ชีวิตที่พอเพียง : ๒๓๔๙. ดื่มด่ำวัฒนธรรมเมืองน่าน

ผมร่วมไปกับคณะแกนนำ R2R ประเทศไทย เดินทางไปลงพื้นที่ศึกษาความสำเร็จที่น่าชื่นชมที่น่าน พร้อมกับวางแผนยุทธศาสตร์ดำเนินการ ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นเวลาที่ตรงกับงาน "กระซิบรักที่เมืองน่าน ๑๖ - ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘" พอดี แถมยังเป็นช่วงที่ดอกพญาเสือโคร่งบานอีกด้วย

เดินทางครั้งนี้ จึงได้ทั้งปัญญา และสุนทรียะ ที่เป็นทั้งสุนทรียะจากศิลปะ และจากธรรมชาติ แถมด้วยความตื่นตาตื่นใจ drone ถ่ายภาพ ของ อ. หมอเชิดชัย

วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๘

เช้าวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๘ วิ่งออกกำลังบริเวณศศิดารา รีสอร์ท ในบรรยากาศคล้ายเมื่อ ๒ ปีก่อน ที่บันทึกไว้ ที่นี่ แต่วันนี้อุณหภูมิ ๑๗ องศา

อาหารเที่ยงที่ศศิดารา รีสอร์ท ที่พิเศษ และผมกินเป็นครั้งแรกในชีวิตคือ ไก่ทอดมะแขว่น หอมอร่อยดี และกินแล้วลิ้นชา

หลังจบการประชุม เราได้ไปชมวัด ๓ วัด คือ วัดพระธาตุเขาน้อย อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม นอกจาก ชมวัดและวิวเมืองน่านจากเขาน้อยแล้ว เราสนุกกับการขับ drone ถ่ายภาพของ อ. หมอเชิดชัย

กลับจากวัดเขาน้อย เรานั่งรถรางนำเที่ยว ข้ามแม่น้ำน่านไปตามถนนที่ผ่านทุ่งนา ไปอำเภอภูเพียง ไปไหว้พระที่ วัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นวัดใหญ่ มีคนไปไหว้พระกันมาก เป็นครั้งแรกที่ผมไปวัดนี้

จากนั้น เข้าเมืองไปที่ วัดภูมินทร์ ซึ่งมีโบสถ์จตุรมุขอันงดงาม ภายในโบสถ์มี จิตรกรรมฝาผนัง ที่เลื่องลือ และผมไปพบภาพทีเด็ดกว่า ภาพกระซิบรัก คือภาพ "ปากว่ามือถึง" (ผมตั้งเอง) และมีคนพบภาพ "หนุ่มรักหนุ่ม" ด้วย พวกเราช่างสังเกตจริงๆ ผมบันทึกเรื่องตามเสด็จไปชมวัดภูมินทร์เมื่อสองปีเศษไว้ ที่นี่ จำได้ว่าบรรยากาศต่างจากวันนี้โดยสิ้นเชิง เพราะตอนนั้น เป็นการรับเสด็จเจ้านาย และวันนี้เป็นเทศกาล ส่งเสริมการท่องเที่ยว เราไปพบคนนั่งกินขันโตกกันเต็มข่วงเมืองน่าน รวมทั้งมีงานออกร้าน คนเดินชม กันขวักไขว่

บทความนี้ บอกว่า ภาพ "ปากว่ามือถึง" นั้น เป็นเรื่องชาดก พระเจ้าคันทนเข้าหานางสีไว และอธิบายเรื่อง จิตรกรรมฝานังในโบสถ์วัดภูมินทร์ได้ความรู้มาก และเมื่อทบทวนบันทึกที่ผม ตามเสด็จน่านเมื่อสองปีเศษ มาแล้ว ก็พบภาพนี้ที่หอศิลป์ริมน่านด้วย และนำมาลงไว้ ที่นี่

