ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข
พบว่าคนไทยป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิตกว่า 60,000 คนต่อปี
ส่วนทั่วโลกมีรายงานการเสียชีวิตปีละเกือบ 8 ล้านคน
และคาดว่าอีก 21 ปีจะมีผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นปีละ 24 ล้านคน
นับเป็นความท้าทายในวงการแพทย์ทั่วโลกในการคิดค้นวิทยาการใหม่ ๆ เพื่อรักษามะเร็งแต่ละด้าน ขณะเดียวกันหลายประเทศได้มีโรงพยาบาลเฉพาะทางรักษามะเร็งโดยตรง โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า เมืองกวางโจว ประเทศจีน เป็นอีกทางเลือกของการรักษามะเร็ง ที่ก่อตั้งมานับ 10 ปีแล้ว มีผู้ป่วยมะเร็ง 50 ประเทศทั่วโลกเดินทางมา และผู้ป่วยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้ป่วยในประเทศกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็น รพ.ที่มีสถิติผู้ป่วยต่างชาติมารักษามากที่สุดในประเทศจีน
รูปแบบการรักษาหลักที่ทางโรงพยาบาลให้กับคนไข้นั้น
เป็นแบบ 3C+P'3C หมายถึง CSA (ablation Cryosurgical)
การรักษาโดยผ่าตัดด้วยความเย็น CMI (Cancer Micro-vascular)
การให้ยาผ่านทางสายยางไปยังมะเร็งโดยตรง
และ CIC(Combined Immunotherapy for Cancer) การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้
กว่า 10 ปี ได้รักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
ที่ไม่สามารถผ่าตัดเอาเนื้องอกออกได้เป็นจำนวนมาก
ผู้ป่วยเหล่านี้มีอัตราการรอดตาย 3 ปี และ 5 ปี
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับ 52% และ 28.2%
สำหรับโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายอัตราการรอดตาย 1 ปี คือ 68%
และอัตราการรอดตาย 3 ปี คือ 34%"
ศาสตราจารย์สวี เค่อ ผู้อำนวยการใหญ่โรงพยาบาลฟูด้า ให้ข้อมูล
นั่นหมายความว่าผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายบางคน เมื่อมารักษาที่นี่แล้วอาจจะยืดชีวิตอยู่ได้ต่อหรือจบชีวิตลง
ไม่ได้มีสิ่งใดมารับประกัน แต่ทาง รพ.ฟูด้าได้เก็บสถิติการรักษาไว้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ตัดสินใจ
ศาสตราจารย์ นพ.มู่เฟิง ผู้อำนวยการบริหารโรงพยาบาลฟูด้า เปิดเผยว่า
ขณะนี้โรงพยาบาลฟูด้ากวางโจว มีโครงการรักษามะเร็งฟรีให้กับผู้ป่วยยากไร้ด้วยวิธีวัคซีนสเต็มเซลล์ป้องกันมะเร็ง (Vaccine Stem Cell Anti Cancer) เปิดใอกาสให้คนไทยเข้าร่วมโครงการจำนวน 100 ราย เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสครบรอบ 87 พรรษา 5 ธันวามหาราช
เพราะการรักษาโรคมะเร็งในระยะต่าง ๆ นั้นแม้จะรักษาให้หายขาดนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งซ้ำ เซลล์มะเร็งอาจเหลืออยู่ในเลือด ไขกระดูก เนื้อเยื่อ มหาวิทยาลัยมิชิแกนสหรัฐอเมริกา คิดค้นการป้องกันการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำในสัตว์ทดลองนานถึง 20 ปี หลังจากนั้นได้ทดลองวัคซีนเซลล์มะเร็งต้นกำเนิดในมนุษย์ ให้กับอาสาสมัครผู้ป่วยเป็นมะเร็งผลปรากฏว่ามีอาการดีขึ้น
วัคซีนผลิตขึ้นจากก้อนเนื้อมะเร็งของผู้ป่วยแล้วนำมาผ่านกระบวนการวิทยาศาสตร์คัดแยกเซลล์ต้นกำเนิด และผลิตเป็นวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนำมาฉีดให้กับผู้ป่วยเพื่อเป็นภูมิต้านทาน โดยโครงการนี้กำหนดฉีดให้กับผู้ป่วยที่หายจากการรักษามะเร็ง ต่าง ๆ ได้แก่
1. มะเร็งเต้านม 2. โพรงจมูก 3. ปอด 4. ตับ 5. ช่องปาก 6. เม็ดเลือด และสมอง
แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินจากทีมแพทย์ของโรงพยาบาลฟูด้าก่อนการรับวัคซีน
ซึ่งจะปิดโครงการในปลายปี 2558 (ดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.fudacancerthailand.com)
นายสรายุทธ ขาวละเอียด ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย วัย 64 ปี เล่าว่า หากผ่านการวินิจฉัยจากหมอว่าเลือดสามารถเข้าโครงการสเต็มเซลล์ได้ก็พร้อมที่จะรับวัคซีนดังกล่าว การมารักษาที่ฟูด้าได้ข้อมูลมาจากอินเทอร์เน็ตแและได้พูดคุยกับคนไทยที่มารักษาที่นี่จึงตัดสินใจมา ครั้งแรกรักษาด้วยไอเย็นให้คีโม มองว่าที่นี่เหมือนกับบ้านเรา รพ.เอกชนคนตะวันออกกลางมารักษา เราก็ดูแลเขาอย่างดี ถ้าเทียบเกรด รพ.ในประเทศไทยเหนือกว่ามาก ด้านความสะอาดความประณีต ที่นี่เทียบได้กับโรงแรมระดับ 3 แต่ในประเทศไทย รพ.เอกชนเทียบได้กับ รร. 5 ดาว
มีความรู้สึกว่าหมอและพยาบาลที่นี่มีความตั้งใจในการรักษาสูง จะหวังว่าทุกคนจะหายจากมะเร็ง 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มี 80 : 20 ถือว่าเยอะแล้ว แต่ขอเราอย่าอยู่ 20 เลย เพราะโรคนี้โอกาสที่จะทำลายชีวิตนั้นสูง หากรอดไปมีชีวิตต่อไป 3-5 ปี ถือว่าโอเคแล้ว ยังมีเวลาไปจัดการกับชีวิต
ด้าน นางธัญลดี พานิชการชิการสกุล ผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอายุ 51 ปี รู้ว่าเป็นมะเร็งมาตั้งแต่ปี 53 และตัดสินใจมารักษาที่ฟูด้าเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้รักษาอยู่ที่ รพ.เอกชนและ รพ.ของรัฐ คีโมไป 13 ครั้ง และหยุดการรักษาในปี 55 เพราะหมอบอกว่าดื้อยา เมื่อส่งผลการตรวจให้พิจารณา
หมออธิบายให้อย่างละเอียดว่ามะเร็งของตัวเองนั้นเป็นสายพันธุ์ที่นานวันจะอ่อนแอลงมีโอกาสที่จะหาย ต้องรักษาด้วยคีโมและทำทีซีสแกน ฝังแร่ ตอนนี้ผลการรักษายาตอบสนองดีน้ำหนักเพิ่มซึ่งการรักษาครั้งสุดท้ายสิ้นสุด ธ.ค. ปีนี้ เมื่อรักษาจบแล้วจะติดตามผลภายใน 3 เดือน
เมื่อมีวิทยาการรักษามะเร็งแบบใหม่เกิดขึ้นจึงเป็นความหวัง
แต่ตัวผู้ป่วยและครอบครัวต้องช่วยกันศึกษาหาข้อมูลทางวิชาการอย่างรอบด้านก่อนการตัดสินใจ
( ขอบคุณ วัคซีนป้องกันมะเร็งกลับมาซ้ำจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์คอลัมน์ หมายเหตุประชาชน
และ http://www.dailynews.co.th/Content/Article/)
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันจันทร์ที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๕๗
ไม่มีความเห็น