วลีเด็ด...มหาเศรษฐี(9)
๑๙/๐๓/๒๕๕๘
**********
วลีเด็ด...มหาเศรษฐี(๙)
...........ผมได้เห็นข่าวของ msn ประเทศไทย ในหมวดการเงินและการลงทุน ในเช้านี้ ๑๑/๒/๒๕๕๘ ให้ชื่อว่า "วลีเด็ดสู่ความสำเร็จมหาเศรษฐี" จึงคลิกเข้าไปดู และเห็นว่า "วลีเด็ด" ของแต่ละท่านนั้นน่าจะเก็บมาไว้เป็นบันทึกอย่างยิ่ง เพื่อเตือนตนเอง และเป็นแบบอย่างทางแนวคิด สติปัญญา พร้อมกับเป็นตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก บางท่านก็ยังไม่รู้จักและคุ้นชื่อดี จึงได้พยายามหาความรู้ประวัติโดยย่อของแต่ละท่าน จากเว็บไซต์วิกิพีเดีย สารานุกรมอิสระเว็บไซต์ และหนังสืออื่น ๆ เพิ่มเติมอีกบางส่วน ดังต่อไปนี้...
แอนดรูว์ คาร์เนกี
.............แอนดรูว์ คาร์เนกี (อังกฤษ: Andrew Carnegie, ช่วงอายุ เกิดเมื่อ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1835(พ.ศ.2378) ถึง 11 สิงหาคม ค.ศ. 1919(พ.ศ.2462)) เป็นนักอุตสาหกรรม นักธุรกิจ และผู้ประกอบการชาวสกอต-อเมริกัน ผู้นำการขยายตัวอย่างใหญ่หลวงของอุตสาหกรรมเหล็กกล้าอเมริกาในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เขายังเป็นหนึ่งในนักการกุศลคนสำคัญที่สุดในยุคของเขา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาบริจาคให้การกุศลและมูลนิธิต่าง ๆ 350 ล้าน (ในปี 2015 บริจาค 4.76 พันล้านดอลล่าร์) ซึ่งมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สมบัติที่เขามีอยู่ เขาได้รับการประกาศว่า "เป็นนักบุญผู้มั่งคั่ง" ได้รับการเรียกขานว่าเป็นผู้ที่ใช้ทรัพย์สมบัติก่อให้เกิดประโยชน์เพื่อการปรับปรุงสังคมและเป็นผู้กระตุ้นให้เกิดคลื่นของการบำเพ็ญบุญ
...........คาร์เนกีเกิดในดันเฟิร์มลิน สกอตแลนด์ และอพยพสู่สหรัฐอเมริกากับครอบครัวที่น่าสงสารมาก เมื่อยังเป็นเด็ก อาชีพแรกของเขาในสหรัฐอเมริกา เป็นกรรมกรโรงงานในโรงงานหลอดด้าย ภายหลังเขาทำงานเป็นคนจดรายการ (bill logger) ให้กับเจ้าของบริษัท ไม่นานจากนั้นเขากลายเป็นเด็กส่งของ ท้ายสุด เขาก้าวหน้าเข้าทำงานในบริษัทโทรเลข และจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1860 เขาได้ลงทุนในทางรถไฟ รถไฟแบบนอน รถยนต์ สะพาน และบ่อน้ำมัน เขาร่ำรวยขึ้นมากจากการเป็นผู้ขายพันธบัตร ระดมเงินทุนแก่วิสาหกิจอเมริกาในยุโรป(บริษัทข้ามชาติ)
...........เขาก่อตั้ง Carnegie Steel Company แห่ง พิตส์เบิร์กส์ ในคริสต์ทศวรรษ 1870 ซึ่งทำให้เขาได้รับการจารึกชื่อว่าเป็น "กัปตันแห่งอุตสาหกรรม" จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1890 บริษัทของเขาเป็นวิสาหกิจอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด และทำรายได้มากที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 1901 เขาได้ขายให้แก่ J.P. Morgan เป็นเงิน 480 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ในปี 2015 มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1360 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) และก่อตั้ง U.S. Steel Corporation ภายหลังเขาหันไปเป็นนักการกุศล และให้ความสนใจกับการศึกษา
...........คาร์เนกีบริจาคเงินส่วนใหญ่ก่อตั้งห้องสมุด โรงเรียน สร้างสันติภาพโลก เพื่อการศึกษา และการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้วยสมบัติของเขาที่หาได้จากการทำธุรกิจ เขาสร้าง คาเนกี ฮอล์ล และเขาก่อตั้ง คาร์เนกี คอร์ปอเรชั่น ที่นิวยอร์ก, คาร์เนกี เอนโดเม้นท์ เพื่อสันติภาพของนานาชาติ,คาร์เนกี อินสทิทิวชั่น ทางวิทยาศาสตร์, คาร์เนกี ทรัสต์ เพื่อมหาวิทยาลัยแห่งสกอตแลนด์, คาร์เนกีฮีโร่ ฟันด์, คาร์เนกี เมลลอน ยูนิเวอร์ซิตี้ และ เดอะ คาร์เนกี มิวเซียม ออฟ พิตส์เบิร์ก, นอกจากนี้ยังมีการกุศลด้านอื่น ๆ อีกมากชีวิตและประวัติของเขามักจะได้รับการกล่าวขานถึงความจริงที่ว่าเป็น "ที่สุดของความรวย".
............เขาได้ฝากเคล็ดลับในการใช้ชีวิตไว้ว่า…
"จงใช้เวลาสามส่วนแรกของชีวิตเพื่อศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุดใช้สามส่วนถัดมาเพื่อหาเงินให้ได้มากที่สุด และจงใช้เวลาสามส่วนสุดท้ายเพื่อใช้เงินทั้งหมดช่วยเหลือผู้อื่น""
"ผมขอรับรายได้ปีละไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์ และแม้จะมีเงินเกินจากนี้ ผมก็จะไม่พยายามใช้เพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง แต่จะขอใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านมนุษยธรรมเท่านั้น"
...........เคล็ดลับการใช้ชีวิตของเขาและความเสียสละเพื่อการกุศล คือแรงบันดาลใจ เป็นต้นแบบของเยาวชนรุ่นต่อมา และเป็นต้นแบบของมหาเศรษฐีผู้ใจบุญในปัจจุบันอีกหลายคน
...........เขามักถูกจัดให้เป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อันดับสอง รองจากจอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์ ในช่วงบั้นปลายชีวิต มูลค่าทรัพย์สินรวมของคาร์เนกีอยู่ที่ 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ปี ค.ศ.1919 ที่เลน๊อกซ์ แมสซาชูเสตส์ สหรัฐอเมริกา รวมอายุได้ 83 ปี และเมื่อเขาเสียชีวิตแล้วมูลค่าทรัพย์สินส่วนตัวได้ลดลงเหลือ 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากการบริจาคเงิน มูลค่าแท้จริงประเมินไว้ระหว่าง 75,000 ล้าน ถึง 297,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อปรับกับเงินเฟ้อเมื่อปลายคริสต์ทศวรรษ 2000 แล้วคำกล่าวหรือวลีเด็ดที่กล่าวถึงแต่เบื้องต้นนั้น คือ...
"เมื่อผมอายุมากขึ้น ผมก็ไม่ค่อยใส่ใจกับสิ่งที่ผู้คนพูด แต่ผมคอยดู การกระทำของพวกเขาเท่านั้น"
...
อ้างอิง
http://en.wikipedia.org/wiki/Andrew_Carnegie
…
ขอบคุณทุกท่านที่สนใจ...ขอบคุณโกทูโนว์
ความเห็น (5)
-สวัสดีครับ
-ชอบวลีเด็ดส่งท้าย""เมื่อผมอายุมากขึ้น ผมก็ไม่ค่อยใส่ใจกับสิ่งที่ผู้คนพูด แต่ผมคอยดู การกระทำของพวกเขาเท่านั้น"
-ขอบคุณครับ..
ขอขอบคุณครู อาจารย์ คุณหมอ กัลยาณมิตรที่เคารพรักทุกท่านต่อไปมากนะครับ...
โอ๋-อโณ
เพชรน้ำหนึ่ง
หยั่งราก ฝากใบ
นงนาท สนธิสุวรรณ
Dr. Ple
Dr. Bancha Wichyanuwat
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/587648
ขอบคุณคุณ เพชรน้ำหนึ่ง
กัลยาณมิตรที่น่ารักด้วยดีเสมอมานะครับ