คุณคือใคร?


นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เข้ามาเขียนบันทึกหรืออนุทินใดๆ เลย ช่วงเวลาที่ห่างหายไป  เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างจนทำให้เส้นทางชีวิตแบ่งซอย ทางเบี่ยง ทางเลี่ยง ทางโค้ง  ซึ่งไม่ใช่ทางตรงที่ขับรถไปแล้วถึงจุดหมายเลย  แต่จุดหมายก็คือจุดหมาย ใช่ว่าเราจะไปถึงวันนี้วันพรุ่ง  ระหว่างทางควรจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์และไม่ลืมเป็นผู้สร้างประสบการณ์นั้นให้ผู้อื่นมาเก็บเกี่ยวเช่นกัน ผมก็อารัมภบทมายืดยาว  ขอเล่าเลยละกัน

รุ่นพี่มาทานข้าวที่ร้านผม รุ่นพี่ที่ว่านี้เคยร่วมงานกันแต่คนละฝ่ายแต่เราก็คุ้นเคยกันดี คุยกันถามไถ่กันจนกินไปถึงเนื้องานที่ผมและทีมกำลังทำอยู่ ผมทำงานพัฒนาเครือข่ายวิชาการซึ่งเกี่ยวข้องกับนักเรียน ครู ศึกษานิเทศก์ และบุคลากรทางการศึกษา เรา...ศูนย์พัฒนาวิชาการเพื่อการเรียนรู้ สำนักศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่มีความเชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่การศึกษาจะต้องเปลี่ยน เปลี่ยนจากทอล์คแอนด์ชอล์ค จากบอกสอนป้อนสั่ง จากครูเป็นศูนย์กลาง เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Learning by Doing) การเรียนรู้บนฐานความจริง ปัญหาจริง ชีวิตจริง ที่ไม่ได้จากตำรากระดาษ ห้องเรียนสี่เหลี่ยมๆ กระดานมิติเดียว ที่ไม่แม้แต่จะใกล้คำว่า 3 มิติด้วยซ้ำ และเราโชคดีที่ได้รู้จัก "หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา" ซึ่งไม่ต่างจากการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของฝรั่งเลย 

"งานที่พวกคุณทำมันเป็นนามธรรมเกินไป..." ผมทราบดี แต่ประโยคครั้งนี้มันสะกิดใจผมมากกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน ความพยายามของเรา 3 ปี ที่ผ่านมาแทบจะจับต้องไม่ได้เลยว่า ทำแล้วได้อะไร เราไปทำงาน เสร็จจากงานก็มา AAR (After Action Review) กัน คุยกันถึงความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ สิ่งที่ประทับใจ ความผิดพลาด สิ่งที่ต้องปรับและแก้ไข รวมถึงประเมินความพึงพอใจของตนเองที่มีต่องาน มันเป็นผลจากการประเมินจริงของคนที่ทำงาน คลุกงานด้วยตนเอง เราจึงประเมินด้วยความจริง ไม่เสแสร้ง ปิดบัง หรือกังวลว่า ถ้าผลประเมินในการจัดงานในครั้งนี้ต่ำ หมายถึง เราแย่ เราด้อยคุณภาพ งานอื่นอาจจะใช่ แต่งานเราไม่ใช่ งานที่เราทำเน้นการสร้างแรงบันดาลใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการสอนเดิมๆ สู่การสอนแบบใหม่ (ใหม่ในประเทศเราเท่านั้นนะครับ ...ฮาาาา) ครูจะต้องมีทัศนคติที่ดี เคารพและบูชา ในวิชาชีพของตน ครูจะต้องมีความเชื่อว่า "เราสามารถเปลี่ยนแปลง...ได้ เปลี่ยนแปลงโลกได้ หรือถ้าไม่ได้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ หรือถ้ายังใหญ่เกินไป เราสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงเด็ก (นักเรียน) ได้ จนถึง "เราสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้" เราต้องการเพียงแค่เท่านี้จริงๆ ครับ แค่นี้?! แต่มันยากครับ ผมเพิ่งจะมีประสบการณ์เพียงแค่ 3 ปี จะไปรู้อะไร นั่นสิครับ ประสบการณ์แค่นี้จัดกิจกรรม/โครงการ เฉลี่ยปีละไม่ถึง 15 กิจกรรมด้วยซ้ำ แต่ทำไมมีความคาดหวังมากมายขนาดนี้ ทำไมผมต้องการให้ครูปรับนู่น นี่ นั่น ซึ่งผลสุดท้าย เขามองว่า เรามาเล่นขายของ อย่างการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ก็มีคำถามว่า พวกคุณเอาอะไรมาวัดว่าเด็กนั้นนำหลักนี้มาใช้..ไม่รู้!!! จริงครับ ผมไม่รู้หรอกว่าเด็กเหล่านั้นนำหลักนี้ไปใช้หรือเปล่า แค่เราสัมผัสได้จากการคุย ซักถาม ในโรงเรียนมีนักเรียนพันกว่าคน มีเพียงคนเดียวที่นำหลักนี้ไปใช้จริงและชีวิตเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้เราก็หัวใจพองโต มองทะลุไปถึงอนาคต ครับ มันเป็นความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมพยายามบอกเด็กว่า อย่าไปทำความเข้าใจ 3 ห่วง 2 เงื่อนไขมาก อย่าคิดว่าเป็นทฤษฎี ให้มองว่า เป็นเหมือนหลักธรรมคำสอนหนึ่ง ไม่ถือศีลนี้ก็ไม่ผิด แต่เมื่อไหร่ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ก็เหมือนได้ถือศีล 5 ไปด้วย

ผมยอมรับว่าจากการสนมนากับรุ่นพี่ครั้งนั้นทำให้ผมท้อและสิ้นหวัง ยิ่งมองย้อนกลับไป คุณคือใคร? ลูกจ้างคนหนึ่งในมหาวิทยาลัย ความมั่นคงคุณมีไหม? ไม่มีครับ และงานที่คุณทำมีใครๆด้เห็นไหมในเมื่อมันเป็นนามธรรม... ผมท้อเลยครับ แต่แค่แว้บเดียวเท่านั้น ผมนึกถึงโรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียนร้อยกว่าคน มีครูเกือบ 15 คน ที่แววตาสิ้นหวัง เบื่อหน่ายกับการสอน และผมเห็นแววตาเด็กเหล่านั้น ผมอยากช่วย ผมอยากทำ อยากให้เขารู้ว่า เขามีค่านะ เขาไม่ใช่เด็กเหลือเลือก เขาสามารถพัฒนาได้ในทางที่เขาถนัด ผมอยากบอกคุณครูโรงเรียนนั้นมากว่า คุณครูครับ นี่เป็นโอกาสดีที่คุณครูจะได้ลองปรับเปลี่ยนการสอน เป็นโอกาสดีที่ครูจะได้ดูแลเด็กในอัตราที่เหมาะสม ไม่ใช่ 1:50 (ครู 1 คน นักเรียน 50 คน) เหมือนในเมือง ผมเห็นความรู้สึกตนเองและสัมผัสได้ว่า เฮ้ย แกอย่าเพิ่งท้อสิ เห็นไหมๆ ที่ครูเป็นแบบนี้เพราะคงเป็นเหมือนแกตอนนี้ คือท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ--ใช่ คำตอบผุดมาเลยว่า ผมคือคนที่สร้างแรงบันดาลใจ ผมเป็นคนที่คอยกระตุ้นให้ครู นักเรียน อยากเปลี่ยนแปลงและทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ใช่เลย ผมเป็นคนคนนั้น ผมรู้คำตอบแล้ว ผมดีใจมากที่รู้ว่าผมคือใคร อย่างน้อย ผมก็สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดผมได้ และผมมีความเชื่อครับ เชื่อว่าเราจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ เหมือนกับ "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว" แต่ตอนนี้ผมขอ "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงคุณครูโรงเรียนนั้นก่อนครับ"

คำสำคัญ (Tags): #คุณคือใคร#ครู
หมายเลขบันทึก: 579133เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2014 16:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม 2014 20:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

"..แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน ลูกขอตั้งปณิธาน สานสิ่งที่พ่อสร้างไว้ จะขอเดินตามรอยเท้าพ่อไป เหนื่อยยากเพียงไหน ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง...." 

บางครั้งถ้อยคำเพียงบางประโยค ก็ทำให้เรามีพลังมากมายออกจากใจ ... คล้ายจะ "ระเบิดออกมาจากข้างใน"...

ใครคือคุณ หรือ คุณคือใคร? ...  "ระเบิดออกมาจากข้างใน" เท่านั้นที่จำทำให้ชีวิตมีคุณค่าอย่างแท้จริง ...

.....  แต่ มันก็ไม่แน่..... มันก็เป็น "เช่นนั้นเอง"

อ่านแล้วรู้สึกมีเพื่อนแท้ครับ....  เพื่อนร่วมอุดมการณ์...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท