วันนี้ (๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘) มีโอกาสเข้าร่วมงานโครงการ "วันนัดพบตลาดงาน" อันเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับสำนักจัดหางาน จังหวัดมหาสารคาม
ปีนี้ในทางเครือข่ายต้องยอมรับว่า มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพอย่างมากมายก่ายกอง มีอัตรางานมารองรับให้ยื่นใบสมัครเกือบๆ จะ 3,000 อัตรา ในบางบริษัทถึงขั้นผู้จัดการลงทุนมานั่งสัมภาษณ์ด้วยตนเองก็มี
กลุ่มเป้าหมายหลักของการจัดงานครั้งนี้หนีไม่พ้นนิสิตที่กำลังสำเร็จการศึกษา รวมถึงที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว ตลอดจนประชาชนทั่วไป จึงอาจนับได้ว่าเป็นเสมือนเวทีของการบริการสังคมไปในตัวด้วยเหมือนกัน
งานครั้งนี้ไม่ได้จัดแต่เฉพาะการเปิดรับสมัครงานเท่านั้น มีกิจกรรมแบบบูรณาการ หรือสหกิจกรรมอย่างเด่นชัด เป็นต้นว่า การทบสอบจิตวิทยาเพื่อให้รู้ว่าแต่ละคนเหมาะสมกับอาชีพใด การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการกรอกใบสมัคร แนวคิดของการเตรียมการสัมภาษณ์งาน การออกร้านจำหน่ายสินค้า การสาธิตอาชีพ การเสวนา การแสดงดนตรีและนาฏศิลป์ ฯลฯ
ในภาพรวมของการดำเนินงาน ผมถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี อาจมีบ้างที่ระบบพิธีการติดขัดนิดๆ หน่อยๆ และนั่นไม่ใช่ตัวชี้วัดสำคัญอะไรที่ผมจะต้องประเมิน หรือพิพากษาว่างานนั้นดีเด่น หรือดีมาก หรือกระทั่งต้องปรับปรุง เพราะองค์รวมผมถือว่า "ไม่ธรรมดา"
ในช่วงเวทีของการเสวนาในหัวข้อ "คุณลักษณะของบัณฑิตที่นายจ้างต้องการ" ถือเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด ให้ความสำคัญถึงขั้นสะพายเป้อันหนักอึ้งของตนเองไปนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งบนเวทีมีผู้แทนจากสถานประกอบการหลายท่านได้ร่วมเสวนา โดยเท่าที่จับประเด็นนั้น ต่างคนต่างให้แง่คิดสำหรับคนที่กำลังอยู่ระหว่างการทำงาน-กำลังหางาน-กำลังจะเปลี่ยนงาน ประมาณว่า....
ครับ, นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมพยายามจับประเด็นจากสิ่งที่วิทยากรได้สะท้อนในวงเสวนาเล็กๆ แต่มีความหมายและเต็มไปด้วยคุณค่า
ฟังดูเหมือนเป็นตรรกะง่ายๆ ใครๆ ก็รู้... แต่ต้องรู้ว่านี่คือความจริงที่ต้องใส่ใจและตระหนักอย่างจริงจังและจริงใจ มิใช่รู้เพราะมันคือทฤษฎีเท่านั้น แต่ต้องรู้และตระหนักว่านี่คือข้อเท็จจริงที่มองข้ามไม่ได้จริงๆ
นอกจากนี้แล้วอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผมชื่นชอบมาก เป็นกิจกรรมในทำนอง "ชม ชิม ชอบ แซบ" นั่นก็คือกิจกรรมสาธิตอาชีพต่างๆ ซึ่งมีอย่างหลากหลายมาก เป็นต้นว่า ทำน้ำสลัด ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ สานกระติบจากริบบิ้น ทำถุงผ้า ขนมคุกกี้ เพ้นท์เล็บต่อเล็บ กรอบรูปวิทยาศาสตร์ โดนัทเค้ก ฯลฯ
ผมชอบกิจกรรมในทำนองนี้ ไม่ใช่เพราะว่าได้เห็น (ชม) ได้ชิม (รับประทาน) ได้ชอบ (กินฟรี..มีรายได้) ได้แซบ (อร่อย) เท่านั้น หากแต่ผมมองไปไกลกว่านั้น จนอดที่จะเสนอแนะแลกเปลี่ยนกับผู้บริหารและคณะทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ (แต่ยืนยันว่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบสาภพมากๆ) ประมาณว่า
แน่นอนครับ- ผมพูดหนักแน่นว่าวิธีคิดและวิธีการที่ผมว่านั้น มันหมายถึงการยกระดับงานในเวที "นัดพบตลาดงาน" ไปสู่การเป็นงาน "บริการสังคม" ไปในตัว ซึ่งอาจหมายถึงการเป็นงาน "บริการวิชาการแก่สังคม" ไปในตัวด้วยเช่นกัน
และนั่นก็เท่ากับว่าโครงการดังกล่าวนี้ตอบโจทย์เอกลักษณ์มหาวิทยาลัยมหาสารคามอย่างเสร็จสรรพ นั่นคือ "เป็นที่พึ่งของสังคมและชุมชน"
ไม่จบแค่นั้นครับ ผมยังฝากแนวคิดว่า ควรให้หน่วยงานในมหาวิทยาลัยฯ ที่กำลังเปิดรับสมัครพนักงาน-เจ้าหน้าที่ได้ออกมาจัดเวทีรับสมัครงานในเวทีนี้ด้วย พร้อมๆ กับการจัดนิทรรศการความเป็นมหาวิทยาลัยฯ ในมิติต่างๆ เข้ามาเสริมบรรยากาศงานไปด้วย....
ครับ-นั่นคือเรื่องของปีหน้า แต่ปีนี้ถือว่าทำได้ดี และสุดยอดแล้วครับ !
หมายเหตุ : บริษัทที่ร่วมเสวนาบนเวทีคือ
เป็นตลาดนัดที่เป็นประโยชน์กับนิสิตมากเลยครับ
ได้เรียนรู้เรื่องงาน
แถมได้งานที่ตนต้องการด้วย
ขอบคุณมากๆครับ
น่าสนใจมากครับ ;)...
ขอสนับสนุนกิจกรรมดีๆเช่นนี้ค่ะ
ครับ อ. ขจิต ฝอยทอง
อย่างน้อยก็ได้ช่วยลดต้นทุนการเดินทางของนิสิตไปยังแหล่งงาน ทั้งให้บริการสังคมไปพร้อมๆ กัน แต่จะดีมากๆ ถ้าเราสามารถประเมินได้ว่า คนที่สมัครงานผ่านเวทีนี้ ได้งนกันกี่คน บางที่ถึงแม้ปริมาณไม่สำคัญนัก แต่ผมก็สนใจที่จะดูตัวเลขเหล่านี้เหมือนกัน
ครับ อ. Wasawat Deemarn
ที่ มรภ.เชียงใหม่ มีกิจกรรมในทำนองนี้บ้างไหมครับ เผื่อได้ ลปรร. กันบ้าง
ขอบพระคุณครับ พี่ใหญ่
.... กิจกรรมนี้จัดมายาวนานมากเลยครับ ระยะหลังก็ผนึกกำลังกับภาคีภายนอกมากขึ้นเรื่อยๆ ในมุมของผมเป็นการบริการสังคมไปในตัว ครับ