องค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม จี้ คสช.แก้ปัญหาทีวีดาวเทียมจอดำ และเสนอแก้ปัญหาคอรัปชั่น


องค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม จี้ คสช.แก้ปัญหาทีวีดาวเทียมจอดำ และเสนอแก้ปัญหาคอรัปชั่น

๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. นายไชยนิรันดร์ พยอมแย้ม ประธานองค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม และนายโรจนศักดิ แสงธศิริวิไล เลขาธิการองค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม และคณะกรรมการองค์กรฯ จำนวนหนึ่ง ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ข้อแสนอแนวทางแก้ปัญหาคอรัปชั่น และขอให้เร่งรัดการอนุญาติให้ทีวี ดาวเทียม ออกอากาศได้ตามปกติ โดยมี พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช. ณ ทำเนียบรัฐบาล

ซึ่งที่ผ่านมาหลายปี องค์กรฯ ได้เคลื่อนไหวคัดค้านและติดตาม เรื่องทุจริตใหญ่ ๆ หลายโครงการเช่น 1.ต่อต้านการทุจริต โครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ต.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ มูลค่าโครงการ 23,700 ล้านบาท 2.ฟ้องศาลปกครองบริษัททางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)หรือดอนเมืองโทลเวย์ สัญญาสัมปทานที่ไม่เป็นธรรม และการขึ้นราคาค่าผ่านทางที่แพงเกินความเป็นจริงเมื่อวันที่ 19 มค.533.ต่อต้านราคาแก๊สและราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรม ในฐานะแกนนำพลังงาน เครือข่ายการเมืองภาคพลเมือง สภาพัฒนาการเมือง 4.คัดค้านและตรวจสอบการการกำจัดขยะมูลฝอย ของกรุงเทพมหานคร ทำให้พบปัญหาที่ทำให้ผู้คอรัปชั่น ไม่กลัวเรื่องคดีความ จึงได้มายื่นหนังสือในวันนี้

โดยมีข้อเสนอในการแก้ปัญหาคอรัปชั่น เพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปประเทศดังต่อไปนี้

  • ๑.ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานขององค์กรอิสระ และศาล ให้ดำเนินการพิจารณาคดีคอรัปชั่น ให้ใช้ระยะเวลาสั้น และให้ถือเป็นคดีเร่งด่วน หรือตั้งให้มีศาล เรื่องคอรัปชั่นโดยตรง เพราะที่ผ่านมาทุกคดี ใช้ระยะเวลาในการพิจารณายาวนานเกินไป มีหลายคดี กว่าพิจารณาเสร็จ คดีหมดอายุความหรือผู้กระทำความผิดเสียชีวิตไปเสียแล้ว เช่น คดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน มูลค่าเสียหาย 23,700 ล้านบาท พ.ศ.๒๕๕๔ ปปช. มีมติชี้มูลความผิด ว่านายยิ่งพันธ์ มนะสิสาร อดีต รมต.วิทยาศาสตร์ แต่ท่านได้เสียชีวิตลงไปแล้ว เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ จนกระทั่งปี พ.ศ.๒๕๕๗ ศาลพิจารณาว่ามีความผิด ทำให้รัฐเสียหายกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท (ตามที่เป็นข่าว)ทำให้กรมต้องเสีย ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินคดีเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้สืบทอดมรดก (ทายาท) อีกต่อไป ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกหลายปี และหลายชั้นศาล
  • ๒.คดีความที่เป็นเรื่องคอรัปชั้น ไม่ควรมีอายุความกำหนด และถ้าใครปล่อยให้หมดอายุความควรมีบทลงโทษด้วย
  • ๓.ในการสืบพยาน ไม่จำเป็นต้องสืบพยานเยอะ ทำให้เสียเวลา ซึ่งที่ผ่าน เช่นคดีคลองด่าน จำเลยมีการขอเพิ่มพยานจำนวนมาก ซึ่งเยอะเกินไป จึงทำให้การพิจารณาต้องล่าช้าออกไป ทำให้เป็นเทคนิค นำไปสู่คดีหมดอายุความ เช่น คดีคลองด่านหลายๆ คดี ตามที่เป็นข่าว
  • ๔.ควรมีข้อกฏหมายหรือกำหนดระยะเวลา เพื่อเปิดโอกาศให้หน่วยงานที่เสียหาย สามารถฟ้องร้องต่ออัยการ และศาลได้เอง เพราะที่ผ่านมาองค์กรอิสระ ที่ทำการตรวจสอบต่าง ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาคดีนานจนเกินไป จนทำให้คดีหมดอายุความ ซึ่งมีผลให้เกิดเสียหายนับหลายคดี โดยอ้างบุคลากรไม่พอ
  • ๕.จัดให้มีกฏหายคุ้มครอง ผู้ร้องเรียน และพยาน เช่น องค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม ไปร้องเรียนต่อ ปปช. ควรจะมีกฏหมาย ห้ามฟ้องกลับหรือดำเนินคดี กับผู้ร้องเรียนจนกว่าคดีความจะถึงที่สุด ซึ่งจะทำให้ ภาคประชาชน กล้าที่จะออกมาร้องเรียน

และเรียกร้อง ขอให้เร่งรัดการอนุญาติให้ทีวีดาวเทียม ออกอากาศได้ตามปกติ

ตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งห้ามออกอากาศทีวีดาวเทียม ซึ่งตอนนี้มีอยู่ ๒ กลุ่ม คือกลุ่ม ๑๔ สถานี ที่ทำการปลุกปั่นทางการเมือง ซึ่งทาง คสช.มีคำสั่งห้ามทำการออกอากาศ กับกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อข้างต้น ที่ผ่านมาองค์กรฯ เห็นด้วยกับการระงับการออกอากาศดังกล่าว เพื่อจัดระเบียบ และควบคุมให้อยู่ในความดูแลของ คสช. ซึ่งในปัจจุบันนี้ กลุ่มทีวีดาวเทียม ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ๑๔ สถานีข้างต้น อยู่ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียน และอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบความเหมาะสมของผังรายการใหม่กับ กสทช. ซึ่งในขณะนี้ได้ล่วงเลยเวลามาพอสมควร ทราบว่ามีจำนวนอีกหลายสิบสถานี ที่รอการอนุมัติให้ออกอากาศจาก กสทช.

องค์กรฯ ทราบว่า จากสถานีกลุ่มดังกล่าว มีพนักงานที่ได้รับผลกระทบ ถ้ารวมกันแล้วน่าจะมีจำนวนมาก ประมาณไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ คน ซึ่งพนักงานเหล่านี้ มีความหวังที่จะเริ่มทำงาน เพราะทุกคนมีค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ บางคนต้องส่งลูกเรียน ส่งเสียพ่อแม่ ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน จ่ายห้องพักรายเดือน พอสถานีฯ ถูกระงับการออกอากาศ ทำให้ได้รับผลกระทบ ไม่มีงานทำ บางสถานีฯ ผู้บริหารไม่มีค่าจ้างให้พนักงาน จึงสั่งหยุดพักงานชั่วคราว องค์กรฯ จึงขอร้องให้ คสช. ช่วยเร่งรัดให้ กสทช.เร่งดำเนินการตรวจสอบและอนุญาติ ให้ออนแอร์ได้ตามปกติในเร็ววัน แล้วค่อยทำการตรวจสอบหรือติดตามการออกอากาศให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ คสช.ทีหลังก็เป็นได้ จะได้เป็นการทุเลาปัญหาดังกล่าว

ในช่วงท้าย องค์กรฯ ได้แสดงเจตจำนงค์ ขอสนับสนุนทุกนโยบายของทาง คสช. หากมีสิ่งใดที่ องค์กรฯ จะสนับสนุนการทำงานของ คสช. องค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม พร้อมเสมอที่จะให้ความร่วมมือ กับ คสช.ตลอดเวลา

ติดต่อได้ที่ นายไชยนิรันดร์ พยอมแย้ม 086-771-7779 นายโรจนศักดิ แสงธศิริวิไล 089-664-1212



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท