้ย (คะแนนเต็ม 10 คะแนน)

ตอบ การมีความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าหากรู้จักปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้

เหมาะสม

ตอบกำลังพอดีแล้วค่ะ ไม่มากหรือน้อยเกินไป

ตอบสนุกสนานมากค่ะ ให้ 10 คะแนนเลยค่ะ

ตอบ กำลังพอดีค่ะ

ตอบ ไปใช้จริงค่ะ 7 คะแนน

ตอบ อยากเจอค่ะ สนุกสนานมากค่ะ ให้ 10 คะแนนเลยค่ะ

สรุปความรู้ที่ได้จากวันที่ 16 กรกฏาคม 2558

เช้าเรียนกับอ.อิทธิภัทธ ได้ข้อคิดดีๆหลายอย่างสำหรับการนำมาใช้ในการบริหารงานเช่นการสอนให้ลูกน้องคิด เช่นถามว่า "แล้วน้องคิดว่าต้องทำอย่างไรต่อดีล่ะ" อันนี้จะนำไปใช้แน่นอนค่ะ และเรื่องการตำหนิผู้อื่น อาจารย์สอนว่าให้ว่าเขาที่พฤติกรรม อย่าว่าที่ตัวตน เพราะสิ่งที่เราสอนเขาจะจำตลอดไป

บ่ายเรียนกับอ.ณภัสวรรณ สนุกมากๆ ได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติหรือวางตัวให้เหมาะสม การแต่งกายที่ถูกกาละเทศะ การแนะนำเพื่อน แม้แต่การขึ้นลงบันไดก็เป็นสิ่งที่เราก็เพิ่งรู้ว่าใครควรเดินขึ้นก่อน-หลัง

ช่วงเย็นเรียนกับอ.ศรัณย์ เป็นเรื่องการคิดนอกกรอบ คร่อมกรอบ รู้สึกว่าเราได้ใช้ความคิดเต็มที่และไม่ต้องกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ อิสระในความคิด อาจารย์สอนเข้าใจง่าย ให้ปฏิบัติจริง ทำให้จำสิ่งที่สอนได้มากๆและคิดว่าสามรถนำเรื่องที่อ.สอนไปใช้ในการทำงานได้ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านมากค่ะ

ความรู้ที่ได้ วันที่ 16 กค. ได้แก่ ฟังเสียงภายในของตัวเอง ตำหนิพฤติกรรม ไม่ใช่ตัวบุคคล วิชาบุคลิกภาพ ทำให้ปรับบุคิกภาพ มารยาททางสังคม วิชาความคิดสร้างสรรค์ ทราบแนวคิด ความคิดคร่อมกรอบ

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันที่ 16/7/58

วิชาที่ 4 Managing Self Performanc

ได้เรียนรู้ว่า การสื่อสารที่สำคัญที่สุด คือ การสื่อสารกับตนเอง การตั้งคำถามกับตัวเองให้ได้ว่าเราต้องการอะไร และการเผชิญกับความกลัว เพราะทุกคนต้องมีความกลัว แต่ต้องเผชิญกับมัน เพื่อตัวเราเอง

วิชาที่ 5 Personality and Social Skills Development

ได้เรียนรู้การสร้างความประทับใจเมื่อแรกเห็น การมอง น้ำเสียง และ คำพูด การแต่งตัวให้เข้ากับบุคลิกภาพ การวางตัวให้เข้ากับงานสังคม แต่งตัวดี,มาดดี,พูดจาดี,รู้จักกาลเทศะและอารมณ์ดี

วิชาที่ 6 Key words of success: Leadership-Mindset-Thinking outside the box-Thinking new box

การคิดนอกกรอบ/คิดไม่ออก/คิดแล้วไม่ยอมให้ความคิดออกมา PPCO และการ นำเสนองานกับหัวหน้า

สิ่งที่ได้เรียนรู้ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 4 Managing Self Performance โดย อาจารย์อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์

ความเชื่อเกี่ยวกับคน

• มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง
• มนุษย์ทุกคนสามารถพัฒนาได้
• การสื่อสารกับตนเอง ผู้อื่น และการมีส่วนร่วมมีความสำคัญต่อมนุษย์
• หากเราต้องการประสบการณ์ที่ดี เราควรให้ประสบการณ์ที่ดีนั้น กับคนอื่นด้วย

ประทับใจคุณโจ (วีดีโอ) ที่ค้นพบตัวเอง จนสามารถก้าวผ่านความกลัวของตัวตนภายในได้

Making Hour การจัดการเวลา

ช่วงเช้า ทำในสิ่งที่ชอบ ช่วงระหว่างวัน เรื่องงาน ช่วงเย็น เรื่องครอบครัว

แต่ปัจจุบัน เรากลับใช้มันผิดช่วงเวลา

ประทับใจกิจกรรมการเลือกภาพ แล้วให้เราเชื่อมโยงแต่ละภาพให้เข้ากับเรื่องราวของเราทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยที่เราไม่รู้โจทย์ล่วงหน้ามาก่อนเลย แต่เราก็สามารถนำมันมาเชื่อมโยงตามโจทย์ที่อาจารย์มอบให้ในภายหลังได้ (We Know Each Other Better From The Story)

วิชาที่ 5 การแต่งกายสไตล์นักบริหารยุคใหม่ โดย อาจารย์ณภัสวรรณ จิลลานนท์

Image สำคัญ กับ บุคลากรทุกสายงาน เพราะจะเป็นด่านแรก ที่จะทำให้คน อยากเข้ามาคุยด้วยกับเรา

บุคลิกภาพที่ดี เกิดจาก การแต่งกายดี, การ รู้จักกาลเทศะ, การมีมาดดี, การพูดจาดี และมีอารมณ์ดี

การใส่ใจตัวเอง ต้องทำตั้งแต่เส้นผม จรดปลายเท้า

การแนะนำบุคคลที่ 3

การนั่งในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเพื่อน, ในห้องประชุม, ในรถ, เวลาไปเสนองาน เป็นต้น

การไหว้

เทคนิคการใช้สี

วิชาที่ 6 Leadership – Mindset – Thinking outside the box โดย อาจารย์ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์

ก่อนอื่น สิ่งที่ได้นอกเหนือจากเนื้อหาวิชาที่อาจารย์สอน นั่นคือ เทคนิคต่าง ๆ ซึ่งในบทบาทของการเป็นผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนักฝึกอบรมอย่างดิฉัน สามารถนำกลับไปใช้ในงานตัวเองได้ นั่นคือ

