ช่วยเติมเต็มการปฐมนิเทศด้วยค่ะ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสคุยกับน้องเจ้าหน้าที่ที่รับมาปฏิบัติงานใหม่ 3 คน แต่แบ่งเป็น 2 งานด้วยกัน คือ งานประสานงานวิจัย 1 คน และงานห้องเวชระเบียน 2 คน
- งานประสานงานวิจัยรับผู้สำเร็จทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ วุฒิปริญญาโท เพื่อทำหน้าที่เป็น Study Coordinator ได้ ลปรร. ด้วยถึง 2 ครั้ง พร้อมกับกบ (ศุภิดา) ด้วย เพื่อให้เรียนรู้ลักษณะงานที่จะต้องปฏิบัติและรับผิดชอบ เพราะเป็นงานโครงการวิจัยที่มีเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องถูกต้องตามข้อตกลงทุกประการ
- งานห้องเวชระเบียนรับวุฒิปริญญาตรี เพื่อปฏิบัติงานประจำ Zone ต่างๆ ในห้องเวชระเบียน ได้ ลปรร. เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2549 เวลา 15.00 – 16.15 น. พร้อมกับอ้อม (สิริกาญจน์)
ที่คิดว่าอยากคุยกับน้องๆ ก่อนให้น้องๆ ไปปฏิบัติงานนั้น เพราะได้เคย ลปรร. กับนก (TUC) นกเล่าว่าการปฐมนิเทศบุคลากรใหม่ เอกชนจะให้ความสำคัญมากและจะทำทันทีก่อนให้เจ้าหน้าที่ใหม่ไปปฏิบัติงาน เป็นเหมือนการลงทุนที่สำคัญขององค์กร ซึ่งเป็นการเตรียมกล้าพันธุ์ต้นใหม่ที่จะไปปลูกในดินที่เรามีอยู่ เรามีส่วนเกี่ยวข้องกับงานเหล่านี้ เพราะกำลังทำโครงการพัฒนางานห้องเวชระเบียน ค่อนข้างจะพอรู้ตื้น-ลึก-หนา-บาง ในดินที่เรามี เพราะฉะนั้น เราอยากให้ต้นไม้เติบโตมาอย่างไรก็ต้องเตรียมตั้งแต่ก่อนปลูก
คิดว่าได้พยายามสื่อสารสิ่งที่สถาบันและหน่วยงานน่าจะต้องการให้ทั้งน้องงานประสานงานวิจัยและน้องห้องเวชระเบียนทราบก่อนที่จะมีการปฐมนิเทศจริงๆ ตามกำหนดการของสถาบันต่อไป
คงต้องติดตามผลของการปลูกครั้งนี้ในระยะยาวต่อไป ขอข้อเสนอแนะในการรดน้ำ, ใส่ปุ๋ย และพรวนดินด้วยนะคะ
ความเห็น (3)
คิดว่าการเอาใจใส่ในการปลูกต้นไม้ครั้งนี้ โดยเฉพาะการรดน้ำใส่ปุ๋ยและการพรวนดินของพี่มอมคงได้ต้นไม้ที่มีผลผลิตที่มีคุณภาพแน่นอนค่ะ เพราะพี่มอมคอยดูแลต้นไม้อย่างดี
เอกชนนั้นเขาค่อนข้างเข้มงวดมากสำหรับการปฏิบัติงาน แต่ของทางราชการถึงแม้จะปฐมนิเทศแล้ว(เข้ม)แต่ถ้าในงานนั้นระบบงาน+คนที่ปฏิบัติงานไม่ปฏิบัติงานอยู่ในกรอบกติกาที่ดี คนใหม่ก็ต้องกลืนกับของเก่า ทำอย่างไรจะบริหารได้ดีอย่างเอกชน(น่าคิด) ดินดี ปุ๋ยดี ระบบนิเวศดี มันย่อมส่งผลดีหมดแม้จะถูกภัยธรรมชาติคุกคามบ้างก็ตาม
ขอบพระคุณทั้ง 2 ท่านที่ให้ข้อเสนอแนะและกำลังใจ ติดตามผลต่อไปนะคะ