วารสาร Science ฉบับวันที่ ๑๙ เมษายน๒๕๕๖ ลงบทความเรื่อง Generating Improvement Through Research and Development in Education Systemsเขียนโดย M. Suzanne Donovan, Executive Director, Strategic Education Research Partnership Institute
อ่านแล้วตกใจ ว่าวงการวิจัยการศึกษาอเมริกันหลงทางถึงเพียงนี้ คือนักวิจัยการศึกษาหลงวิจัย หาความรู้เพื่อพัฒนาระบบการศึกษา แล้วหวังว่าจะมีการนำความรู้นั้นไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเอาเข้าจริง มีการนำไปใช้น้อยมาก ที่นำไปใช้ ก็มักไม่ได้ผล เพราะตอนวิจัยมีการควบคุมตัวแปร ตอนเอาไปใช้ มีตัวแปรมากมาย
บทความบอกว่ามี "knowing – doing gap" ซึ่งในวงการสุขภาพเรียกว่า "know – do gap" และรู้กันมากว่าสิบปี ดัง presentation นี้ บทความนี้บอกว่า ในวงวิชาการที่ตระหนักในปัญหานี้คือ วงวิชาการการบริหารธุรกิจ วงการสุขภาพ และวงการการศึกษา
เขาบอกว่า วิจัยการศึกษาต้องเริ่มจากห้องเรียน จากกิจกรรมของเด็กกับครู แล้วจึงรวบรวมวิเคราะห์สังเคราะห์เป็นภาพใหญ่ เป็นนโยบายให้หน่วยงานและกระทรวงถือปฏิบัติ คือต้องย้อนทาง หรือสวนทางอย่างที่ทำกันอยู่ในปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกา
และในประเทศไทย
วิจารณ์ พานิช
๑๘ ก.พ. ๕๘
When there is a will then there is a way (to make things happen).
We have not seen Thailand governments make use of scientific knowledge and instruments Thailand has accumulated yet. Let have a scienceand technology advisors panel in government!