ชู “เห็ด” สุดยอดอาหารให้คุณค่าสูง แนะปรุงให้สุกก่อนกินมีโปรตีนมาก


ชูเห็ดเป็นสุดยอดอาหารสูงค่า ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เผยเห็ดมีดีเอ็นเอใกล้เคียงกับสัตว์ทำให้มีโปรตีนสูง แนะกินเห็ดต้องใช้เวลาต้มไม่น้อยกว่า 15 นาที

ครือข่ายอาหารและสุขภาพเตรียมจัดมหกรรมอาหารและสุขภาพภายใต้แนวคิด “กินเปลี่ยนโลก (โรค) กินเปลี่ยนรส กินเปลี่ยนร่าง” ชูเห็ดเป็นสุดยอดอาหารสูงค่า ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เผยเห็ดมีดีเอ็นเอใกล้เคียงกับสัตว์ทำให้มีโปรตีนสูง แนะกินเห็ดต้องใช้เวลาต้มไม่น้อยกว่า 15 นาที

ดร.อุษา กลิ่นหอม ประธานมูลนิธิรักษ์อีสาน อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดเผยว่า เห็ดมีประโยชน์มหาศาล ซึ่งจากการศึกษาพบว่าในเห็ดมีสารสำคัญบางอย่างที่ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น จากที่เคยอ่อนแอ ให้กลับมาแข็งแรง ต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้ ซึ่งเห็ดแต่ละชนิดก็กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ต่างกันไป อย่างการรับประทานเห็ดให้ครบ 3 อย่างในการรับประทานแต่ละมื้ออาหาร ก็ถือเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้หลากหลายยิ่งขึ้น

ดร.อุษา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้เห็ดยังมีคุณค่าทางอาหารไม่ด้อยไปกว่าเนื้อสัตว์ มีโปรตีนร้อยละ 5 หรือ 34 กรัมในน้ำหนักเห็ดแห้ง 100 กรัม ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทยได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของการรับประทานเห็ดแทนเนื้อสัตว์ในฤดูฝน เนื่องจากในฤดูฝนนั้นพยาธิต่างๆ เจือปนอยู่ในเนื้อสัตว์ปริมาณสูงก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ นอกจากนี้เห็ดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลส์ หรือชะลอความแก่นั่นเอง

“ที่เราบอกว่า เห็ดเป็นพืชชั้นต่ำนั้น ความจริงแล้ว ดีเอ็นเอของเห็ดใกล้เคียงกับสัตว์มาก ซึ่งไม่แปลกที่เห็ดมีปริมาณโปรตีนพอๆ กับเนื้อสัตว์” ดร.อุษา กล่าว

ดร.อุษา กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องแปลกที่ไม่มีใครกินเห็ดดิบ ทั้งๆ ที่กินได้ แต่ที่อยากจะแนะนำคือต้องต้มให้สุกใช้เวลาไม่น้อยกว่า 15 นาที ควรแกงเห็ดใส่น้ำคั้นใบย่านาง เพราะคุณสมบัติของต้นย่านางคือสลายพิษ หากไม่มั่นใจในเห็ดนั้น ให้ใส่ข่างสารหนึ่งหยิบมือลงไปด้วย ถ้าเปลี่ยนเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาวของข้าว แสดงว่าเห็ดนั้นมีพิษ

เห็ดป่าอย่าง เห็ดโคน เห็ดเผาะ หาทานได้ปีละครั้ง หากต้องการทานทั้งปี ต้องรู้จักการถนอมอาหาร โดยนำเห็ดมาต้มใส่น้ำน้อยๆ แล้วเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง แค่นี้เราก็จะได้กินเห็ดสดทั้งปีแล้ว” ดร.อุษา กล่าว

หมายเลขบันทึก: 574007เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2014 11:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 สิงหาคม 2014 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท