ก่อนเข้านอนคืนวันเสาร์ พวกเรามีกิจกรรมเซอร์ไพรส์ให้กับน้องมด โดยคุณเพชรมอบช่อกุหลาบ
แสดงความยินดีกับการจบ ป.โท ของเธอ ส่วนคุณมะเดื่อและทีมงานก็มอบช่อดอกมาลีพิไล
แสดงความยินดีเช่นกัน คุณเพชรก็มอบ " งาช้างหินอ่อน" หนึ่งคู่ให้กับครูนิเวศน์
และ " แจกันหินอ่อน" หนักอึ้งคู่หนึ่งให้คุณมะเดื่อ เป็นของฝากที่สุดสวยและหนักจริง ๆ
เช้าของวันอาทิตย์ ครูน้อยจัดเตรียมข้าวต้มกุ้งหอมกรุ่นไว้เป็นมื้อเช้าของทุกคน
หลังจากที่เก็บสัมภาระขึ้นรถกันเหมดแล้ว รถของครูน้อย กับครอบครัวของเยาะ
ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนคุณมะเดื่อ กับคุณเพชรและน้องมดไปแวะที่ถ้ำพระประทุน
ตั้งใจว่าจะให้น้องมดกับคุณเพชรได้กราบขอพรพระบรมสารีริกธาตุเพื่อเป็นสิริมงคล
แต่พอดีทราบจากชาวบ้านที่จะทำบุญถวายเพลพระวันนี้บอกว่า ตอนนี้สามารถเข้าชม
ภายในถ้ำพระประทุนได้แล้ว เพราะมีการติดไฟไว้ในถ้ำ และทำสะพานเหล็กข้าม
แทนสะพานไม้แล้ว ดังนั้นคุณมะเดื่อ คุณเพชร และน้องมดจึงตกลงใจเข้าชม
ภายในถ้ำ โดยมีหลวงตารูปหนึ่งนำทาง นับว่าเป็นโชคมหาโชคที่เดียว ...ณ วันนี้
ถ้ำพระประทุนทำประตูเหล็กสำหรับปิด เปิด ไว้ตรงปากทางลงชมถ้ำ และยังติด
กล้องวงจรปิด ภายในถ้ำอีกด้วย ทราบจากหลวงตาว่า ที่ต้องถ้ำอย่างนี้
เพราะมีพวกใจบาปแอบเข้าไปขุดของโบราณในถ้ำเอาออกไป
หลายครั้งแล้ว จึงต้องป้องกันส่วนที่เหลือเอาไว้ หลวงตาเปิดประตู
เปิดไฟ ให้พวกเราลงชมถ้ำ พร้อมกับกวาดพื้นด้วยไม้กวาดยาว ๆ นำหน้าไป
แต่เนื่องจากคุณมะเดื่อไม่มีกล้องถ่ายรูปที่มีคุณภาพติดตัวไป จึงขอนำภาพเก่า
ภายในถ้ำที่เคยถ่ายไว้ จากบันทึกนี้ของคุณมะเดื่อ
https://www.gotoknow.org/posts/495574 มาประกอบบันทึกนี้นะจ๊ะ
ไฮไลท์ของถ้ำนี้ที่ได้เห็นในวันนี้ก็คือ "รังเหล็กไหล" ที่หลวงตาชี้ให้ดู
มันอยู่เกือบสุดถ้ำ ตรงหัวพวกเราพอดี (คงต้องรอชมภาพจากคุณเพชรนะ)
หลวงตาบอกว่า ถ้ำนี้มีสายแร่เหล็กไหลอยู่ทั่วไป กำลังมีผู้ทำเรื่องขออนุญาต
มาตัดอยู่ คงจะมาตัดเร็ว ๆ นี้ (ตัดอย่างไร แบบไหน ก็ไม่ทราบนะจ๊ะ)
หลวงตาถามว่า จะขึ้นไปชมถ้ำชั้นวิมาน (ชั้นบน) ไหน ชั้นบนสวยงามมาก
ซึ่งคุณมะเดื่อเองก็ไม่ทราบว่า ถ้ำนี้มีสองชั้น พวกเราบอกว่า อยากไป หลวงตาจึงบอกว่า
ให้พวกเรา " ดื่มน้ำจากสายแร่" เพิ่มพลังก่อน น้ำจากสายแร่นี้ คือน้ำที่ไหลผ่าน
แร่เหล็กไหลบริสุทธื์ ไหลจากผนังถ้ำเป็นสายน้ำเล็ก ๆ มีภาชนะรองน้ำไว้ แล้วเก็บ
บรรจุขวดสำหรับญาติโยมที่สนใจได้เอาไปดื่มกัน พวกเราจึงได้ดื่มน้ำแร่เหล็กไหลบริสุทธิ์
กันทุกคน เป็นน้ำใส ๆ เย็น ๆ ที่จึีดสนิท
จากนั้น หลวงตาจึงพาเดินย้อนกลับออกมาจนถึงตรงบันไดเหล็กที่ข้ามเหวเล็ก ๆ
ซึ่งพวกเราเดินข้ามไปแล้ว ตรงนั้นมีบันไดเหล็กพาดไว้อีกฝั่งหนึ่ง หลวงตาบอกว่า
ต้องปีนบันไดนี้ขึ้นไปชั้นบน พวกเรามองแล้วส่ายหน้า เปลี่ยนใจฉันพลัน โดยเฉพาะ
น้องมด ที่ล้ามาจากถ้ำแก้วแล้ว คงปีนต่ออีกไม่ไหวแน่ ๆ เพราะมันเป็นผนังถ้ำที่
สูงขึ้นไปแบบแหงนคอตั้งบ่าทีเดียว คุณมะเดื่อจึงว่า ต้องขอฝากเอาไว้ก่อนละกัน
มีโอกาสดี ๆ วันไหนค่อยขึ้นไปชม " ถ้ำชั้นสวรรค์" อีกสักครา
ออกจากถ้ำ ขาวบ้านที่มาถวายเพลพระก็เชิญชวนให้เราสามคนรับประทานก๋วยเตี๋ยวกันคนละชาม..
จากถ้ำพระประทุน...ก็เอาสัมภาระต่าง ๆ ไปเก็บไว้ที่บ้านคุณมะเดื่อก่อน แล้วคุณเพชรกับน้องมด
ก็ไปรถคันเดียวกับคุณมะเดือ ( เอารถของคุณเพชรจอดไว้ที่บ้านคุณมะเดื่อ ) แล้วออกเดินทาง
ไปยังบ้านย่านซื่อ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศชมวิถีชีวิตชาวบ้านจากทะเล...ไปเป็นชาวไร่ชาวสวนบ้าง
ก่อนเข้าสู่บ้านย่านซื่อ พ่อบ้านขับรถไปตามสันเขื่อนยางชุม เพื่อให้คุณเพชร และน้องมด
ได้ถ่ายถาพของเขื่อนยางชุม และพบว่า วันนั้นมีฝูงผืเสื้อบินกันขวักไขว่เต็มไปหมด
คล้ายกับที่พบที่น้ำตกป่าละอูไม่มีผิด
ที่่ีย่านซื้อ พ่อบ้านพาไปยังบ้านของพี่สาว และน้องสาวของพ่อบ้านคุณมะเดื่อ
ซึ่งได้ทำไร่สับปะรด และยังมีผลไม้อื่น ๆ อีก เป็นจังหวะดีที่ช่วงนี้
เงาะกำลังแก่ พวกเราจึง happy กับการเก็บเงาะกันมาก
เรียกว่า เก็บไปกินไป ไม่จำกัดจำนวนกันทีเดียว
พี่สาวเจ้าของสวน พาคุณเพชรกับน้องมดไปชมต้นทุเรียนที่มีผลดกเต็มต้น
แต่...ยังไม่แก่ พี่สาวบอกว่า อีกประมาณหนึ่งเดือนทุเรียนก็จะเก็บได้
เดือนนี้มีแต่เงาะ แต่ถ้าเป็นเดือนก่อนนี้ จะเป็นมะปรางหวาน
เฮ้า...! มิตรรักแฟนเพลงของคุณมะเดื่อจำผลไม้แต่ละเดือนเอาไว้นะ
เมษาจะเป็นมะปรางกับมะม่วง พฤษภา จะเป็นเงาะ ส่วนปลาย ๆ มิภุนา
จะเป็นทุเรียน (กับมังคุด แล้วก็ลำไย ) จ้าา สำหรับสับปะรดมีตลอดปี
สำหรับผลไม้เมืองกุยบุรีนั้น รับประกันเรื่องรสชาติไม่แพ้ภาคใด
ในประเทศไทยจ้ะ และอาจจะอร่อยกว่าด้วย แต่..ที่สำคัญ.........
ผลผลิตจะหาซื้อในท้องตลาดไม่ได้ มีขายเฉพาะในพื้นที่จ้ะ
พี่สาวปอกสับปะรดหวานฉ่ำเลี้ยงพวกเรา ... จะหวานเพียงใดต้องรอถามคุณเพชร
กับน้องมดนะจ๊ะ เพราะหากคุณมะเดื่อจะบอกว่า สับปะรดเมืองประจวบ ฯ หวานอร่อยที่สุด
ก็ดูจะ...ชาตินิยมมากไป อิ อิ...!
วันนี้เราได้สับปะรดหวานฉ่ำจากสวนของพี่สาวและชาวบ้านที่นี่ให้คุณเพชรเอาไป
ประชาสัมพันธ์ต่อที่กำแพงเพชรหลายผลทีเดียว
กลับจากย่านซื่อ ก็ตรงดิ่งไปหาซื้อของฝากจำพวกอาหารทะเลแห้งที่บ้านคลองวาฬ
ที่นั่นเป็นแหล่งขายปลีก และขายส่งอาหารทะเลแห้งแหล่งใหญ่ของเมืองสามอ่าว
คุณเพชร น้องมดเลือกซื้อของฝากจำพวกกุ้ง หอย ปู ปลาพอแล้ว จึงตรงไปแวะ
ที่ " วนอุทยานเขาตาม่องล่าย" อีกหนึ่งสถานที่งดงามน่าไปพักผ่อนของเมืองสามอ่าว
ที่นี่มีหอยนางรมเกาะอยู่ตามก้อนหินมากมายเต็มไปหมด พ่อบ้านบอกวิธีเคาะหอยนางรม
แล้วลองชิมดู เป็นเมนูหอยนางรมสด...สุด ๆ เมนูหนึ่งที่คุณเพชรและน้องมดได้ชิมด้วยนะ
ออกจากวนอุทยานเขาตาม่องล่าย เราก็มาแวะที่วัดอ่าวน้อย
เพื่อดูความสวยงามของโบสถ์ไม้สัก รวมทั้งศาลาเมรุ
และกุฏิสงฆ์ที่ทำจากไม้สักอันงดงาม
นอกจากความงดงามของตัวโบสถ์แล้ว ภาพเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติในโบสถ์
ยังงดงามแปลกตา เพราะไม่ใช่ภาพวาดเช่นเดียวกับที่พบได้ตามผนังโบสถ์ทั่วไป
แต่เป็น " ภาพแกะสลักจากไม้" แล้วลงสีงดงาม ติดไว้ตามผนังโบสถ์อีกด้วย
จะงดงามเพียงใด ต้องไปชมด้วยตาตนเองเหมือนคุณเพชรกับน้องมดจ้ะ คุณมะเดื่อ
บอกกับคุณเพชรและคุณมดว่า....คุณมะเดื่อพาชมครบทั้งสามอ่าวแล้วนะ
เริ่มจากอ่าวมะนาว มาอ่าวประจวบฯ มาจบที่อ่าวน้อยนี้....
เบ็นมากแล้ว พวกเราจึงแวะกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมถนนเพชรเกษม เป็นเมนูกึ่งอาหารใต้
ที่รสชาติอร่อยพอใช้ น้องมดไม่สนใจอาหารจานใหน ๆ เท่ากับ " ปลาทูทอด" อย่างเดียว
ส่วนคุณเพชร พอได้ชิมอาหารใต้ก็ได้เหงื่อทันที เพราะรสเผ็ดร้อนถึงพริกนั่นเอง
ร้านอาหารปักษ์ใต้จะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ บนโต๊ะอาหารจะมี " น้ำชุบ" (น้ำพริก)
และผักเหนาะวางไว้ให้ได้กินกันฟรี ๆ ทีเดียว
จริง ๆ แล้ว มื้อเย็นนี้ คุณมะเดื่อจัดวางโปรแกรมไว้ว่าจะเป็นเมนูรสเลิศที่บ่อปลา
หรือ " รีสอร์ทพันดาว" อันเป็นเมนูเด็ดที่มิตรรักแฟนเพลงทุกคนของคุณมะเดื่อ
จะต้องได้ชิมกัน แต่เกิดผิดพลาดบางประการ เพราะที่บ่อปลามีลูก ๆ หลาน ๆ
ของพี่สาหร่ายมากันหลายคน จึงไม่สะดวกที่จะทำอาหารให้กับพวกเรา จึงงดไป
แต่....ช่วงหัวค่ำ พ่อบ้านของคุณมะเดื่อพาคุณเพชรไปจับปูแสมกับปูทะเลที่บ่อปลา
ทำเป็นปูดองเลิศรสเอากลับไปกำแพงเพชรด้วย
เช้าวันจันทร์ วันนี้ เป็นวันเดินทางกลับของคุณเพชรและน้องมด เวลามันช่างรวดเร็ว
ราวกับจงใจกลั่นแกล้งกัน...คุณเพชรไปหาซื้อปลาสด ทีตลาดเทศบาลกุยบุรี เพื่อเอา
กลับบ้านเพิ่มเติม จากนั้นก็กินข้าวกับปลาโอย่างที่ซื้อมาจากตลาดเป็นอาหารเช้าก่อน
การเดินทาง
อิ่มแล้ว คุณมะเดื่อจัดโปรแกรมสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ โดยการพับ " ปลาญี่ปุ่น"
ซึีงคุณเพชรยังค้างส่ง (ผลงาน) ให้น้องอาจารย์ขจิตอยู่ จนพับได้สำเร็จดังเจตนา
แล้วจึงเดินทางกลับบ้านในเวลาราว สองโมงเช้า
ใกล้ค่ำ คุณเพชรโทร.มาบอกว่าถึงบ้านไร่หนองรางแล้วด้วยความสวัสดิภาพ...
ก่อนกลับคุณเพชรบอกว่า......ให้ฝากบอกอาจารย์จันว่า........ช่วยจัดงาน
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชาวโกทูโนด้วยจ้าา .... จัดเป็นภาค แต่ละภาคก็ได้จ้ะ
....เวลาแห่งมิตรภาพและความสุขผ่านไป แต่มิได้หมายความว่าจะไม่กลับมาอีก...
เราจะต้องได้พบกันอีกนะจ๊ะ คุณเพชร น้ำหนึ่ง และน้องมดตะนอย
กี่ครั้งๆที่ญาติมิตรไปเยี่ยมคุณมะเดื่อ เราได้เห็นภาพทะเลงาม สวนธรรมชาติที่น่าชม แลเเหนือกว่าสิ่งอื่นคือน้ำใจอันงดงามยิ่งของเจ้าภาพ
และทุกๆครั้งตัวกระผมเองก็ได้แต่บอกว่า สักวันนะสักวัน...จะได้ไปดื่มด่ำบรรยากาศแบบนี้บ้าง
หวัดดีคุณพิชัย ยังรอวันนั้น วันที่จะได้รับเกียรติต้อนรับคุณพิชัย และครอบครัวเสมอจ้ะ หวังว่าคงอีกไม่นานนะจ๊ะ
หวัดดีจ้ะคุณเพชร คุณน้องมด จริง ๆ แล้ว กิจกรรมยังไม่สมบูรณ์ตามที่ได้ตั้งใจไว้ คงได้มีโอกาสให้คุณมะเดื่อและทีมงานได้แก้ตัวใหม่อีกนะจ๊ะ คิดถึงเสมอจ้ะ