หลังอาหารเย็น เราไปกินขนมหวานที่ ร้านขนมหวานป้านิ่ม อร่อยสมคำเล่าลือ และคนเข้าคิวยาวมาก พวกเราได้สิทธิพิเศษจากบารมีของโรงพยาบาลน่าน ไม่ต้องเข้าคิว แต่ก็รอนานทีเดียว ผมกินบัวลอยไข่หวาน

วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘

ขี่จักรยานชมเมือง

เรานัดกันขี่จักรยานชมเมืองเวลา ๖.๓๐ น. ใช้จักรยานของโรงแรม ซึ่งผมต้องเปลี่ยนถึง ๔ คัน จึงได้คันที่ไม่ชำรุด แต่เวลาขี่ก็ยังมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดตลอดเวลา หัวหน้าทีมคือ นพ. ธนชัย พนาวุฒิ โรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งออกไปวิ่งจนเหงื่อโซมมาก่อนแล้ว จึงมาขี่จักรยานไปด้วยกันตามนัด เราไปด้วยกัน ๔ คน ออกไปที่วัดศรีพันต้น ที่โบสถ์สีทองเหลืองอร่าม สองข้างบันไดขึ้นโบสถ์เป็นนาคเจ็ดเศียรที่งดงามอ่อนช้อย

แล้วออกไปที่พิพิธภัณฑ์ สาวๆ สองคนต้องการไปถ่ายรูปที่ทางเดิน ที่มีต้นลั่นทมปลูกเป็นแถว สองข้าง ทางเดิน อยู่ตรงข้ามถนนกับพระเจดีย์วัดช้างค้ำ เราไปช่วงที่ตำรวจปิดทางจราจร อำนวยความสะดวกให้แก่ การวิ่งมาราธอน ที่มีคนบอกว่าจัดโดยเจ้าสัวปั้น จัดเป็นครั้งที่ ๕ แล้ว และได้เห็นถนนทาสี เพื่อบอกว่าฝั่งหนึ่ง เป็นเมืองเก่า อีกฝั่งเป็นเมืองใหม่ แต่มีชาวบ้านคัดค้านมาก ว่าทำให้ถนนลื่น อันตราย และมีข้อสงสัยเรื่อง คอร์รัปชั่น

ในเวลาจำกัด เราได้แวะ ๒ ที่เท่านั้น

1 ไก่ทอดมะแขว่น

2 วัดพระธาตุเขาน้อย

พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน

หลวงพ่อทันใจ

พระประธานในโบสถ์ แบบพม่า

ทางเข้าวัดพระธาตุแช่แห้ง ใหญ่โตกว้างขวาง

มีพญานาคมหึมา ๒ ตัว ต้อนรับ

เห็นองค์พระธาตุอยู่หลังแมกไม้

คนนิยมไปเดินเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ

พระอุโบสถ

พระประธาน

ข่วงเมืองน่าน หน้าวัดภูมินทร์ มีงานออกร้าน

และงานขันโตก

ภาพวงมโหรี ที่จิตรกรรมฝาผนัง วัดภูมินทร์

ถนนคนเดินในงานกระซิบรักที่น่าน ๑๖ - ๑๘ ม.ค. ๕๘

ขนมหวานร้านป้านิ่มคิวยาว

สิงห์จักรยานที่หน้าวัดศรีพันต้น


อุโบสถสีทองอร่ามตา


พญานาค ๗ เศียรคู่เฝ้าโบสถ์

พระประธาน

สิงห์จักรยานที่ลู่ลั่นทม


วัดพระธาตุช้างค้ำ

drone บินขึ้นไปถ่ายภาพ



ในมือคนขับ

วิจารณ์ พานิช

๑๙ ม.ค. ๕๘

[ขจิต ฝอยทอง]

วัดและสถานที่สวยมากเลยครับ

มี ผอ สรพ ไปด้วยนะครับ