ช่วงเช้าวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ มูลนิธิสยามกัมมาจล จัดการประชุมระดมสมอง เรื่องเวทีพูนพลังครู ผลการประชุมสรุปได้ว่า ควรมี ๒ วง หรือ ๒ เวที คือเวทีภาคี(พูนพลังครู) กับเวที(พูนพลัง)ครู โดยครูที่จะเชิญ มาเป็นวิทยากรในเวที คือครูที่มีคุณสมบัติ ๒ อย่าง (๑) รักศิษย์ เอาใจใส่ศิษย์ (๒) จัดการเรียนรู้ถูกต้องตามยุคสมัย (ในศตวรรษที่ ๒๑) คือไม่สอนแบบถ่ายทอดความรู้ แต่จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning แต่หลังการประชุม ตกกลางคืน ดร. เจือจันทร์กับ ดร. สุธีระ อีเมล์คุยกันว่า ต้องมีข้อที่สาม คือ (๓) มีความรู้ด้านเนื้อหาวิชาที่สอนดีในระดับที่เอามาใช้วางแผนการสอนแบบ backward design โดยขอยกคำของ ดร. สุธีระมาโดยตรง ดังนี้
เรื่องที่ครูต้องรู้สาระที่สอนนั้นมีความสำคัญมากครับ เพราะ
๑ ทำให้ครูสามารถอธิบายได้อย่างลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ เช่นการประยุกต์ความรู้ เด็กก็จะเข้าใจจากความเชื่อมโยงการใช้ในชีวิตจริง
๒ ทำให้ครูออกแบบ backward การสอนได้ เพราะครูรู้ปลายทางและเส้นทางการเข้าใจจากต้นทางถึงปลายทางแล้ว
๓ ทำให้ครูสามารถใช้เทคนิค "ถามคือสอน" ได้ เพราะครูจะวิเคราะห์คำตอบของนักเรียนแล้วตั้งคำถามต่อไปได้เรื่อยๆ
คนจุดชนวนเรื่องความสำคัญของเนื้อหา คือ ดร. เจือจันทร์ ดังนี้
จากประสบการณ์การลงพื้นที่ คิดว่า ครูต้องรักเด็กและมีความรู้พื้นฐานของสาระที่จะสอน เช่น ครูสอนภาษาอังกฤษ ครูวิทยาศาสตร์ ต้องรู้ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ อย่างดีพอจะสอนได้ถูกต้องไม่ใช่เอาครูพละ มาสอนภาษาอังกฤษ /วิทย์ ร่วมกับทักษะด้าน pedagogy สอนเป็น และมีคุณลักษณะอื่นๆ เช่นรักเด็ก มีวินัย สังเกตว่า วันนี้ ข้อมูลที่ได้จาก floor วันนี้ พูดในมิติ ของ pedagogy และคุณลักษณะครู มาก ซึ่งเป็นความเห็นที่ดูสนับสนุนกันดี แต่ครูไทยอีกมากที่ยังมีปัญหาด้านเนื้อหาด้วย ตย. ครูสอบตกในวิชาระดับที่สอน ผลงานครูด้านภาษาอังกฤษ มีผิด grammar (พื้นฐาน) มาก แม้แต่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยเอง
เรียนมาเป็นข้อสังเกตค่ะ
สรุปว่า ครูที่จะเชิญมาขึ้นแลกเปลี่ยนบนเวทีพูนพลังครู คือครูที่
๑.รักศิษย์ เอาใจใส่ศิษย์ ทั้งด้านการเรียนและลักษณะนิสัย เป็นตัวอย่างที่ดีในด้านลักษณะนิสัย
๒.จัดการเรียนรู้ถูกต้องตามยุคสมัย คือแบบ active learning มีทักษะในการจัดการเรียนรู้
๓.มีพื้นความรู้ด้านเนื้อหาวิชาที่สอน ดีพอที่จะจัดการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง
รายละเอียดของการประชุมระดมสมอง อ่านได้ ที่นี่
เวทีวงใหญ่
เวทีกลุ่มย่อย
โยงเข้าหากลไกรัฐ
เพื่อเห็นหน้าเห็นตาภาคี
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ก.พ. ๕๘
ครูดีที่มีคุณสมบัติดังกล่าวก็คือ ครูเพื่อศิษย์นั่นเอง..... สังเกตว่า คุณสมบัติทั้ง ๓ ข้อ ไม่พอที่จะเจริญเติบโตในระบบวิทยฐานะในปัจจุบัน.... แต่ครูเพื่อศิษย์ก็ไม่ยึดข้อนั้นเป็นอันแรกอยู่แล้ว....