เทคนิคการเข้าสู่บทเรียน/เทคนิคการแนะนำตัว/เทคนิคการให้คนได้มีส่วนร่วมใน workshop กลุ่มอย่างทั่วถึง

สำหรับเนื้อหาบทเรียน ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า การคิดนอกกรอบ เป็นสิ่งที่สำคัญ หากเรามองความคิดนอกกรอบ เป็นเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือ พยายามทำให้มันเข้าในกรอบองค์กร/สังคม เรียกกว่าการคิดคร่อมกรอบ

5 ขั้นตอน ในการเสนอไอเดียใหม่ๆ

• ทำให้หัวหน้าสั่งให้เราคิด
• เสนอไอเดียตามที่หัวหน้าสั่ง (ถ่อมตน)
• ถามหัวหน้าถึงข้อดี
• ขอให้หัวหน้าสอนเพิ่มเติม
• เสนอไอเดียเพิ่ม(4) ตามที่หัวหน้าสั่ง & สอน

….. อ่านต่อได้ที่:

https://www.gotoknow.org/posts/592411

สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ วันที่ 15 ก.ค.58

วิชาที่ 1 ปฐมนิเทศ แนะนำทฤษฎีที่สำคัญเพื่อการเรียนรู้

ได้รับฟังการแนะนำหลักสูตรวิชาต่างๆ ที่มาโครงการ ทีมงานอาจารย์ ดีใจที่ได้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ ซึ่งคิดว่าจะทำให้ตนเองมีประสบการณ์ใหม่ ได้เรียนรู้วิชาต่างๆ ที่ไม่เคยได้เรียนมาก่อน และอยากจะนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาศักยภาพตนเอง และนำมาปรับใช้ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิชาที่ 2 เรื่องทุนมนุษย์

ได้เรียนรู้วิธีการคิดแบบ 3 V เป็นการคิดสร้างคุณค่า คิดนอกกรอบ การเรียนรู้ไม่ที่สิ้นสุด เราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลาถ้าเราเปิดใจรับฟังและนำความรู้มาปรับใช้กับตนเองได้จริง

วิชาที่ 3 เรื่อง CEO-HR0-Non HR-Stake holders

การให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ไม่จำเป็นว่าคนที่ดูแลลูกค้าจะเป็นฝ่ายเดียว เราสามารถดูแลลูกค้าได้ทุกฝ่าย เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เป็นการปลูกฝังให้พนักงานใช้หัวใจในการทำงาน

วันที่ 16 ก.ค.58

วิชาที่ 4 เรื่อง Managing Self Performance ทำให้เรียนรู้ว่าทรัพยากรมนุษย์มีความสำคัญที่สุด ทุกคนมีศักยภาพ แต่บางครั้งเราไม่รู้ว่าจะสามารถนำศักยภาพในตัวตนของเรามาพัฒนาใช้อย่างไร การเรียนในครั้งนี้ ทำให้คิด รับความรู้ใหม่ๆ ที่จะค้นหาศักยภาพของตนเอง มาปรับแก้ไข พัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นและเต็มความสามารถ และชอบการเล่าเรื่องจากภาพ 3 ภาพ ทำให้บ่งบอกถึงความคิด ความรู้สึก ตัวตนของผู้เล่า

วิชาที่ 5 เรื่อง Personality and social skill development

ทำให้ได้รู้จักบุคลิกภาพของตนเองมากขึ้น การแต่งกาย เรื่องสีต่างๆ มารยาทต่างๆ เป็นวิชาที่เรียนแล้วรู้สึกสนุกสนาน

วิชาที่ 6 เรื่อง Thinkin outside the box คิดนอกกรอบ เราทุกคนมีความคิดแต่ถูกปิดกั้นด้วยสิ่งต่างๆ สิ่งที่ได้เรียนรู้ทำให้รู้ว่า เรามีวิธีการคิดนอกกรอบได้และสามารถนำมาพูดปรับใช้ได้จริงกับการทำงาน ได้เรียนรู้กระบวนการคิด พูดให้หัวหน้าสามารถเข้าใจเราได้ ยังคงต้องนำมาปรับใช้กับชีวิตการทำงานจริงๆ

ส่งการบ้านวิชาที่ 3 กลุ่มที่ 2

1. การทำงานของ CEO / HR / NON-HR และ Stakeholders ในคณะแพทย์ ทำงานเรื่องทุนมนุษย์ ประสบความสำเร็จหรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จจะแก้อย่างไร ยกตัวอย่าง

คำตอบ สำเร็จได้ระดับหนึ่งโดยวัดจาก

1. Innovation ที่ผ่านมา

• โครงการพัฒนางาน
• รางวัลที่ได้รับ เช่น TQC / LEAN / HA / Kaizen

2. การให้ความสำคัญในมูลค่า ( Value ) ของคน โดยการใช้กิจกรรมคุณภาพต่างๆเข้ามา

• สามารถลด cost / สามารถทำงานได้หลากหลาย
• เพิ่มประสิทธิภาพของคน ลดขั้นตอนในการทำงาน

3. รูปแบบการบริหารจัดการบุคลากรและเครือข่าย

• เน้นบุคลากร ทำงานร่วมกันเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ
• เน้นระบบเครือข่าย ประสานงานส่งต่อผู้ป่วย ส่งต่อข้อมูลไปยังโรงพยาบาลอื่นๆที่ได้ MOU กันไว้

4. ผู้รับบริการคือผู้ที่บอกได้ว่าเราสำเร็จหรือไม่ โดยวัดจาก

• ความพึงพอใจของผู้รับบริการ
• ข้อเสนอแนะของผู้รับบริการ กลุ่ม outsource
• ความสุขของคนทำงาน

5. ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และมีการแก้ไข

ปรับเพื่อให้มันดีขึ้นโดย

• ปรับ mindset
• คิดนอกกรอบthink out box
• เปิดใจยอมรับมากขึ้น
• สร้างทีมที่มีความหลากหลาย (สหสาขาวิชาชีพ)
• ให้โอกาสในการแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่างๆ
  • ชมรม
  • กิจกรรม

2. ตัวละครที่จะนำมาเสริมซึ่งเป็นกลุ่มอื่นๆมีใครบ้าง เช่น คณะกรรมการ Suppliers หรือ Stakeholders อื่นๆ เช่น ลูกค้า หรือชุมชน ลองวิเคราะห์และเสนอแนะการนำตัวละครเหล่านี้ เข้ามาเสริมอย่างไร

คำตอบ

1. ทบทวน พูดคุย เปิดการสนทนาร่วมกัน กับชุมชน ลูกค้า ผู้มีส่วนร่วม
2. ใช้แบบสอบถาม

- รูปแบบเอกสาร

- ทางอิเล็กโทรนิค

3. สัมภาษณ์

4. เวทีสัญจร

5. สร้างเครือข่ายทางการศึกษากับสถาบันผู้ผลิตบุคลากร เพื่อสามารถกำหนดคุณลักษณะของบุคลากรในอนาคตได้

ต้องขอขอบคุณลูกศิษย์ รุ่น 3 ทุกคนที่ส่งความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้เข้ามาใน Blog ซึ่งเป็นการแบ่งปันความรู้ที่เราได้รับให้ขยายวงกว้างออกไปยังสาธารณชน โดยเฉพาะผมชอบที่คุณรัตติยา เขียวแป้นได้พูดถึงการพัฒนาบุคลากรในภาพรวมของมหาวิทยาลัยโดยเปรียบเทียบกับการทำงานของคณะแพทย์ฯ ด้วย การพัฒนาทุนมนุษย์ต้องเริ่มการความเชื่อและศรัทธาว่า "ทรัพยากรมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดขององค์กร" และการพัฒนาทุนมนุษย์วันนี้เราจะต้องไม่ต่างคนต่างทำ แต่เราจะต้องทำแบบมียุทธศาสตร์ ผ่านวิธีการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ ที่ช่วยให้การพัฒนาทุนมนุษย์ที่สร้าง Value ให้แก่องค์กร คณะแพทย์ฯ โชคดีที่มีผู้นำที่มีปรัชญาและความเชื่อว่าทุนมนุษย์มีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนเพื่อพัฒนา หากจะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโดในอนาคตแบบไม่กินบุญเก่า แต่เป็นการสะสมความเป็นเลิศแบบไม่หยุดนิ่ง และผมคิดว่าการลงทุนครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า สำหรัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็เช่นเดียวกัน น่ายินดีที่วันนี้เริ่มมีความคิดและความเชื่อเช่นเดียวกัน ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยมีคุณภาพมาก มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว เพียวแต่เราเลือกวิธีการในการพัฒนาที่เหมาะสม สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยากเรียนรู้ร่วมกัน อยากพัฒนาไปสู่ในจัดที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้ก็จะเกิดเป็นคุณค่าได้แบบมหาศาล ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการทำงานเรื่องคนต่อเนื่องในระดับมหาวิทยาลัย และยินดีจะเป็นแนวร่วมกันเสมอครับ

งานกลุ่มที่ 1 การบ้านวิชาที่ 3 เรื่อง CEO/ HR / Non-HR และ Stakeholders

1. การทำงาน CEO/ HR / Non-HR และ Stakeholders ในคณะแพทย์ฯ ทำงานเรื่องทุนมนุษย์ประสบความสำเร็จ หรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จและจะแก้อย่างไร ยกตัวอย่าง

คำตอบ ยังไม่สำเร็จ

ปัญหาแต่ละคนทำหลายบทบาท จึงทำให้การทำหน้าที่ในแต่ละบทบาท ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

-มอบหมายงานไม่ตรงกับความสามารถที่แท้จริง

-บทบาทหน้าที่ ไม่ชัดเจน

-ขาดความรู้ด้านการบริหารที่มีประสิทธิภาพ

-ภาระงานหลายด้าน

สรุป : การสวมหมวกหลายใบ

การแก้ไข

- เปิดโอกาสให้มีการหมุนเวียนงาน เพื่อให้ทุกคนได้ดึงศักยภาพ ของตัวเองและเรียนรู้ถึงความถนัดของตัวเอง

-จัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตำแหน่ง

-Coaching + Training+ Timing + Evaluation + put the rightman

2. ตัวละครที่จะนำมาเสริมซึ่งเป็นกลุ่มอื่นๆ มีใครบ้าง เช่น คณะกรรมการ suppliers หรือ Stakeholders อื่นๆ เช่น ลูกค้า หรือ ชุมชน ลองวิเคราะห์ และเสนอแนะ การนำตัวละครเหล่านี้เข้ามาเสริมอย่างไร ???

คำตอบตัวละครเสริมได้แก่ 1. เทศบาล

2. ห้างสรรพสินค้า

3. โรงพยาบาลเครือข่าย

4. คณะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

5. หน่วยงานเอกชน

เสนอแนะการนำตัวละครเหล่านี้เข้ามาเสริม ได้แก่

1. เสริมด้านการบริการ

2. เสริมด้านสถานที่

3. เสริมด้านการสื่อสารและเผยแพร่

4. การช่วยลงทุนในกิจการต่างๆ

5. แหล่งเงินทุน โดยทำโครงการร่วมกัน งานกุศล

6. แหล่งผลิต นวัตกรรม IT เช่น คณะวิศวะ คณะวิทย์

7. แหล่งชุมชน OTOP

8. มีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายร่วมกัน เช่น รพ.

9. ร่วมวางแผนกลยุทธ์ ด้านนโยบาย และร่วมประเมินผลการดำเนินงาน

ความรู้ที่ได้วันที่ 17 กค. วิชาการบริหารจัดการเงิน คือ ตลาดการเงิน ตลาดทุน นำมาใช้ ในการทำงบประมาณส่วนตัว ส่วนครอบครัว และการลงทุนทางอ้อม

กลุ่มที่ 2

วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันกับเป้าหมายนำไปสู่หัวข้อโครงการฯที่จะนำไปศึกษา

1. การเงิน เมื่อออกนอกระบบ เราต้องพึ่งพา หาเลี้ยงตนเอง มองในส่วนของจุดที่จะมาเสริมรายได้ให้แก่คณะได้ เช่น

• Check up center ยกตัวอย่าง การเข้าไปให้บริการในภาคเอกชน เช่น โรงงานต่างๆ โดยแข่งขันในเรื่องราคากับโรงพยาบาลเอกชน คิดราคาที่ต่ำกว่าเล็กน้อย ใช้เครดิตของโรงพยาบาล แนวโน้มสูงที่จะได้กลุ่มลูกค้าเหล่านี้มา

2. การขาดแคลนบุคลากร เช่น

• น่าจะมีแผนรองรับบุคลากรเกษียณอายุ โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆไว้
• ยกตัวอย่างประเด็นบุคลากรขาดแคลน เช่น มอ.มีคณะพยาบาลผลิตพยาบาลวิชาชีพ แต่ทำไมโรงพยาบาลของเราเองกลับขาดแคลนบุคลากรสายนี้

3. ความคาดหวังของผู้รับบริการสูงมากขึ้นทั้งทางด้านรูปแบบการบริการต่างๆ คุณภาพการรักษาพยาบาล ทั้งๆที่มีภาระงาน word load /ข้อจำกัดในเรื่องของอัตรากำลัง /ขาดบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ

สรุุปประเด็นวันที่ 17 ก.ค. 58

ได้เรียนรู้การบริหารจัดการเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าให้คุ้มค่าสูงสุด สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงทั้งในชีวิตและการทำงาน

โจทย์วิจัย ของกลุ่มที่ 4

สร้าง Connection กับ University of Washington. USAโปรแกรมผลิตแพทย์ร่วม เพื่อสร้าง International networking

• แลกเปลี่ยน visiting professor
• ร่วมการเรียนและฝึก medical students ทั้ง 2 ประเทศ

ข้อดี

• พัฒนาบุคลากรด้านภาษาอังกฤษ
• ออกนอกกะลา เป็นการเปิดโลกทรรศน์ : ดูความต่างทางแนวคิดและวัฒนธรรม
• 

สรุปการเรียนรู้ที่ได้นำปรับใช้วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิชาที่ 1 การบริหารจัดการการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance ได้ทราบว่าสิ่งที่สำคัญและเป็นหัวใจคือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ทราบหลักในการป้องกันความเสี่ยง (SWOT /Budget/ Financial analysis/ Others: insurance, diversification, swap, forward, options, derivatives)

วิชาที่ 2 โครงการเชิงนวัตกรรมเพื่อพัฒนางาน ของคณะแพทยศาสตร์ มอ. ได้นำแนวคิดทฤษฎี 3 V วิเคราะห์สถานการณ์ความจริงที่เป็นปัจจุบัน กับเป้าหมาย นำไปสู่โครงการฯ และการหัดตั้งโจทย์จากปัญหาที่เป็นความจริง เป็นสำคัญในการคิดโครงการฯ

จากการเรียนรู้วันที่ 15 กค. 58

ทุนมนุษย์ (ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์)

1. ในส่วนของ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ท่านเป็นอาจารย์ที่สุด ของการถ่ายทอดความรู้ โดยในวันนี้ท่านได้สรุปให้ฟังในเรื่องของทุนมนุษย์ ว่ามีความสำคัญอย่างไร ต้องพัฒนาอย่างไร และใช้ไปในทางที่เกิดประโยชน์อย่างไร

2. การมองคนมองให้กว้าง คิดเป็น แยกแยะเป็น และต้องวิเคราะห์ได้

3. ต้องรู้จักจัดการเปลี่ยนแปลงภาวะการเกิดวิกฤต ถ้าหากเกิดขึ้นแล้วต้องตั้งรับให้ได้ แก้สถานการณ์ได้

CEO-HR-Non HR-Stakeholders (ดร.เกริกเกียรติ ศรีเสริมโภค)

จะได้ประสบการณ์ที่จะอาจารย์เล่าให้ฟังถึงหลายกรณี ที่จับประเด็นหลักความสำคัญของลูกค้า ต้องดูแลค้าตอบโจทย์ลูกค้าได้

จากการเรียนรู้วันที่ 16 กค. 58

Managing Self Performance (อ.อิทธิภัทร ภัทรเมฆานนท์)

อาจารย์ สอนในเรื่องการค้นพบตัวเอง เพื่อพัฒนาตนเองได้ถูกต้อง มีทางเลือกในการพัฒนาตัวเองที่เหมาะสม การรู้จักการเผชิญหน้า สามารถเอาชนะความกลัวได้ การสือสารต้องเข้าใจ ถูกต้อง

Personality and Social Skills Development (อ.ณภัสวรรณ จิลลานนท์)

อาจารย์ แนะนำวิธีการดูแลตัวเอง การแต่งกายดูดี มารยาทการเข้าสังคม การวางตัว เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ สนุกมากคะวิชานี้ ผ่อนคลายและเป็นเรื่องใกล้ตัว

ความคิดนอกกรอบ คร่อมกรอบ (อ.ศรัณย์ จันทพลาบูรณ์)

เป็น วิชาที่อาจารย์สอนให้คิดนอกกรอบ มีความคิดสร้่างสรรค์ อาจารย์สอนหลัก PPCO และสามารถนำมาใช้ได้จริงในการปฏิบัติงาน ชอบตรงอาจารย์สมมติชื่อตัวละครเหมาะสมดี (พลิ้ว รื่น เนียน )

จากการเรียนรู้วันที่ 17 กค. 58

การบริหารจัดการการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance (ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์)

ได้รู้ประเภทของการตลาด การเงิน ตลาดทน ความแตกต่างระหว่างตลาดเงินกับตลาดทุน สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ความคุ้มครองการลงทุน ความเสี่ยง เป็นสิ่งที่เราต้องรู้ และนำมาใช้ในชีวิตการทำงานได้

3V & Innovative Project (ศ.ดร.จีระ อ.พิชญ์ภูรี และ ผศ.กิตติ)

อาจารย์ให้แนวคิดว่าต้องมองอนาคตอย่างไร อยากให้คิดนอกกรอบมากๆ อยากให้เป็นงานวิจัย แบบ Outside the box และต้องมีความคิดสร้่างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทุนแห่งความสุข ที่ทำงานน่าอยู่ และทำวิจัยให้ดีต้อง บริหารเรื่องเวลาให้ดี ทำงานเป็นทีมรูปแบบปะทะทางปัญญาจะได้เกิดเป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพ ให้แยก Attitude mindset statagic ให้เข้าใจ

อนาคตของคณะแพทย์ MED PSU ปี 2020 อยากให้อะไรเกิดขึ้น

1. ศูนย์ความเป็นเลิศ การรักษาโรคเฉพาะทาง เพื่อเข้าสู่ AEC เนื่องจาก รพ. เรามีศูนย์ Excellence ของคณะแพทย์เฉพาะทางอยู่แล้ว ซึ่งเราจะเจาะจงไปที่ผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพ ผู้ป่วยประกันชีวิตและผู้ป่วยต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์

2. ศูนย์การเรียนรู้โรคเฉพาะทาง เพราะคณะแพทย์ เป็นแหล่งการเรียนรู้

3. ศูนย์ส่งเสริมความมีคุณค่าของผู้สูงอายุ เนื่องจากอนาคตผุ้สูงอายุ จะเพิ่มมากขึ้น รวมถึงทำให้บุคลากรคณะแพทย์ หรือ บุคลากรนอกคณะ มีความไว้วางใจโรงพยาบาล สามารถนำผู้สูงอายุที่บ้าน มาฝาก ที่ รพ. และสามารถไว้วางใจ รพ. ได้

สิ่งที่ได้เรียนรู้ประจำวันที่17/7/58

การบริหารจัดการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance

ศาสตร์ทางด้านการเงิน การบริหารเงิน รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เป็นเรื่องที่ผมควรจะต้องกลับมาศึกษาเพิ่มเติมอีกเยอะ ขอบคุณ อาจารย์ ได้กรุณาสอนและชี้ให้เห็นความสำคัญ

PBL…ภายใต้แนวคิด : วิเคราะห์อนาคต MED PSU ปี 2020 กับแผนการเตรียมความพร้อม

สนุกกับการระดมสมองในกลุ่ม ถึงแม้จะยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง 3V เท่าไหร่

และก็สนุกกับการนำเสนอความคิดของทุกกลุ่ม ทำให้เห็นมุมมองแปลกๆที่เราไม่เคยนึก

วันที่ 17 กรกรฎาคม 2558

1. เรื่อง การบริหารการเงิน

วิทยากรถ่ายทอดเรื่องใกล้ตัวและมีความสำคัญยิ่งสำหรับผู้บริหาร ที่ไม่เพียงแต่รู้การบริหารบุคคล ต้องรู้เรื่อง รู้จริงเรื่องการเงิน มิเช่นจะทำให้เกิดทั้งโทษและประโยชน์ได้ทั้งต่อตัวเราและองค์กร รวมถึงการรู้จักการวางแผนและการลงทุน และการบริหารความเสี่ยงด้านการเงิน

( ....นักบริหารต้องรู้จัการวางแผนและบริหารการเงินให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์แก่องค์กรภายใต้ความโปร่งใสและตรวจสอบได้)

2. โครงการเชิงนวัตกรรมเพื่อพัฒนางาน ของคณะแพทยศาสตร์ มอ.

วิทยากรสร้างความท้าทายในการคิดผู้เข้าอบรม และให้โอกาสในการคิดนอกรอบอย่างสร้างสรร โดยการออกแบบการเรียนรู้ให้เกิดมรรคผลโดยใช้วิธีระเบียบวิจัยหรือการคิดที่่เป็นระบบ/สร้างสรร/ความเป็นสากล ดังนั้น เมื่อได้ฟังโจทย์และแนวทางการพัฒนางานของแต่ละกลุ่ม จึงได้เห็นบทพิสูจน์ (ก้าวแรก)เลยว่าแต่กลุ่มมีความโดดเด่นด้านความคิดจากการระดมสมองอย่างแท้จริง รวมทั้งได้รับแรงบันดาลใจจากวิทยากร ทำให้สร้างความเชื่อมั่นและรอยยิ้มให้กับพวกเรามากขึ้น

" Our soul is for the benefit of mankind " We can do it "

โครงการสำหรับคณะแพทย์ MED PSU ในปี 2020 อยากได้โครงการ

1. โครงการความภาคภูมิใจที่มีต่อองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

มีแนวคิดมาจากการที่เด็กที่จบจากเรา และไปศึกษาต่อยอด ณ สถาบันที่มีชื่อเสียงอื่น เมื่อพบเจอใครถามว่าจบจากสถาบันไหน เด็กจะตอบว่า จบจากสถาบัน......(ที่มีชื่อเสียง) ทำไมเด็กไม่ภาคภูมิใจกับสถาบันมอ.

2. โครงการตรวจสุขภาพบุคลากร มอ./รัฐวิสาหกิจ/AEC

3. โครงการศรีตรังคอมเพล็กซ์ โครงการทีี่่จอดรถ(เสียเงิน)

อนาคตในปี 2020 คณะแพทยศาสตร์ มอ. จะเป็นอย่างไร โดยกลุ่มนำเสนอโครงการ

Mobile Unit for Preventive Health Care

ปัญหาเกิดจาก

1. ผู้มารับบริการมีจำนวนเพิ่มขึ้น เกิดปัญหาความแออัดของผู้ป่วย การรอคอยตรวจรักษา ที่จอดรถมีไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้มารับบริการอาจต้องไปรับการรักษาที่ รพ.อื่น
2. กลุ่มประชาชนที่ควรได้รับการตรวจสุขภาพ check up อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ไม่ได้เข้ามาตรวจอย่างจริงจัง
3. ประชาชนรอบนอก ขาดโอกาสทางการรักษา ที่มีคุณภาพ เช่น รพ.มอ.

กลุ่มจึงคิดที่จะออกไปให้บริการตรวจสุขภาพ ทั้งตรวจเลือดx-rayซึ่งสามารถจะบอกผลได้ภายในหนึ่งชั่วโมง โดยอาจจะบวกค่าบริการเพิ่มเล็กน้อย (เพื่อประชาชนได้รับการรักษา/ตรวจสุขภาพถึงพื้นที่ และเราก็อยู่รอดได้ win win) โดยเฉพาะพื้นที่ 3จังหวัด + สงขลา สตูล

ข้อดี

ข้อดี

สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้วันที่ 17 กค.58

รายวิชาที่ 7 การบริหารจัดการการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance / ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์

การบริหารจัดการ ไม่จำเป็นต้องเป็นด้านการเงินเสมอไป อาจบริหารจัดการโดยนำเอาสิ่งที่เรามีไปแลก เช่น การให้เช่าตึกสำหรับจอดรถสำหรับผู้ป่วย เราสามารถจ่ายเป็นการบริการตรวจรักษาพยาบาลพนักงานให้ฟรี ก็ถือเป็นการบริหารจัดการอย่างหนึ่ง

ในการบริหารจัดการนักบริหารจะต้องเรียนรู้และต้องเปิดโลกทัศน์ให้กว้าง

การบริหารการเงินที่จำเป็นต้องรู้ ได้แก่ Modern Financial Management และการจัดทำงบประมาณ (Budget) สิ่งที่เราควรรู้เกี่ยวกับตลาดการเงิน และตลาดเงิน ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ

การเงินนอกระบบไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฏหมายเสมอไป หากผู้กู้และผู้ให้กู้ ตกลงและพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

ตลาดการเงิน แบ่งเป็นตลาดส่งมอบทันที และตลาดซื้อขายล่วงหน้า (ป้องกันความเสีี่ยงจากการผันผวนของค่าเงิน)

เงินงบประมาณที่ได้จากภาษีก็มีต้นทุน เช่น ค่าจ้างเจ้าหน้าที่เก็บภาษี ต้นทุนที่สำคัญที่สุดคือความคาดหวังจากเจ้าของเงิน ซึ่งจะดูประโยชน์และความคุ้มค่าของเงินที่นำไปใช้

เรามีสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้แก่ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน จำนวน 34 แห่งภายใต้ระบบคุ้มครองเงินฝากโดยอัตโนมัติ

ในการลงทุนเราต้องมีการบริหารความเสี่ยง และทำการวิเคราะห์สถานะทางการเงิน

การบริหารจัดการเรื่องการเงินเป็นเรื่องใกล้ตัว จะได้นำความรู้ที่ได้นี้ไปวิเคราะห์ และวางแผนให้เป็น

บางเรื่องไม่เคยรู้มาก่อน บางเรื่องพอจะรู้บ้างแต่ไม่แม่นนัก การเรียนวิชานี้ทำให้รู้มากขึ้น

รายวิชาที่ 8 3V & Innovation Project : โครงการเชิงนวัตกรรมเพื่อพัฒนางานของคณะแพทย์/ อ.จีระ หงส์ลดารมภ์, อ.กิตติ ชยางคกุล

เพื่อจัดทำโครงการเป็นกลุ่ม และรายบุคคล (โครงการพัฒนางาน) โดยการฝึกการตั้งโจทย์ที่น่าสนใจเพื่อนำไปสู่่ Mini-Research มีการระดมสมองภายในกลุ่ม เพื่อเฟ้นหาหัวข้อ 3 ข้อ และนำเสนอ

และ อ.กิตติ ได้นำหัวข้อที่นำเสนอ เสนอแนะเกี่ยวกับ 3V ได้แก่

Value Added

Value Creation

Value Diversity

นวัตกรรมของโครงการคืออะไร

วิชาการบริหารจัดการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance.

วันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเงิน ว่าการเงินเป็นเรื่องใกล้ตัว ทุกคนเกี่ยวข้อง เดิมคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวเราแค่ช่วยประหยัดงบประมาณก็พอ แต่หลังจากได้ฟังอาจารย์ทำให้รู้จัก ตลาดเงินใหม่ๆ รู้ว่าถ้าเรามีความรู้ เราก็จะบริหารเงินของเราได้ เข้าใจที่มีคนพูดว่าให้เงินทำงาน

วิชา โครงการเชิงนวัตกรรมเพื่อพัฒนางาน ของคณะแพทยศาสตร์ มอ.

ได้หลักในการคิดโครงการพัฒนา โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ความจริงที่เป็นปัจจุบัน การตั้งโจทย์ หรือ Hypothesis ที่น่าสนใจ และนำไปใช้ได้ แล้วเก็บข้อมูลนำเสนอว่าตอบโจทย์ Hypothesis ที่ตั้งไว้ว่าทำได้หรือไม่ คิดเชื่อมโยงกับ 3V

..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/592411

สิ่งที่ได้เรียนรู้ 17 กค.58

อ.กุศยา การบริหารการเงินสำหรับนักบริหาร : ได้รู้ว่าการคิดดอกเบี้ยเงินกู้แพง ๆ ไม่ผิดกฎหมาย หากเป็นที่ยอมรับทั้งของผู้กู้และผู้ให้กู้ การพิจารณาการลงทุนอะไร ให้พิจารณาถึง ประโยชน์และความคุ้มค่าของการลงทุน ทำไมต้องลงทุน เอาเงินลงทุนมาจากไหน และถึงแม้จะเงินงบประมาณก็ต้องยิ่งให้ความสำคัญ เพราะเงินงบประมาณก็มีต้นทุน แถมเป็นต้นทุนที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะเป็นความคาดหวังของประชาชนที่จ่ายภาษี

อ.กิตติ ให้คิดหัวข้อของการทำโครงการ ซึ่งต้องมองให้ไกลถึง 2020 ฝึกให้เราเริ่มวิเคราะห์ตัวเองก่อน ว่าเราเป็นใคร กำลังเกิดปัญหาอะไร เพื่อจะได้แก้ไขป้องกัน

วันที่ 16 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 4 Managing Self Performance

อาจารย์สอนเรื่องความเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง

สอนการสื่อสารกับตัวเองโดยการทำสมาธิเพื่อให้เรามีสมาธิในการทำงาน

ชอบกิจกรรมที่ให้ออกไปนอกห้อง ให้เลือกรูป 3 รูป ที่ชอบเสร็จแล้วกลับมาในห้อง

ให้ดูว่า รูปไหน เป็นรูปสำหรับเรื่อง อดีตปัจจุบัน และอนาคตของตัวเอง จับคู่กับคนที่ไม่ค่อยรู้จัก สลับกันเล่าเรื่องจากภาพ

แยกคู่ ไปหากลุ่มใหม่สี่คน ผลัดกันเล่าเรื่องทีละคน

โดยสอนให้เราสามารถเล่าเรื่องใช้เครื่องมือ เป็นจิตใต้สำนึก

และชอบการชื่นชมลูก ชื่นชมลูกน้อง พฤติกรรมเป็นอย่างไรต้องชมคุณสมบัติด้วย

วิชาที่ 5 Personality and Social Skills Development

อาจารย์สอนให้เราแต่งตัวให้เหมาะสม ดูดี การยืน การนั่ง การเดิน การไหว้ การพูดจา เพื่อให้เราสามารถเข้าสังคมได้อย่างไม่อายใคร สอนการนั่งรถกับหัวหน้า การนั้งโต๊ะประชุม ต่างๆ ที่ถูกต้องและเหมาะสม ทำให้เราสามารถนำไปฝึกฝนการดูดี และเข้าสังคมได้อย่างถูกต้อง

