3. เปลี่ยน
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.40 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น
กับใจที่ดูจะมุ่งมั่นมากขึ้น ตื่นมาทำกิจวัตร ไม่ใช่ใจไม่แกว่งเลย ความบีบคั้นเดิม ๆ มาหมด แม้กระทั่งความกลัวที่จะเข้าไปหาครู แต่เหมือนวันนี้มีลมหายใจ แล้วก็เผชิญหน้ากับข้างในตนเอง
พอถึงเวลาก็ไปทำอาหารถวายพระ ก่อนลงรับข้าวที่ลานธรรม ครูเมตตากะเทาะกิเลสให้เห็น
นิสัยเดิม ๆที่ยึดมั่นถือมั่นความคิดความเห็นตนเอง ครูชี้ว่า
ถ้ายังเป็นแบบนี้ มันก็จะเหมือนพายเรือในอ่าง
รู้สึกถึงลมที่ชัด ใจที่ซาบซึ้ง
ครูให้ไปทบทวนย้อนคิด กับตนเองระหว่างรับข้าว
ถามย้ำซ้ำ ๆ กับตนเอง
"ถ้าตามใจตนเอง แม้สิ่งที่ลงมือทำจะเป็นสิ่งดี แต่ใจไม่ละชั่ว มันก็จะ คือ เก่า กิเลสเอาไปกิน"
แต่ถ้ามีครูบาอาจารย์ชี้ พาทำ
"สิ่งที่กระทำอยู่จะเกิดผลสองเด้ง หรือ หลายเด้ง คือ ละชั่วได้ด้วย ขัดเกลาใจตนเองไปด้วย และสร้างกุศลด้วย"
สองสามเดือนที่ผ่านมา กับ สองวันในเสาร์อาทิตย์นี้เปรียบต่างแล้ว เห็นผลแตกต่างชัดเจน
ข้างในเปลี่ยนจากหน้าหมองคล้ำ จิตวุ่นวายสับสน
วันนี้เปลี่ยน เหมือนข้างในจะเงียบลง เห็นลมหายใจชัดเจนขึ้น
ผิวหน้ากลับมาสีปกติ
เวลาครูชี้ ใจยอมรับมากขึ้น แม้ร่องเดิม ๆ จะปรากฏ แต่ก็ไม่รุนแรง
โจทย์ที่ครูให้วันนี้ คือ ท่านเมตตาทำขนมบุญให้ แบบเปิดโอกาสให้ได้ เป็นสะพานบุญให้ผู้คน
ได้เรียนรู้ว่า
"ในหนึ่งโจทย์ หนึ่งเรื่อง หนึ่งปัญหา เราสามารถคิดพิจารณา หาหนทางได้มากมายหลากหลาย เพื่อให้เป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นสำเร็จ หรือ ถ้าสำเร็จแล้ว มีช่องทางที่จะทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็ให้ ลงมือทำ
หลายเรื่อง ทฤษฎีหนูคล่องมาก แต่การลงมือกระทำ หรือ เห็นจริง ๆ น้อยมาก จึงปรากฏเป็นความล้มเหลว ซ้ำ ๆ
สิ่งที่ครูพาชี้ พาเห็น คือ อกุศล และกุศลในใจ ให้ทำความรู้จัก
ถ้าไม่ละชั่ว ไม่ฝึกฝืนกิเลส มันก็ไม่ใช่การปฏิบัติภาวนา
กราบลาครู และแวะส่งเด็ก ๆที่บ้าน แล้วก็กลับขอนแก่นเพื่อเตรียมตัวเดินทางไป เขาค้อวันรุ่งขึ้น
ระหว่างทาง ดูจะเห็นลมชัด แต่ใจมันแน่น ๆ อึดอัด แต่ก็ จับอยู่
ย้อนทวนกับพระพี่ชาย
ถึง สิ่งดี ๆ ที่ครูเมตตาดึงกลับมาวัดอาทิตย์นี้ ทำให้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับตนเอง เหมือนหลุดจาก ความมัว ๆ หมอง ๆ เน่า ๆข้างใน แบบครูเมตตาลากออกมา
แม้กระทั่งสีของใบหนน้าจากเดิมที่หมองคล้ำวันนี้ ดูจะกลับมา ปกติ ที่สีผิวเดิม ความร้อนที่เคยรู้สึกในกายก็หายไป
คิดง่าย ๆ ถ้าหนูยังจะเอาเหตุผลแบบโลก ๆ มาคิด แล้วก็ไม่เปิดโอกาสให้ตนเองได้มาวัดอาทิตย์นี้
รู้เลยว่า หนูต้องได้ไปพบแพทย์ด้วย อาการไทรอยด์ ผิดปกติ เพราะเริ่มรู้แล้วว่า ร่างกายเริ่มแสดงอาการ ทางคลีนิคชัดเจน
ซึ่งมีหมอท่านหนึ่งเคยเตือน หนูไว้ว่า
ถ้าภาวนาจัดการความโกรธกับตนเอง ไม่ได้ จะมีอาการไทรอยด์
ยังพอมีวาสนา ที่ครูบาอาจารย์เมตตาให้พอประคองตนได้
และเรียนรู้กับตนเองต่อไป สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
เป็นเรื่องเล่า แล้วคนอ่านได้บทเรียนรู้ค่ะ
สาธุ นะคะ
มาขอบคุณด้วยนะคะ ที่พา อ กะปุ๋มและน้องอุ้มมาส่งให้พี่แก้วค่ะ