"คะแนนเป็นสิ่งที่ยกให้กันเหมือนทรัพย์สมบัติไม่ได้"
คับ คะแนนควรเป็นสิ่งที่ยกให้กันเหมือนทรัพย์สมบัติไม่ได้ แต่ที่น่าแปลกใจคือทำไมบางคนก็ยกคะแนนให้ได้เพียงเพราะความเมตตาและสงสาร ใครบางคนก็ยกให้ได้เพียงเพราะความรักและเสน่หา ในขณะที่บางคนก็ยกให้ได้อย่างง่ายดายเลยเพียงเพราะต้องการแลกกับทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศ ทำไมในโลกเราถึงได้มีการยกคะแนนให้กันได้ดังเช่นการยกทรัพย์สินให้กันเลย
คำกล่าวที่ว่า "คะแนนเป็นสิ่งที่ยกให้กันเหมือนทรัพย์สมบัติไม่ได้" จึงไม่ถูกซะทีเดียวเพราะในโลกแห่งความเป็นจริงเราก็เห็นได้หลายกรณีที่คะแนนสามารถยกให้แก่กันได้ ตัวคะแนนเองจริงๆแล้วเป็นเพียงสิ่งสมมุติ สิ่งที่เรานำมาใช้เป็นตัวชี้วัด ประเมินค่า และประเมินผลในเรื่องต่างๆ คะแนนเองคงไม่ผิดที่จะถูกยกให้กันง่ายๆเฉกเช่นเดียวกันกับทรัพย์สิน แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องการให้คะแนนคือระดับคุณธรรมภายในจิตใจของผู้ให้คะแนนต่างหาก
คุณธรรมภายในจิตใจของผู้ให้คะแนนนี้เป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ทุกคะแนนที่ออกมาล้วนเป็นผลจากคุณธรรมตรงนี้ทั้งสิ้น แม้จะมีกฎกติกาใดๆเขียนไว้อย่างชัดเจน กำหนดไว้อย่างชัดแจ้ง ตัวผู้ให้คะแนนถ้าคุณธรรมไม่สูงส่งพอ ก็สามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ตามตำแหน่งหน้าที่ ทั้งอำนาจในทางแจ้งและอำนาจในทางลับ บิดปรับให้เป็นไปตามที่ตนเองปราถนาได้ไม่ยาก ผลของการใช้อำนาจตามหน้าที่ดังกล่าวบางอย่างยากแก่การตรวจสอบ บางอย่างไม่อนุญาติให้ตรวจสอบ ทำให้ผลที่ตามมาผู้ใช้อำนาจใช้อย่างเกินขอบเขตของอำนาจของตน ทั้งที่ตั้งใจและที่ไม่ตั้งใจ
ตามที่ว่ามาทั้งหมดแล้วทำให้เห็นได้ว่าคุณธรรมของผู้ให้คะแนนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งนี้เองจึงเป็นที่มาของคำว่า "จรรยาบรรณ" ในแต่ละอาชีพนั่นเอง แต่ละอาชีพมีคุณธรรมในวิชาชีพแตกต่างกันไป อาชีพครู อาจารย์ก็มีคุณธรรมในอาชีพเช่นกัน และควรมีสูงกว่าอาชีพอื่นด้วยเนื่องจากเป็นผู้บ่มเพาะความรู้ เป็นผู้ให้วิชา หากคุณธรรมไม่สูงส่งพอแล้วก็มีโอกาสทรยศต่ออาชีพตน หักหลังต่อคุณธรรมภายในจิตใจของตนเองได้
คำถามที่น่าสงสัยตามมาคือคำถามที่ว่า "อาจารย์ที่ดีควรเป็นอย่างไร" แล้ววันนี้เราเป็นอาจารย์ที่ดีแล้วหรือยัง
เชน ม่วงสกุล
ไม่มีความเห็น