วิชาที่ 6 Key words of success: Leadership-Mindset-Thinking outside the box –Thinking

new box

อาจารย์สอนให้คิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ

ชอบกิจกรรมในการเสนอไอเดียใหม่ ๆ ต่อหัวหน้า

1.ทำให้ หัวหน้า สั่ง ให้เราคิด

2.เสนอไอเดียตามที่หัวหน้า สั่ง (ถ่อมตน)

3.ถาม หัวหน้า ถึงข้อดี

4.ขอให้ หัวหน้า สอน เพิ่มเติม

5.เสนอไอเดียเพิ่ม (4) ตามที่หัวหน้า สั่ง &สอน

17/7/2015 สิ่งที่ได้เรียนรู้วันนี้
วิชาที่ 7 การบริหารจัดการเงินสำหรับนักบริหารและ public finance
- การบริหารเงินเป็นเรื่องพื้นฐานของทั้งบุคคลและองค์กร

วิชาที่ 8 3V and innovative project
- คิดโครงการนอกกรอบโดยใช้เนื้อหาที่ได้เรียนจากโครงการเป็นฐานหรือเข้ามาร่วม

สรุปบทเรียนวันที่ 17 ก.ค 58

   วันนี้เริ่มต้นด้วยการให้แต่ละกลุ่มนำเสนองานกลุ่มเกี่ยวกับวิกฤติในคณะแพทย์พร้อมยกตัวอย่างและนำเสนอถึงผู้นำที่พึงปราถนา รวมถึงอุปสรรคในการขับเคลื่อนคณะแพทย์และคำแนะนำในการปรับ mindset เพื่อการพัฒนาและการให้หลักสูตรช่วยเหลือ ซึ่งแต่ละกลุ่มได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานกลุ่มในช่วงระยะเวลาที่จำกัดได้อย่างดีมากเป็นบทเรียนให้ได้คิดและเรียนรู้ว่าทุกอย่างทำได้หากเราช่วยกัน
   จากนั้นเข้าสู่บทเรียนเรื่องการบริหารจัดการการเงินสำหรับนักบริหารโดย ดร.กุศยา ลีฬหาวงค์ ทำให้รู้ว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เรียนจบทางการเงินหรือทางบัญชีเท่านั้นที่จะสามารถคิดและดำเนินการวางแผนบริหารจัดการเกี่ยวกับการเงินได้ เนื่องจาก ทุกคนมีส่วนที่ต้องเกี่ยวข้องกับการเงินจึงสามารถคิดและวางแผนบริหารจัดการด้านการเงินด้วยตนเองได้แต่จะบริหารจัดการอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ตามต้องการ วันนี้อาจารย์ได้ทำให้รู้ว่าความแตกต่างระหว่างตลาดการเงินกับตลาดทุนว่าแตกต่างกันอย่างไร ลักษณะของเงินฝากที่จะได้รับการคุ้มครอง แนวทางการพิจารณาการลงทุน รวมถึงตัวอย่างในการบริหารจัดการเงินให้มีมูลค่าเพิ่มโดยมีความเสี่ยงน้อยแต่เกิดประโยชน์ทั้งด้านความคล่องตัว ความปลอดภัย และเกิด ความพึงพอใจกับทุกฝ่าย     
          ภาคบ่ายเข้าสู่เรื่องโครงการเชิงนวัตกรรมเพื่อพัฒนางานของคณะแพทย์ มอ.  โดยใช้รูปแบบให้แต่ละกลุ่มระดมสมองคิดโครงการที่จะเป็นประโยชน์กับคณะแพทย์โดยตรงในเวลาที่กำหนดซึ่งผลลัพธ์ที่ได้เห็นทำให้ยิ่งเชื่อมั่นว่าทุกคนมีศักยภาพในตัวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังทำให้ได้เรียนรู้ว่าการคิดนอกกรอบสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้ในขณะการนั่งเรียน หรือนั่งฟังผู้อื่นพูดขอเพียงแต่เราไม่ปิดกั้นตัวเองและกล้าที่จะคิดและกล้าที่จะถาม ดังตัวอย่างการนำเสนอโครงการ PSU Insurance ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำให้เพื่อนๆทุกคนรวมถึงตัวเองมองเห็นภาพการคิดนอกกรอบได้ชัดเจนมากขึ้น ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยให้วันนี้เป็นวันที่ตัวเองเกิดความรู้สึกประทับใจกับการได้เข้ามารับการอบรมในครั้งนี้มากๆอีกวันหนึ่งค่ะ ขอบคุณคะ 
                                                                                                      ยวงพร  ป้อมสกุล

การเรียนวันนี้..เข้มข้นและสาระเยอะมากๆ..จนไม่แน่ใจว่าเก็บมาได้กี่%..คือ ได้รู้เรื่องการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว..ได้รู้จักสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งไม่เคยคิดจะสนใจมาก่อน..ได้รู้การใช้เงินไปทำงานเพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม.และนำแนวคิดต่างๆมาบริหารเงินของหน่วยงาน

ส่วนเรื่องโครงการเชิงนวัตกรรม..ทำให้สามารถเปิดโลกทัศน์ มุมมอง การคิดนอกกรอบ มาใช้ในการแก้ปัญหาวิกฤตที่คณะแพทย์เผชิญอยู่..โดยใช้หลัก3 V..ดีคะ..

