Thai DPP : แวะเยี่ยมทีมธาตุพนม


เวลาที่มองไปฝั่งลาวทิวทัศน์จะสวยงามมากเพราะเห็นเทือกเขาเป็นแนวสลับซับซ้อน แต่คนฝั่งลาวมองมาฝั่งไทยคงจะเห็นแต่อาคารบ้านเรือน

เมื่อวันที่ 20-21 มิถุนายน 2558 ดิฉันได้รับมอบหมายจากรักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ให้ไปร่วมการประชุมสามัญที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3/2558 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม จึงได้โอกาสดีที่จะแวะเยี่ยม ภก.เอนก ทนงหาญ คุณอ๊อฟ วัชชิระ หล้าคำแก้ว คุณตุ๊กตา อุทัยวรรณ ผดุงสิทธิธรรม และทีมงาน Thai DPP ธาตุพนม

ดูกำหนดการของกิจกรรมและการประชุมแล้วพบว่าเย็นวันเสาร์ที่ 20 จะมีการไปล่องเรือและกินอาหารเย็น วันอาทิตย์ที่ 21 มีการประชุม ช่วงบ่ายจึงจะเสร็จภารกิจ ดิฉันจึงนัดคุณเอนกให้มาเจอกันตอนบ่ายวันอาทิตย์ พร้อมฝากซื้อของอร่อยที่ธาตุพนมคือกาละแม (มีคนสั่งให้ซื้อเยอะๆ) เส้นก๋วยจั๊บญวน (สด) และหมูยอ

ดิฉันเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเซีย ซึ่งปัจจุบันมีบริการพิเศษสำหรับข้าราชการและพนักงานของรัฐด้วย ตั๋วราคาไม่แพงมาก ได้นั่งที่นั่งพิเศษ รวมทั้งมีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ตอนไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมืองเจอคณะที่จะไปประชุมงานเดียวกันจากหลายสถาบัน เกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย เลยเปลี่ยนใจไม่ไปล่องเรือแล้ว ไลน์บอกคุณเอนกให้มารับที่สนามบิน บอกว่าอยากไปกินข้าวเย็นที่บ้านคุณอ๊อฟ

ลงจากเครื่องบินระหว่างที่รอกระเป๋า เจอ ศ.คลินิก นพ.พรชัย มูลพฤกษ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ามาทักดิฉันและบอกว่าจำได้ถึงตอนที่ทำงานอยู่ ณ หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง 1 คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ดีใจจังที่ยังมีคนจำอดีตกว่า 40 ปีมาแล้วได้

คุณเอนกบอกว่าวันนี้คุณตุ๊กตาไม่อยู่มีภารกิจที่ต่างจังหวัด คุณอ๊อฟไปส่งญาติที่ต่างจังหวัดแต่ก็กลับมาทันให้แม่ทำแกงหน่อไม้ (ตัดจากกอไผ่ที่บ้านสดๆ) เตรียมเอาไว้ให้ คุณหญิง มยุรี ภรรยาคุณเอนกขึ้นเวรเช้า หลังจากแวะเอาของ check in ที่โรงแรมเก่าแก่แต่เปลี่ยนชื่อใหม่ของนครพนมคือ ฟอร์จูน ริเวอร์ วิว แล้ว เราก็มุ่งหน้าไปธาตุพนมแวะบ้านคุณเอนกรับลูกสาวสองคนและคุณหญิงไปด้วย


ฝั่งลาว มองจากระเบียงห้องพัก


ผลไม้ชนิดเดียวที่มีในรั้วบ้านของคุณเอนก


สวนผัก (ของคนอื่น) ติดกับเขตบ้านคุณเอนก


ระหว่างทางที่ไปบ้านคุณอ๊อฟ เราแวะเอาอาหารที่สั่งไว้ที่ร้านแห่งหนึ่งก่อน ไปถึงบ้านคุณอ๊อฟยังไม่ค่ำเลยได้ถ่ายรูปคลินิกที่อยู่หน้าบ้านมาฝากกัน คุณแม่ของคุณอ๊อฟย้ายร้านขายอาหารไปอยู่อีกฝั่งถนน บริเวณพื้นที่หน้าบ้านจึงโล่ง


คลินิกของคุณอ๊อฟ วัชชิระ


ตัวบ้านของคุณอ๊อฟ


เรานั่งกินข้าวกันที่ชานบ้าน ซึ่งโล่งสบาย เลยได้เห็นดาวเคียงเดือนไปด้วย ข้าวเหนียวในกระติ๊บใบใหญ่นุ่มอร่อย ดิฉันจึงกินไปจำนวนหลายคาร์บ กินแกงหน่อไม้ไป 2 ถ้วย ตามด้วยปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมและเมี่ยงปลาทับทิม คุณอ๊อฟไม่เป็นอันได้กินข้าวเพราะมีคนไข้มาหาที่คลินิกเรื่อยๆ ถึงเวลาปิดคลินิกนับลูกค้าได้กว่า 20 คน


อาหารมื้อเย็น


ดาวเคียงเดือน (ดวงใหญ่คือดวงจันทร์ ดวงเล็กคือดาวศุกร์ มองไม่เห็นดวงพฤหัสบดีที่อยู่ด้านบน)


พูดคุยถามไถ่ทุกข์สุข ได้รู้ว่าปีนี้ผลงานของคุณอ๊อฟได้รับรางวัล R2R พร้อมกับของน้องปอนด์ที่ปากพลี ส่วนงาน Thai DPP ที่มีคุณเอนกเป็นหัวเรือ ยังมีเรื่องที่จะต้องเก็บตกอีกพอสมควร

ได้เวลาเราก็เดินทางกลับ แวะไหว้พระธาตุพนม ในเวลากลางคืนคนน้อยดีและไม่ร้อน ลูกสาวสองคนของคุณเอนกท่องบทสวดบูชาพระธาตุพนมได้คล่อง เพราะว่าที่โรงเรียนให้ท่องทุกวัน รวมทั้งค่านิยม 12 ประการด้วย

กับสองสาว ทายาทของคุณเอนกและคุณหญิง มยุรี


พระธาตุพนมยามค่ำคืน


กลางคืนนอนหลับได้ ตื่นเช้าขึ้นมาจึงรู้ว่าเมื่อคืนมีฝนตก กินอาหารเช้าเสร็จคณะผู้มาประชุมก็พากัน check out ออกจากโรงแรม ใช้เวลารอเอกสาร folio และใบเสร็จค่าห้องพักกันนานทีเดียว ต่อจากนั้นจึงขึ้นรถตู้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยนครพนม สถานที่จัดการประชุมซึ่งอยู่ไม่ไกล

การประชุมเสร็จเมื่อเลยเวลาเที่ยงไปแล้ว ประธานที่ประชุมมีการแถลงข่าวต่อ ส่วนผู้เข้าประชุมอื่นๆ รับประทานอาหารกลางวันที่มื้อนี้มีอาหารพิเศษคือปลาโจกต้มเค็ม หลังอาหารกลางวันคณะผู้เข้าประชุมเดินทางไปชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 ก่อนไปสนามบิน ส่วนดิฉันรอคุณเอนกมารับตอนบ่ายสองพร้อมของที่สั่งซื้อกล่องใหญ่ (น้ำหนัก 11 กก.) ได้ชิมกาละแมสดใหม่ของวันนี้ กินคำแรกก็รู้ว่าเขาลดความหวานลง ทีมของ รพร.ธาตุพนมไปคุยให้คนทำกาละแมลดความหวานลงได้ กาละแมที่เพิ่งทำเมื่อคืนและห่อเมื่อเช้า อร่อยและนิ่มจริงๆ

คุณเอนกพาเข้าเมือง ระหว่างทางก่อนถึงเมืองเห็นทุ่งนาสีเขียว ขับรถไปตามถนนเลียบแม่น้ำโขง แวะพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ซึ่งเป็นอาคารที่สวยงามมาก น่าอยู่น่าสบาย


พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม


ต้นลำไยอายุมากด้านหลังพิพิธภัณฑ์ฯ


ต่อจากนั้นจึงไปชมสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 มองเห็นด่านฝั่งไทยสวยงามแต่ไม่ได้แวะเข้าไปชม ได้แต่ถ่ายรูปจากบริเวณใต้สะพาน พื้นที่บริเวณรอบๆ ยังไม่ได้รับการพัฒนา ดูแล้วจะเหมาะมากหากมีการตกแต่งให้เป็นสวนสาธารณะ


สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3


ก่อนไปสนามบินคุณเอนกซึ่งยังไม่ได้กินอาหารกลางวัน พาแวะร้านริมโขงกินปลาจุ่มกับส้มตำและข้าวเหนียว ร้านที่มีชื่อจะเห็นมีรถจอดอยู่จำนวนหลายคัน เราแวะร้านเล็กๆ ที่ไม่มีคนเพราะยังไม่ถึงเวลาการกินตามปกติ นั่งชมแม่น้ำโขงไปด้วย เวลาที่มองไปฝั่งลาวทิวทัศน์จะสวยงามมากเพราะเห็นเทือกเขาเป็นแนวสลับซับซ้อน แต่คนฝั่งลาวมองมาฝั่งไทยคงจะเห็นแต่อาคารบ้านเรือน

เสร็จจากร้านอาหารเราก็เดินทางไปสนามบินนครพนม check in พร้อมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปพูดคุยกับคณะที่มาประชุมร่วมกันบ้าง เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ได้เจอลูกสาวลูกเขยและหลานชายตัวน้อยสองคนที่บ้านที่อดทนต่อความง่วงรอเจอคุณยาย (รอกาละแมด้วย) ชื่นใจจริงๆ

จบทริปนครพนมที่ได้ทั้งงานหลวงและงานเบาหวาน


วัลลา ตันตโยทัย

บันทึกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2558

หมายเลขบันทึก: 592058เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2015 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม 2015 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท