เดือนนี้ของทุก ๆ ปี ฝนตกชุก มีน้ำมากมายเหลือเฟือสำหรับชาวไร่ชาวนา แต่ปีนี้ฝนไม่ตกตรงตามฤดูเหมือนเช่นทุกปี ทำให้น้ำน้อยมาก โชคดีที่พ่อขุดบ่อเก็บน้ำไว้ แต่น้ำก็มีไม่พอปลูกข้าวทั้งผืนนา
กล้าข้าวที่หว่านไว้ เริ่มพากันแห้งตายเพราะขาดน้ำ แต่ยังพอคัดเฉพาะต้นที่แข็งแรงมาปลูกได้อยู่แต่ไม่มากมายนัก หากฝนยังไม่ตกอีก พ่อต้องเตรียมหว่านข้าวใหม่อยู่ดี
ปีนี้ก็เหมือน 8 ปีที่ผ่านมา ที่พี่เขยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อในการไถนา
พ่อจึงทำหน้าที่ในการจัดการเรื่องน้ำ วางแผนว่าวันนี้จะสูบน้ำเข้านาเท่าไรจึงจะพอปลูกข้าวแต่ละแปลง และเหลือน้ำไว้ไปรดน้ำพริกและมะเขือด้วย (ปลูกไว้กินเองในบ้าน)
ส่วนแม่ และพี่สาว ก็ทำหน้าที่ถอนกล้าข้าว ฉันเองก็ช่วยตรงจุดนี้ แต่ก็ช่วยได้ไม่มาก เพราะไม่ชำนาญ แม่และพี่สาวถอนได้ประมาณ 5-6 มัด ฉันถอนได้แค่มัดเดียวอยู่เลย ฮ่าาาาา แต่สิ่งที่สังเกตุเห็นคือ รอบ ๆ แปลงหว่านกล้าข้าวจะมีการสานอะไรบางอย้างด้วยตอก แล้วนำไปปักไว้ตรง 4 มุมของแปลงนา จึงถามแม่ว่าเขาทำไว้เพื่ออะไร?
แม่บอกว่า เป็นเครื่องลางที่แสดงพื้นที่ขอบเขตของกล้าข้าว พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ของกล้าข้าว ไม่ใช่ของแมลงศัตรูพืช ก่อนปักจะมีการบอกกล่าวแก่เจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยปกปักรักษา ไม่ให้แมลงศัตรูข้าวเข้ามาก่อกวนหรือทำลายข้าว
แล้วแม่ก็พูดเชิงตัดพ้อว่า "ไม่รู้ทำไม แมลงศัตรูพืชก็ไม่มีมาทำลายข้าวนะ แต่ข้าวขาดน้ำนี่สิ แล้วคนทำนาจะทำอย่างไร?"
....ไม่มีคำตอบใด ๆ จากลูกสาว ปล่อยให้มันผ่านไปกับสายลม น้ำขาด ชาวนาปลูกข้าวไม่ได้ ทำการเกษตรใด ๆ ก็ไม่ได้เช่นกัน คงได้แค่รอว่าเมื่อไหร่ฝนจะตกลงมาเสียที....
ดอกหญ้าน้ำคงไม่ค่อยได้ทำไร่ทำนาเท่าไหร่ไง
เป็น "นักวิจัยชุมชน" เลยไม่ค่อยชำนาญเท่ากับแม่และพี่สาว ;)...
เห็นแล้วคิดถึงทุ่งนากว้างๆจังเลยนะค่ะ
เอาใจช่วยให้ฝนไปตกตรงที่ต้องการนะคะ
หายไปนานมาก
ในภาพที่บ้านเรียกว่าชะเหลว ครับ