สรุปประเด็นการเรียนรู้ เราได้อะไรบ้างจากการเรียนรู้ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 7 : การบริหารการเงินสำหรับนักบริหารและ Public Finance

9.00-12.00 น. ตอนแรก เห็นวิชานี้ โอ๊ยยย...คงหนักหนาสาหัส เครียดแน่ๆ เลยคะ แต่ฟังไปฟังไป อาจารย์พยายามบอกในสิ่งที่เราเข้าถึงได้ไม่ได้เป็นภาษาที่ง่ายที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงโดยเฉพาะคนที่มีความรู้น้อยแบบเรา.. วันนี้พึ่งรู้ว่า ตลาดการเงินคืออะไร ตลาดในและนอกระบบ เราไม่เคยรู้ว่า มีสิ่งนี้อยู่ด้วย รู้จักตราสารหนี้ รู้จักคำว่า Zero Balance พระเจ้า ….//เราไม่เคยรู้ว่ามีสิ่งนี้อยู่ด้วย

วิชาที่ 8 : 3V & Innovative Project

อ.จีระ ได้เปิดประเด็นว่า : สิ่งแรกที่เราต้องเรียนรู้จากวิชานี่คือ ต้องรู้จักตั้งคำถามให้เป็น โดยทั้งหมดตั้งอยู่ 3V นั่นคือ มีอยู่แล้วต้องรู้จักเพิ่มมูลค่า คิดต่าง แต่ต้องไม่ใช่แค่ฝันค้างเอาไว้เฉยๆ แต่ต้องรู้จัดปรับยุทธศาสตร์และการคิดแบบสร้างสรรค์ และทั้งหมดต้องรู้จักคิดแบบ Outside the box ให้มากที่สุด

ตบท้ายด้วย อ.กิตติ ชยางคกุล : ให้พวกเราไปคิด Project กันมานำเสนอเพื่อวางแผนสำหรับอนาคตของคณะแพทยศาสตร์ ใน 2020 พึ่งรู้ว่า พวกเรารุ่นที่ 3 ก็มีไอเดียดีๆ เยอะมากเลยค่ะ

ในการสรุปบทเรียนวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 ขอแก้ไขเรื่องเดือน จากเดือนสิงหาคม เป็นเดือนกรกฎาคม แทนคะ

วันที่ 17 กรกฎาคม 2558

วิชาที่ 7 กาบริหารจัดการการเงินสำหรับนักบริหาร และ Public Finance

อาจารย์สอนเกี่ยวกับการเงินด้านการจัดซื้อ เบิกจ่าย วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ พิจารณาการใช้จ่ายของหน่วยงาน รายรับ รายจ่าย ทำอย่างไรให้การใช้เงินได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งเงิน สิ่งของ กิจกรรม เกี่ยวข้องส่วนตัว

การเงินเป็นเรื่องใกล้ตัว ทุกคนเกี่ยวข้อง อย่างน้อยเงินในกระเป๋าของเรา การบริหารเหมือนกัน ทั้งส่วนตัว และของหน่วยงาน ปัจจุบันเป็นโลกาภิวัตน์ หรือโลกไร้พรหมแดน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสามารถตรวจสอบได้

ตลาดการเงิน กับตลาดเงิน (money market) แตกต่างกัน

สถาบันการเงินประเทศไทยมีสถาบันการเงิน 3 ประเภท ได้แก่

1. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำหน้าที่ควบคุมดูแลสถาบันการเงินอื่น ๆ ไม่มีหน้าที่รับฝากเงิน ให้กู้ยืมเงิน มาว่ากับสถาบันการเงิน หรือบุคคลธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน หรือบริษัทเอกชน

2. (Bank) สถาบันรับฝากเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ เครดิตยูเนี่ยน และ กองทุนรวมตลาดเงิน เป็นต้น เงินฝากที่ธนาคาร 1) ฝากประจำ 2) ฝากออมทรัพย์ (สะสมทรัพย์) 3) ฝากกระแสรายวัน (นิยมน้อยลงในบุคคลธรรมดา ส่วนใหญ่ใช้เช็ค คดีเช็คเป็นคดีอาญา เช็คเด้งแจ้งจับได้ทันที

3. (Non Bank) สถาบันการเงินที่ไม่รับฝากเงิน เช่น กองทุนรวม บริษัทประกันภัย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทที่ให้สินเชื่อ(อิออน) บริษัทบริหารสินทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น

ตลาดเงินความเสี่ยงผันผวน หากเปรียบเทียบกับตลาดทุน ความเสี่ยงน้อยกว่า

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก: สคฝ. DPA (Deposit protection Agency)

• สถาบันคุ้มครองเงินฝาก จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551
• วัตถุประสงค์สำคัญตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายคือ

• คุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงิน
• เสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพาของระบบสถาบันการเงิน และ
• ดำเนินการกับสถาบันการเงินที่ถูกควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน รวมทั้งชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ต้องเป็นคนไทย และเป็นเงินไทย ต่างชาติฝากเป็นเงินไทย (บาท) ไม่คุ้มครอง

การลงทุน (Investment)

• การลงทุนโดยตรง (Direct investment) หมอเปิดคลินิก เป็นเงินตัวเองลงทุน โรงพยาบาลลงทุนสร้างตึก ประเด็นคือเงินมาจากไหน หากเป็นเงินกู้ ต้นทุนเป็นดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย หากเป็นเงินงบประมาณ (เงินภาษีที่รัฐบาลจัดมาให้เรา) มีต้นทุน (สรรพากรไปเก็บภาษี) ต้นทุนที่น่ากลัวคือ ความคาดหวังของเจ้าของเงิน คือ ประชาชน (คนเสียภาษี) การตรวจสอบมีมากขึ้น (เป็นต้นทุน) การตัดสินใจ ให้ดูที่ประโยชน์ + ความคุ้มค่าของเงินที่เราจะใช้ บางครั้งได้ประโยชน์แต่อาจจะไม่คุ้มก็ได้ ผลตอบแทนจากการลงทุนต้องสูงกว่า ความเสี่ยง คิดถึงเสร็จได้ไม่ เช่น สร้างระยะหนึ่ง เงินหมด ก่อสร้างยังไม่เสร็จ
• การลงทุนทางอ้อม (Indirect investment) ไม่เป็นหมอ แต่อยากมีคลินิก หรือรับจ้างเป็นผู้ให้บริการ / การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

วิชาที่ 8 3V & Innovative Project

สอนฝึกวินัยในการตั้งโจทย์ หรือ Hypothesis ที่น่าสนใจ และนำไปใช้ได้ แล้วเก็บข้อมูลนำเสนอว่าตอบโจทย์ Hypothesis

วิเคราะห์อนาคต MED PSU ปี 2020 กับแผนการเตรียมความพร้อม Past+Future

วิกฤติในคณะแพทย์ เมื่อเกิดแล้วเราจะแก้อย่างไร เราจะรับมือกับวิกฤติตัวนั้นอย่างไร ให้แต่ละกลุ่มนั่งคุยกัน มุมมองของสมาชิกแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองคิด ปัญหาร่วมของแต่ละกลุ่ม เลือกมา 3 ลำดับ เป็นขั้นแรกก่อน