เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๒๘ ประมาณ ๓๐ปี ผ่านมาแล้วกรมการปกครองได้มีคำสั่งย้ายผม จากตำแหน่งนายอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์มาดำรงตำแหน่งนายอำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ภรรยาผมเป็นครูสามารถย้ายติดตามสามีมาได้ หากไม่มีตำแหน่งก็ให้มาช่วยราชการ โดยตำแหน่งยังคงอยู่ที่เดิม ตอนอยู่อำเภอหนองบัว ภรรยาผมสอนที่โรงเรียนประถมศึกษาใกล้อำเภอ เมื่อย้ายมาอยู่อำเภอพลแล้ว ในชุมชนตลาดของอำเภอพลเป็นเขตเทศบาล โรงเรียนประถมศึกษาจึงสังกัดเทศบาล หากภรรยาผมต้องลงไปทำหน้าที่ครูผู้สอน จะต้องสอนโรงเรียนไกลจากบ้านพักหรือตัวอำเภอ นอกเขตเทศบาลออกไป ผมจึงให้ภรรยาช่วยราชการสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ (ปัจจุบันเรียกว่าสำนักงานการศึกษาพื้นฐาน)ซึ่งสำนักงานตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอ
ครอบครัวผมมีบุตรหญิง ๒ คน คนโตอายุ ๑๒ ปี ย้ายติดตามมาเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ ๒ (เทียบเท่าประถมปีที่ ๕ ตามหลักสูตรใหม่) คนเล็กอายุ ๙ ขวบ ย้ายมาเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ ๓ โรงเรียนเทศบาลเมืองพล ซึ่งห่างจากบ้านพักนายอำเภอประมาณ ๓๐๐ เมตร สำหรับลูกคนโตเนื่องจากโรงเรียนอยู่ห่างไกลประมาณ ๑ กม.เศษ จึงมอบจักรยานให้ ๑ คัน สำหรับถีบไปโรงเรียน
สำหรับลูกสาวคนเล็ก การไปโรงเรียนนั้น
วันแรก คุณแม่ไปส่ง และเลิกเรียนไปรับกลับ
วันที่สอง คุณแม่ไปส่ง ตอนเย็นให้เดินกลับบ้านเอง ๒ วันแรกทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
วันที่สาม คุณแม่ให้เดินไปโรงเรียนเอง และเดินกลับเองมีปัญหา
ปกติเวลาเลิกเรียนของโรงเรียนเทศบาล ตอนเย็นเลิกเรียน เวลา๑๕.๓๐ น. พอถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. คุณแม่จึงกลับมาดูแลลูกที่บ้านพักตอนเลิกเรียน ปรากฏว่าเย็นวันที่สาม รออยู่จนกระทั่ง ๑๖.๓๐ น. คุณหนูลูกสาวคนเล็กไม่ยอมกลับมาบ้านทั้งที่ลูกสาวคนโตกลับมาถึงบ้านแล้ว คุณแม่ลูกสองจึงเดินทางไปที่โรงเรียนเทศบาลที่อยู่ไม่ห่างไกลนัก พบบรรดาคุณครูกำลังจะกลับบ้าน จึงแจ้งให้ครูใหญ่ทราบว่า
"โรงเรียนเลิกมาประมาณ ๑ ชั่วโมงแล้ว ทำไมลูกคนเล็กของฉันยังกลับไม่ถึงบ้านคะ"
สร้างความตระหนกตกใจ ให้แก่บรรดาคณาจารย์ของโรงเรียน ว่าลูกนายอำเภอหายไปไหนจึงยังกลับไม่ถึงบ้านครูใหญ่เรียกครูประจำชั้นมาพบ สอบถามถึงเพื่อนของลูกนายอำเภอที่เริ่มรู้จักกันในชั้นเรียนมีใครบ้าง ทราบว่ามีเพื่อนที่รู้จักกันใหม่อยู่ ๒ – ๓ คน ที่สนิทกันมากคนหนึ่งพักอาศัยอยู่แถวตลาดท่ารถบริษัทขนส่งในตลาดอำเภอพล ครูใหญ่จึงให้ครูประจำชั้น และครูคนอื่นไปช่วยกันติดตาม ปรากฏว่าพบตัวลูกนายอำเภอเล่นกันอยู่ที่บ้านเพื่อน ณ ห้องแถวบ้านพักพ่อแม่ของเพื่อนที่ท่ารถบริษัทขนส่ง จึงพาตัวกลับมาส่งให้คุณแม่ที่นั่งรอด้วยใจระทึกอยู่ที่โรงเรียน เรื่องจึงจบลงด้วยดีโดยยังไม่ทันเป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ยุคนั้น แต่ก็เป็นที่กล่าวขวัญของชาวบ้านตลาดอำเภอพลในยุคนั้นอยู่หลายวัน.
อดีต นอภ.พล ปี ๒๕๒๘-๒๕๒๙
ไม่มีความเห็น