หลังจากที่ร่างกายบาดเจ็บจากการทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้ เราได้รับรู้ ว่าสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดนะเวลานั้นคือการดูแลเอาใจใส่ ความเอื้ออาทรต่อสภาพความเจ็บปวด และความสะดวกรวดเร็วที่จะได้พบแพทย์......ทำอย่างไรล่ะ....สติ..สติ..เท่านั้นที่แก้ปัญหาได้....น้องเสี่ยงซี...ที่จะช่วยเราได้แน่นอนเพราะเธอทำงานอยู่ที่หอผู้ป่วยกระดูกชาย.....จากเทคโนโลยี...มือถือ...ฮัลโล่ น้องแกลบ...พี่มีเรื่องรบกวน.....(ใช้ปิยวาจา)....น้อง แกลบ พยาบาลนางฟ้าของเรา.....ได้เลยเพ่.......นั่นแหละทุกอย่างหลั่งลงมาเองอย่างชื่นใจเหมือนสายฝนที่หลั่งจากฟากฟ้าสุราไลย์สู่แดนดิน..........นอกจากคนอื่นช่วยเราแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราเอง......เราต้องคิดแบบให้กำลังใจตัวเราเอง คิดว่าเราต้องดีขึ้นและจะหาย....ไม่ควรคิดในทางไม่ดีเพราะมันบั่นทอนกำลังใจตัวเอง...และคนที่ดูแลเราก็ต้องให้กำลังใจมีความอบอุ่นเป็นเหมือนพ่อแม่พี่น้องของเราช่วยเหลือเรา..แค่นี้จริงๆที่เราต้องการในขณะที่เราเป็นคนป่วย....มากไปหรือเปล่าไม่รู้......แต่สิ่งเหล่านั้นทำให้เราหายจากโรคได้.....กำลังใจที่ดี เป็นโอสถจริงๆ
ข้อคิดที่ได้...พูดดี(เคยทำดี)ทำดี ตลอด จะมีคนรักและช่วยเหลือเสมอแม้แต่ผีก็ยังรัก........ถ้าเราอยากได้อะไรๆก็จงทำกับผู้อื่นเหมือนกับที่เราอยากได้...ผลแห่งการกระทำมันจะกลับมาเองโดยไม่ต้องร้องขอ....
เมื่อทำการตรวจ วินิจฉัย แล้วเราก็ได้รับยาฉีด ยากิน ตามสภาพอาการ จนพอทุเลาอาการเจ็บปวดลงบ้าง....เอาล่ะซีถึงเวลาจะนอนอีกแล้ว....ความที่เราเป็นคนมีสัมผัสแปลกๆมันชักจะเริ่มมีอะไรๆ ที่ผิดสังเกตซ่ะแล้ว.....ในห้องนอนตึกพิเศษเวลาประมาณ 22.30น.เริ่มสะลึมสะลือ อยากจะหลับมากแต่เอ๊ะ....กลิ่นอะไรที่ข้างหมอนหนอ...กลิ่นตุๆเค็มๆ...เหมือนซากอะไรสักอย่าง...ทำอย่างไรดีล่ะ...ก็เรียกพี่อีก...พี่ๆหนูขอเปลี่ยนหมอนได้เปล่า!!!!พี่เขาก็จัดการเปลี่ยนหมอนใบใหม่ให้....มาอีกแล้วกลิ่น....กลิ่นจะมาเวลาที่เหมือนเราจะเคลิ้มๆ..ในที่สุดเราก็สวดมนต์ทุกบทที่จำได้รวมทั้งตรวจน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรด้วย กลิ่นนั้นก็ยังไม่หายซักประมาณ 02.00น ของวันใหม่ทำอย่างไรดีล่ะเรา....ก็เปลี่ยนหมอนจนถึง 3 ครั้งแล้วในขณะที่พี่เขาไม่ได้กลิ่นอะไรเลย....เอาละว่ะขอใช้บทแผ่เมตตาก็แล้วกันเน๊าะ.....สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพะยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ......สักระยะหนึ่งกลิ่นนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง..เราเลยหลับได้ไม่ต้องต่อสู้กับสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเป็นอะไร...ไม่เชื่อ..อย่าลบหลู่..........แล้ววันต่อมาก็ได้รับการรักษาด้วยกายภาพบำบัดร่วมด้วยจนอาการเจ็บปวดทุเลาจนเกือบเป็นปกติแล้วหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น......ขอขอบคุณที่เราไม่เคยคิดร้ายกับใครจึงได้รับความช่วยเหลืออย่างดี...ขอบคุณคุณหมอ คุณพยาบาล..นักกายภาพบำบัดทุกๆท่าน
ดีครับ...น้องเขียด ป่วยแต่กาย...ไม่ป่วยใจ...ไม่น่าห่วง... จะหลอกลวง...ให้ลุ่มหลง...ไม่สงสัย... จะมากเล่ห์...มามุ่งร้าย...ริลองใจ... พี่ขอให้...พ้นจากทุกข์...กลับสุขพลัน...
หายเร็ว ๆ นะครับ |