การทำงานในเดือนรอมาฎอน


สวัสดีครับ

อีกไม่กี่วันก็จะถือเดือนรอมาฎอน เดือนอันประเสิรฐของชาวมุสลิม เป็นเดือนแห่งการทำความดี การอดทนต่อการทำดีและละทิ้งที่สิ่งนำไปสู่การทำไม่ดี ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น การทำกิจกรรมที่ไร้สาระ การนินทาผู้อื่น เป็นต้น

เมื่อเข้าถึงเดือนนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเขาทำอะไรกันบ้าง ทำอะไรได้บ้าง กินอะไรกันตอนไหน แล้วช่วงไหนที่เขาเริ่มถือศีลอดกัน และงานแบบไหนที่เขาทำไม่ได้

เอาแบบง่ายๆพอเข้าใจและจดจำกันไว้แล้วกันนะครับ

สำหรับปี ๒๕๕๗ นี้ เดือนรอมาฎอนจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฏาคม ยังไม่ถึงช่วงเปิดเทอมพอดี แต่อาจจะไปคาบเกี่ยวกับวันรายอหรือวันอีด ไม่เช่นนั้นแล้วกิจกรรมหลายอย่างในช่วงเปิดเทอมของนักศึกษานั้น อาจจะได้รับผลกระทบพอสมควร

สำหรับที่คนทำงานแล้ว โดยส่วนใหญ่จะไม่กระทบอะไรมากมาย เพราะหลายท่านได้ฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเป็นมุสลิมใหม่ที่โตแล้วก็ไม่ยากเท่าที่ควร ภาระหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ยังคงปฎิบัติได้เหมือนเดิม ไม่มีข้อแตกต่าง อาจจะมีคอแห้งบ้างเป็นเวลา

ถ้าในหน่วยงานของเรามีมุสลิมอยู่ สิ่งที่เขาเหล่านั้นจะปฎิบัติตั้งแต่ตื่นนอน คือ เขาจะตื่นมาทานอาหารเช้าก่อนเวลาละหมาดช่วงเช้า ซึ่งจะอยู่ที่เวลาประมาณตี ๔ เมื่อทานเสร็จเขาก็จะไปประกอบศาสนกิจจนเช้า ตรงนี้มีคำแนะนำอยู่ไม่กี่อย่างว่า ให้ทานอาหารเช้า เพราะมันจะดีต่อร่างกาย ดีต่อการทำงานตลอดทั้งวัน บางคนไม่ตื่นมาทาน อาศัยทานดักล่วงหน้าก่อนนอน บางคนก็ไม่ตื่นมาทานอะไรเลย ซึ่งมันไม่ดีเลย รบกวนให้ตื่นมาดื่มน้ำสักนิดก็ยังดี แล้วก็ไม่ต้องนอนต่อ แต่ถ้าง่วงจริงๆแนะนำให้งีบสักพักแล้วขยับร่างกายไปทำกิจกรรมอย่างอื่น จะออกกำลังกายก็ได้ ที่เคยทำมาวิ่งตอนเช้า กลับมาไม่กินน้ำยังอยู่ได้เลย ถ้าจะให้นอนไปเลย รับรองหลับยาวยัน ๗-๘ โมงแน่นอน ช่วงแรกๆบางคนอาจยังปรับตัวไม่ทัน ต้องค่อยเรียนรู้กันไป

เมื่อได้ทานอาหารเช้าในช่วงเช้ามืด กิจกรรมบางอย่างของช่วงเช้าก็ลดลงไป ส่งผลทำให้มาทำงานเช้าขึ้น ลดเวลากินอาหารเช้ากับรถติดออกไป

ช่วงแรกของเดือนหลายท่านอาจจะอยู่แบบนิ่งๆเงียบๆเพราะยังปรับสภาพร่างกายไม่ทัน อีกสักพักก็คงจะดี ดีต่อนิสัยการกินอาหารจุกจิกในระหว่างการทำงานด้วย

การทำงานตั้งแต่เช้ายันเที่ยงไม่เป็นอุปสรรคต่อผู้ถือศีลอด ยกเว้นเป็นงานที่ต้องทำกลางแจ้งหรืออยู่สมรภูมิรบและผู้เดินทาง เช่น กรรมกรก่อสร้างในงานฉุกเฉินเร่งด่วน ผู้ที่อยู่ในภาวะสงครามที่มีการสู้รบอย่างกระทันหัน และการเดินทางที่ยาวนาน ลำบาก ผู้จะได้รับการยกเว้นเหล่านี้ จะต้องไปชดใช้ในวันถัดอื่น ตรงนี้อยากให้ใช้ดุลพินิจที่ไม่เข้าข้างตัวเอง บางคนทำงานไม่หนัก ชนิดเหงื่อตลอดทั้งวันทั้งโครงการจนต้องใช้พลังงานจากอาหารอย่างเร่งด่วน ดันใช้โอกาสไม่ถือศีลอดเลย และถ้าเดินทางไกลโดยเครื่องบินนี้ ต้องไกลเป็นชั่วโมงๆจริง ถ้าแค่ ๑-๒ ชั่วโมงนี้มันเร็วไป ยังมีเวลาพักผ่อนได้อีก

ความจริงแล้ว การถือศีลอดแบบนี้ มีแค่เดือนเดียวเท่านั้น ถ้าพลาดแล้ว พลาดเลย ถ้าตายไปก็อดเลย

เมื่อถึงตอนเที่ยง ช่วงนี้จะมีเวลามากขึ้น หลังจากละหมาดประจำวันเสร็จสิ้นก็จะอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน ยิ่งอ่านในเดือนนี้ยิ่งดี มีคำแนะนำสำหรับคนที่มีเพื่อนเป็นมุสลิม ให้ระวังการชวนไปทานอาหารเที่ยงด้วยกัน การทักทายว่ากินข้าวยัง และการกินอาหารต่อหน้าพวกเขา เพราะถือว่าเป็นการให้เกีรยติกัน แม้เรานั้นจะไม่รู้ หรือไม่ทราบ อาจจะหลงลืมไป อาศัยความเคยชิน แต่สำหรับเดือนนี้ขอให้งดถามช่วงนี้เลยแล้วกัน ให้ยกยอดไปถามช่วงเย็นๆจะเหมาะสมกว่าหรือถามช่วงเช้าก่อนมาทำงาน แม้จะเป็นการถามด้วยความห่วงใย แต่ถ้าใช้เหมาะสมรับรองได้ใจไปเยอะเลย

เราเชื่อว่าทุกคนคงไม่ทันสังเกต เรื่องเล็กๆแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร แค่ให้ระวัง ตอนนี้หลายคนก็คงจะทราบกันแล้วจากที่เล่ามา

เมื่อถึงช่วงเย็น ทุกคนก็จะเริ่มยุ่งอยู่กับการประกอบอาหารในครอบครัว อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบปีและเดือนเดียวก็ว่าได้ที่บางครอบครัวจะได้มาทานอาหารร่วมกัน และไม่มีใครมานั่งก้มหน้าเล่นมือถือแน่นอน เพราะช่วงเวลานั้นต้องอ่านดุอาอ์ก่อนทานอาหาร ต้องทานให้เรียบร้อย และต้องละหมาดต่อทันทีหลังจากทานอาหารเสร็จ ไม่มีเวลามานั่งเล่นแน่นอน

บางคนมองว่าเดือนนี้เป็นเดือนแห่งเทศกาลอาหาร เห็นมีคนวุ่นวายกับการซื้อหาอาหารกันมากมาย มีอาหารเยอะแยะเต็มไปหมด มีอาหารเต็มทุกโต๊ะ มีการจัดเลี้ยงทุกร้านอย่างกว้างขวาง

แท้จริงไม่ใช่ เพราะมันเป็นเพียงการสรรหาอาหารดีๆสักอย่างมาทานด้วยกัน คือ ปกติถ้าทานคนเดียวก็ ข้าว ๑ จาน อาหารแห้ง ๑ จาน อาหารแกง ๑ ชาม ขนาดรวมกันแค่ ๔ คน อาหารก็เต็มโต๊ะแล้ว ยิ่งเป็นเดือนของการทำความดี การทำบุญ การบริจาค ยิ่งต้องทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทำให้เต็มที่ โดยเฉพาะกับผู้ขัดสนและยากจน อาหารเหล่านี้ต้องกินให้หมด ไม่หมดก็ต้องนำมาอุ่นให่ มาทำใหม่ให้กินได้อีก แต่ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยด้วย แค่ไม่ท้องเสียอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องมีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายด้วย

หลังจากนั้นทุกคนจะต้องเตรียมตัวไปละหมาดช่วงกลางคืนที่มัสยิดกัน ส่วนใหญ่จะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศไทย ประมาณสัก ๒ ทุ่มแล้วละหมาดยาวไปจนถึงเวลา ๓-๔ ทุ่มโดยประมาณ หลังจากนั้นก็กลับมาบ้าน มาพูดคุย เรียนรู้ร่วมกัน ในประเด็นการทำความดีที่อยู่ในกรอบศาสนาอิสลาม

จะเห็นได้ว่ากิจกรรมในช่วงเดือนรอมาฎอนไม่ได้ลดละไปเลย แต่ก็ไม่ได้กระทบงานแต่อย่างใด ทุกอย่างมีทางออกเสมอ เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตอย่างสมดุล แม้เดือนนี้จะเป็นเดือนแห่งการตักตวงการทำความดีก็ตามแต่ต้องไม่กระทบการดำเนินชีวิตจนเป็นอุปสรรค

คำแนะนำสุดท้าย คือ งานที่ต้องอาศัยกำลังเยอะๆให้หลีกเลี่ยงไว้ก่อน แต่ไม่ใช่ว่าเกี่ยงงานกัน อันนี้ก็ไม่เอา อันนั้นก็ไม่ทำ มันดูเกินไป บางทีช่วงสายๆอาจจะตาลายนิดหน่อยๆ ช่วงบ่าย ๓ อาจจะซึมๆ แนะนำให้ขยับไปสูดอากาศบริสุทธิ์หรือทักทายเพื่อนรอบข้างบ้างเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย

ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่อดทนไม่กินอาหารเท่านั้น แต่อดทนทุกอย่างที่เป็นสิ่งไร้สาระ การให้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ เป็นต้น

สำหรับบางคนที่มีเพื่อนสนิท ผู้ใหญ่ที่เคารพหรืออาจจะเป็นคนยากจนที่เห็นหน้าทุกวัน เดือนนี้ของฝากที่ดีที่สุด คือ อินทผลัม อาจจะเป็นกล่องเล็กๆ ราคา ๒๕-๕๐ บาท หรือกล่องมาตรฐานที่ให้กัน ประมาณ ๑๐๐-๒๐๐ บาท ถ้าปลายเดือนนั้นมักจะให้เป็นเสื้อผ้าใหม่กัน เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีชุดแบบอิสลามใหม่ๆไว้สวมในวันรายอหรือวันแห่งการเฉลิมฉลองกัน อาจจะเป็นชุดเก่าก็ได้ แต่อย่างน้อยขอให้สะอาดก็พอ อย่างน้อยก็เป็นชุดใหม่ในสายตาเขา

เรื่องราวมีอีกมากมาย ไว้มาต่อกันใหม่ แค่ฝากบอกไว้ จะได้ไม่ผิดใจกันและไม่เข้าใจผิดในความเป็นพหุวัฒนธรรม

จะได้ไม่มีคำถามว่า แบบนี้ทำได้ไหม ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่กินข้าว ทำไม่ง่วง ทำไมดูเหนื่อยๆ ทำไมๆ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิถีชีวิตต่างกัน ส่วนหลักการศาสนานั้นเหมือนกัน ถ้าเราเห็นเขาผิดปกติจากหลักการทั่วไปที่คนอื่นเขาทำกันแล้ว เราก็สามารถแนะนำเขาได้ เช่น ถ้าง่วงมากในตอนเช้ามาทำงาน ก็ให้เขานอนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าดูขาสั่นปากสั่นแล้ว ก็แนะนำให้เขาหัดทานอาหารเช้าบ้าง ของแบบนี้แนะนำได้ เพราะบางคนอาจจะเอานิสัยเดิมมาใช้ ทำให้กระทบกับการถือศีลอด แล้วนำไปเหมารวมว่าเป็นเพราะการถือศีลอด แท้จริงแล้วมันอยู่ที่ตัวบุคคลต่างหากที่ต้องเรียนรู้อย่างเข้าใจและนำไปใช้ให้ถูกวิธี

ขอบคุณครับ

คำสำคัญ (Tags): #อิสลาม
หมายเลขบันทึก: 571043เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2014 10:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2014 10:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ดีจังเลยครับ

วางแผนก่อนทีจะถึงวันจริงๆจะได้ไม่มีปัญหา

ขอบคุณมากๆครับ

ขอบคุณค่ะ .... การทำงานแบบมีแผนงานไว้ล่วงหน้า เยี่ยมจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณทุกท่านนะครับ แต่ไม่มีอะไรทีนะครับ แค่คำแนะนำสั้นๆกว้างๆพอเข้าใจภาพรวม จะได้เข้าใจตรงกันระหว่างเพื่อนร่วมงานกับเรา บางทีความไม่เข้าใจอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งระดับองค์กรได้ง่ายๆ

เราไม่ต้องเข้าใจศาสนาเขาหมด แค่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้างก็พอ จำบ้างไม่ได้บ้างไม่เป็นไร อาศัยถามสดๆเอาเลย และจะสร้างความเป็นกลางบนมาตรฐานเดียวกัน

ไม่อยากให้ใครมองว่าการถือศีลอดในเดือนรอมาฎอนเป็นแค่การอดอาหาร อดแล้วทำงานไม่ได้ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ 

ผมชอบหลักคิดนะครับ...
การอดข้าว
เป็นสัญญะของการอดทนอดกลั้นต่อการกระทำในสิ่งอันไม่พึงประสงค์
ทั้งต่อตนเองและคนรอบข้าง

ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท