ขวดสารพัดแบบที่ลูกค้ากินทิ้งไว้ถูกเก็บสะสมไว้และมีมากพอที่จะติดต่อให้รถรับซื้อของเก่ามาชั่งและซื้อถึงบ้าน ซึ่งตัวเองตั้งใจว่าจะโทรติดต่อกับคนรับซื้อของเก่าเจ้าประจำที่เคยมาซื้อครั้งก่อนโน้น
แต่สายวันนั้นเอง ....เป็นสายของวันที่มิได้คาดคิดว่า...จะมีรถรับซื้อของเก่าๆ เข้ามาจอดหน้าบ้าน และคนรับซื้อของเก่าก็เดินเข้ามาสอบถามพูดคุยกับตัวเองด้วยประโยคนี้... " พี่ครับ..มีขวดเบียร์ ลังกระดาษ และของเก่าเหลือใช้ ขายมั้ยครับ"
วันนั้นตัวเองก็มิได้เดินเข้าไปในสวน แต่กำลังสาระวนกับกองผ้าที่สมาชิกในครอบครัวถอดใส่ไว้ในตระกร้าผ้าใบเขื่องอยู่ข้างๆ บ้านนั่นเอง จึงได้ละทิ้งจากกิจกรรมงานดังกล่าว เดินเข้ามาพูดคุยกับเจ้าของเสียงที่กำลังเดินเข้ามาหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าบ้านของตัวเอง
..
ชายหนุ่มที่แต่งตัวปอน ๆ ถามประโยคเดิมซ้ำอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อตัวเองเดินเข้ามาใกล้พอที่จะพูดคุยกับชายหนุ่มคนนั้นได้.....น้ำเสียงก็ถูกเปล่งออกไปว่า.... "มีเยอะเลย ช่วยรับซื้อไปทั้งหมดได้มั้ย!! หากเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง ก็กลัวว่า คนที่รับซื้อทีหลังจะไม่เอา"
ชายหนุ่มตอบกลับมายังข้าพเจ้าว่า "ผมรับซื้อหมดครับพี่ ไม่เลือกซื้อครับ"
ข้าพเจ้ายิ้มและพยักหน้าตอบ "งั้น ได้เลย"
..
สิ่งที่ข้าพเจ้าสังเกตเห็นเมื่อเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มนี้ นั่นคือ....เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นอยู่เต็มหน้า และเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ของชายหนุ่มคนนี้
เค้าเดินละจากข้าพเจ้าไปที่รถเพื่อขนเครื่องมือหากินลงมา
..
..
ส่วนตัวเอง ก็เดินเข้าไปรินน้ำดื่มมาตั้งให้เพื่อดับกระหาย ในวันที่อากาศร้อนเช่นนี้
การทำงานของคนอาชีพนี้ก็ได้เริ่มขึ้น ตั้งแต่การคัดแยกขวดประเภทต่าง ๆ กองรวมกัน มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋องเบียร์ และลังกระดาษ
เวลาผ่านไปจนมาถึงขั้นตอนหลัง ๆ แล้วที่เป็นการรวบรวม และพับเก็บลังกระดาษเป็นชื้นเล็ก ๆ
และช่วงนาทีนี้เอง เป็นช่วงที่ข้าพเจ้าได้นั่งพูดคุยด้วย
..
..
ข้าพเจ้าพูดถามไปว่า... "อายุยังไม่มากเลย ทำงานแบบนี้เป็นอย่างไรบ้าง"
ชายวัยสามสิบต้นๆ พูดบอกกับข้าพเจ้าว่า.... "ผมเอาเวลาว่างจากการกรีดยาง มารับซื้อของเก่าครับพี่ เพราะเวลาพอมี ลูกก็ยังเล็กอยู่"
ข้าพเจ้านึกในใจว่า "เป็นการใช้เวลาที่มีอยู่ในชีวิตได้อย่างคุ้มค่าที่เดียว" หากเปรียบเทียบกับตัวเอง ณ ช่วงวัยเดียวกัน ก็จะมีรูปแบบการใช้ชีวิตอีกแบบหนึ่ง และคิดอยู่ในใจอีกครั้งว่า "โอ้ย!!!มันสุขกันคนละแบบละ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกนะ"
..
และสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน มันก็เป็นแบบที่ข้าพเจ้าคิดจริง ๆ ... ชายหนุ่มรับซื้อของเก่าตอบข้าพเจ้าว่า... "มันมีความสุขนะครับพี่ สุขที่ได้ทำหน้าที่ของพ่อ และหัวหน้าครอบครัว" ...."เหนื่อยครับแต่นึกถึงลูกแล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกครับพี่"
..
..
"คนอื่นมองเป็นอาชีพที่มองไร้เกียรติ แต่สำหรับผมเฉย ๆ ครับ"
"ถึงแม้ว่าผมจะรับจ้างกรีดยาง รับซื้อของเก่า แต่ผมก็มีความสุขครับ ความสุขที่ผมรู้ครับว่า...ผมทำอาชีพสุจริต ไม่คดโกงใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน"
..
..
"รถเก่า ๆ คันนี้ จะเป็นแรงเสริมให้ผมทำงานเก็บเงิน เพื่อลูกและครอบครัวของผม ผมหวังไว้ครับพี่ วันหนึ่งข้างหน้าผมจะได้เห็นลูกเติบโตขึ้นมาเป็นคนดี พี่เชื่อมั้ย!!แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว"..
นี่คือหนึ่ง...ความทรงจำดี ๆ ในชีวิตที่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้รับรู้ และอยากแบ่งปัน
ชื่นชมมากค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตนะคะ คุณยายขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
อาชีพสุจริตมีเกียรติที่สุดครับ ;)...
ฝากคำชื่นชมไปให้หน่อยครับ ;)...
ชื่นชมคนที่ประกอบอาชีพสุจริตค่ะ
ชอบคำพูดทุกคำในบันทึกเล่มนี้
อ่านแล้วได้คติดีครับ ชอบบันทึกนี้มากๆๆขอบคุณ
...ขอบคุณเรื่องราวดีๆนะคะ
คนดีจะทำแต่สิ่งดีดีเสมอ นะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบพระคุณในทุกความเห็นและดอกไม้ที่มอบให้นะครับ
ชื่นชมมากครับ อาชีพทุกอาชีพที่สุจริตน่ายกย่องสรรเสริญเสมอๆ - ชอบการเล่าเรื่องของพี่แสงจังครับ
คนแบบนี้หายากครับ ที่ผมเห็นมักจะใช้เวลาว่างจากการกรีดยางไปทำอย่างอื่นเพื่อความบันเทิงเสียมากกว่าครับ
ยิ่งกว่านั้นการกล้าใช้ "รถเก่าๆ" นี่ยิ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ ครับ ในช่วงเวลายางราคาดีนั้นรถเก่าๆ แทบจะหาดูยากในภาคใต้ และหลายคนพอเวลายางราคาตกก็เลือกที่จะขายที่ดินมาจ่ายค่ารถครับ น่าเป็นห่วงจริงๆ ครับ