มโนธรรมของขโมย


กลางดึกขโมยคนหนึ่งแอบย่องเข้าบ้านพักหลังหนึ่ง ในขณะที่กำลังจะลงมือปฎิบัติการนั่นเอง...พลันได้มองเห็นมียายแก่ๆคนหนึ่งที่นั่งซึมเศร้าอยู่ จึงเป็นที่หน้าจะยิ้มย่องของหัวขโมยอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเอง ยายแก่ก็ปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมา และหยิบกรรไกรที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาหมายจะทิ่มแทงคอตัวเอง..."หยุดนะ" หัวขโมยคนนั้นร้องออกมา อย่ างลืมตัว พร้อมกับกระโจนตัวเข้าไปขวางและแย่งกรรไกรออกมาทันที "ให้ฉันตายเถิด" ......ยายเข้าไปแย่งกรรไกรกลับคืนมาด้วยความชุลมุน มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันก็ได้นี่..

ทำไมต้องคิดสั้นอย่างนี้ด้วยล่ะ ? เสียงเอะอะโวยวายของคนทั้งสองดังขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ชาวบ้านในละแวกได้ยินเสียงร้อง แห่กันมาดูกันยกใหญ่ ที่แท้สามีคู่ชีวิตของยายจากไปและลูกที่มีก็ไม่กตัญญู ตัวเองก็เจ็บป่วยเรื้องรังมานานรู้สึกรันทดเศร้า อยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียที หลังจากที่ชาวบ้านแห่กันตามกันมา พูดปลอบขวัญให้กำลังใจอยู่พักใหญ่ จึงทำให้ยายคลายความเศร้าที่อยากตายลง และแล้ว ทุกคนก็เริ่มเบนความสนใจมาที่ขโมยรายนี้ "ต้องขอบคุณ คุณจริงๆเลยนะ " ถ้าไม่ได้คุณช่วย คงเกิดเรื่องหน้าเศร้าขึ้นแน่นอนเลย ...ไม่เป็นไรหรอกครับ ช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่มีอะไรหน้าชื่นชม หน้าขอบอกขอบใจหรอก ขโมยตอบ

"แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ? ผมชื่อเฉินครับ... เงียบกันไปสักพัก ฉับพลันความเงียบนั้นก็ถูกทำลายด้วยคำถามหนึ่ง..."อ้อ..ลืมไป" คุณเฉินครับ แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่? เข้าช่วยชีวิตยายได้อย่างไร?.....

สายตาหลายสิบคู่จ้องเขม็งเป็นที่หมายปองคือคุณเฉิน "แย่แล้วเรา? ขโมยจนปัญญาที่จะปิดบังต่อไป จึงยอมรับเผยความจริงต่อหน้าชาวบ้านที่ขึ้นมา ...ผมแอบปีนกำแพงขึ้นมา ตั้งใจจะมาขโมยสิ่งของต่างๆในบ้าน แต่บังเอิญมาพบยายที่คิดสั้น กำลังจะฆ่าตัวตายเลยลืมตัว ลืมความตั้งใจเดิม เข้าขวางยายจนเกิดเรื่องขึ้นมา...

คำตอบที่ได้ ทำเอาชาวบ้านต่างอ้างปากค้างตกตะลึงตามๆกัน...แต่ทุกคนก็ยอมให้อภัยแก่..ขโมย ปล่อยตัวเขาไปและร้องให้เขากลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม

มโนธรรมสำนึกของคนเรา แท้จริง ใสสะอาด บริสุทธิ์ มีพร้อมอยู่ในทุกคน

ถึงแม้บางครั้งอาจถูกกิเลสตัณหาครอบงำให้ลุ่มหลง

ความใสสะอาด บริสุทธิ์ถูกบดบัง แต่หากคนเรา สามารถประคองญาณ

คงความบริสุทธิ์ไม่แปดเปื้อนกิเลส

ไม่จมปลักในตัณหา ดวงญาณก็คงสุกสกาวเปล่งประกายวาวใสดุจดั่งดวงดารา..

มโนธรรมสำนึกของคนเราเป็นหลักคุณธรรมที่สำแดงและปรากฎขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องมีใครสอนสั่ง

และหลักคุณธรรมที่คนเราแสดงออก ไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ แต่เป็นเรื่องของสามัญสำนึกในใจ ที่มีอยู่แล้วในทุกคน

หมายเลขบันทึก: 578625เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2014 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2014 14:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มโนธรรมสำนึกของคนเรา (เชื่อว่า ) ทุกคนย่อมต้องการเป็นคนดีทั้งนั้น ... เหมือน ๆ กันนะจ๊ะ แต่...ต่างเหตุ ต่างผล ที่ทำให้หลายต่อหลายตนต้องทำตรงกันข้ามกับจิตสำนึกนะ


อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท