การท่องไปในเมืองเก่าสงขลาเดิมนั้น เป็นประวัติศาสตร์คืนชีพในทางจิตวิญญาณ ขณะที่สองเท้าก้าวไปในวัดเขาน้อยปัจจุบัน พลันก็ให้นึกย้อนถึงอดีตเมื่อครั้งคนโบราณอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตราตรึงจิตใจ เมื่อเราผ่านผู้คนที่กำลังมาออรอกันเกี่ยวกับทำพิธีกรรมตามความเชื่อ มองเห็นด้านหน้ากุฎีมีสิ่งของนำมาสังเวยก้อนหินที่ปักธูปมีควันคลุกกรุ่นอยู่นั้น มองไปรอบ ๆ มีผู้คนทั้งหญิงชายราว 30 คนได้ นั่งรอเพื่อเข้าไปทำพิธีอะไรสักอย่าง เราเดินผ่านกลุ่มคนเหล่านั้นไป ด้านซ้ายมือมีรูปปั้นเทพเจ้าแห่งงูใหญ่ พอเดินไปหน่อยเป็นทางขึ้นสู่ขุนเขาน้อยตรงกลางมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติเราทำการสักการะบูชาแล้วก็ขึ้นไปยังยอดเขามีสายฝนตกลงมาปรอย ๆ เส้นทางเดินเปียกแฉะมีฝูงยุงป่าเยอะมากไล่ตามหลังเราไปด้วย
บนยอดเขาน้อยสิ่งที่เห็นคือซากฐานสี่เหลี่ยมข้างในกลวงไร้ทรัพย์สมบัติใด ๆ ทราบว่าเดิมเป็นเจดีย์องค์ใหญ่มีฐานสี่เหลี่ยมกว้างในแต่ละด้าน 20 เมตรถือว่าใหญ่มากเป็นศิลปะสมัยคุปตะ ของชมพูทวีปอันไกลโพ้น เราไหว้เจ้าที่เจ้าทางขออนุญาตขึ้นไปสำรวจพิจารณานึกภาพหลับตาเห็นความงามในจินตนาการมาก บ่งบอกถึงความศรัทธาของคนสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี
เขาน้อยถือว่าเป็นจุดเด่นในสมัยโบราณถือว่าพระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้ามาในคาบสมุทรแห่งนี้นมนามมาแล้ว
แล้วเราก็เลาะเลียบทะเลสาบสงขลาฝั่งหมู่บ้านชาวประมงไปเห็นชุมชนที่เป็นพหุวัฒนธรรม กล่าวคือมีวัดโบราณทางพระพุทธศาสนาอยู่ในชุมชนชาวประมงที่คนส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามและมีที่ฝังศพชาวจีนอยู่เรียงรายไปตามเชิงเขาอีกด้านหนึ่งคือทะเลสาบสงขลาแหล่งอาหารเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของชุมชนท้องถิ่นนั้นแล
ขอบคุณอาจารย์มากนะครับ
สวัสดีครับ คุณแสงแห่งความดี
ชื่อนี้สื่ออะไรในทางที่เป็นกุศลดีแท้นะครับ
ยังสบายดีอยู่นะครับ อิ อิ
สวัสดีครับ คุณเผชรน้ำหนึ่ง
ภาพสวยสะอาดตา พาสะอาดใจนะครับ ว่าง ๆ เดี๋ยวเข้าไปอ่านนะครับ อิ อิ