เคล็ดไม่ลับกำจัดความอ้วน


ขอขอบคุณอ.ภูสุภากับคุณ pooklook88 ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ดร.ป๊อปกลั่นกรองสิ่งได้เรียนรู้จาก Neuro-Linguistic Programming หรือ NLP ในประเด็นการจัดการระบบย่อยอาหารนำมาซึ่งน้ำหนักที่พอเหมาะ

ดร.ป๊อปได้ทดลองตั้งใจกำจัดความอ้วนของตนเอง เพราะคุณหมอบอกว่า ถ้าอ้วนเกินก็จะทำให้โรคไทรอยด์เป็นพิษไม่หายขาดและมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบซ้ำ อยากให้คงน้ำหนักไว้ไม่เกิน 70 กก. แต่ความตั้งใจก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เห็นอะไรก็อยากทานไปหมด จนมาทำความเข้าใจเรื่องอาหารการกินเสียใหม่ในช่วงเรียน Neuro-Linguistic Programming หรือ NLP ตลอด 12 วันกับ Mr. Barney Wee

 

ที่ซึ่งผมได้ทดลองทานผัก (คาร์โบโฮเดรตที่ย่อยง่ายและเร็ว) กับผลไม้ (พืชที่มีชีวิตชีวาที่มีน้ำ 70%) ให้มากขึ้น แยกเคี้ยวคาร์โบไฮเดรตจำพวกข้าวสีขาวแยกกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยรวมกันเป็นสารพิษในร่างกาย (กูลโคสหลายโมเลกุล + กรดอะมิโน)  ลดเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการต่างๆในการปรุงอาหาร (อาหารที่ตายแล้ว) ถ้าลดไม่ได้ก็เน้นปลาสดนึ่ง เน้นทานโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้ ถั่ว ฯลฯ งดของหวานและน้ำตาล งดคาเฟอีนจากน้ำชากาแฟ หลังทานอาหารแต่ละมื้อ 15-30 นาทีค่อยทานน้ำเปล่าที่ไม่เย็น เพื่อให้อาหารที่ทานไปแล้วได้เผาพลาญพลังงานได้สมบูรณ์ ผลสำเร็จที่ภาคภูมิใจคือดร.ป๊อปคงน้ำหนักไว้ที่ 70 กก. ขณะที่ก่อนเรียนคือ 72 กก. โดยใช้วิธีการปรับทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นอย่างเดียว ผมสังเกตว่าทุกๆวันจะทานมื้อเที่ยงขณะเรียน NLP ตอน 14.00 น. แต่พอปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารใหม่ ผมรู้สึกหิวช่วง 2 วันแรก หลังจากนั้นก็ไม่ง่วง รู้สึกสมองปลอดโปร่ง มีพลังและมีสมาธิอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ

นอกจากนี้อาจารย์ NLP ของผมได้แนะนำให้ซื้อหนังสืออ่านเล่มหนึ่ง (ดูรูป) 

  

 

ที่มาของภาพ/Acknowledgement: http://www.amazon.com/dp/0345490118?tag=wwwhealthyat1-20&camp=14573&creative=327641&linkCode=as1&creativeASIN=0345490118&adid=1R3EH1ZKK9YY2ZPSJKQP&

ซึ่งเป็นหนังสือขายดีและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ที่มีอายุยืนทั่วโลก (อย่างน้อย 100 ปี) ที่มีการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ คิดบวก และออกกำลังกาย อย่างตั้งใจและจริงจัง ผมเองก็ยังอ่านไม่จบ แต่ก็เป็นหนังสือที่เพิ่มความรอบรู้ในการใช้ชีวิตด้านโภชนการที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมากนักและตื้นเต้นทุกครั้งที่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านครับ

คลิกที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจในการรับประทานอาหารให้มีอายุยืนกับการศึกษาของ John Robbins

ที่มาของภาพ/Acknowledgement: http://www.healingtouchhealthcare.com/whats-the-best-workout-to-misplace-weight-useful-tips-to-lose-heaviness/

นอกจากนี้ผมแนะนำกัลยาณมิตรทุกท่านได้ คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เทคนิค NLP ที่สำคัญในการใช้สั่งจิตใต้สำนึกเพื่อลดความอ้วน ซึ่งต้องหมั่นฝึกฝนและมุ่งมั่นตั้งใจคิดบวกในแต่ละรายบุคคล หากสนใจผมสามารถให้คำปรึกษาได้ ณ คลินิกกิจกรรมบำบัด ศูนย์กายภาพบำบัด คณะกายภาพบำบัด ม.มหิดล เช่น โครงการกิจกรรมบำบัดจัดการความสุข 

ผมยังได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ NLP ได้แนะนำ LINK ที่มีคุณค่าเกี่ยวกับโภชนาการบำบัด ที่สามารถให้ผมและกัลยาณมิตรทุกท่านได้เลือกอาหารที่มีคุณค่าเพื่อการใช้ชีวิตที่มีคุณค่าจริงๆ ครับผม

โดยสรุปผมจึงอยากนำความรู้จาก NLP ของ Barney Wee ในเรื่องการจัดการระบบย่อยอาหารที่มีประสิทธิผล ได้แก่

มื้อเช้า เริ่มด้วยน้ำผลไม้สด ดื่มช้าๆ เพื่อให้เอมไซม์ในน้ำลายได้กระตุ้นระบบการย่อยอาหาร ตามด้วยผลไม้หั่นเป็นชิ้น...ทานได้บ่อยเมื่อรู้สึกหิวโดยเฉพาะแตงโมที่มีน้ำมากให้แก่ร่างกายและทานกล้วยที่ทำให้ลดความหิวได้

มื้อกลางวัน ควรเริ่มทานผลไม้ตอนท้องว่าง แล้วทานผักสดสลัดจะดีที่สุด พยายามทานคาร์โบไฮเดรตจำพวกมันฝรั่ง ข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ให้น้อยๆ และไม่ควรปนกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ แต่ผสมโปรตีนจากพืชได้ โดยเฉพาะเต้าหู้ ผัดผัก ถั่วต้ม ผักนึ่ง ฯลฯ

มื้อเย็น ควรทานผักสลัดและผลไม้ที่มีน้ำมากๆ ทานปลา ไก่ที่มีเนื้อบางไร้ไขมัน + ผัก (ไม่ควรมีข้าว เกลือ น้ำตาล หรือ White Poison ตามคำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณบัณฑิต อึ้งรังษี)  ลดไขมันทุกชนิดเพราะเป็นตัวยับยั้งการย่อยอาหาร 

เอาหละครับ กัลยาณมิตร GotoKnow.Org พร้อมจะจัดการสุขภาวะด้วยอาหารที่มีประโยชน์กว่าทุกมื้อที่คุณเคยทานเป็นประจำหรือยังครับผม ... สู้ๆ มากำจัดความอ้วนกันเถอะครับ

หมายเลขบันทึก: 566053เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2014 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2014 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

มาให้ดอกไม้คนแรก :-)

ขอบคุณค่ะ

ตามคุณหมอมาไวๆเลยครับ

ดีจังเลย

ใช่การสั่งจิตใต้สำนึก

พี่ใช้การออกกำลังกาย

ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก ลดไป 5 กิโลกรัมทันตาเห็น

ขอบคุณมากๆครับ

ขอบคุณมากๆครับอาจารย์ภูสุภาและพี่ขจิต ขอให้สุขภาพจิต ใจ กาย และสังคมนั้นเบิกบานและมีสุขภาวะนะครับผม

ขอบคุณมากๆครับคุณหมอป.และคุณทิมดาบ

...คนไทยยังกินข้าวเป็นอาหารหลักซึ่งไม่ถูกต้อง ยิ่งกินมากยิ่งอันตรายเป็นที่มาของโรคต่างๆมากมาย...โดยเฉพาะข้าวขาวนะคะ

ดีใจจังที่มีส่วนให้เกิดบทความนี้

แต่เห็นเมนูแล้วอยากเป็นลม เหงื่อแตกซิกซิกเลย ขอไปเข้าโปรแกรมสร้างกำลังใจก่อนดีกว่าไม๊คะ …แฮ่...

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่ดร.พจนา คนไทยต้องการรณรงค์เรื่อง "สุขภาพดีด้วยข้าวกล้องนะครับผม" ขอบคุณมากๆครับ

ขอบคุณมากๆครับคุณ pooklook88 ขอให้กำลังใจและค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับผม

พี่พยายามประยุกต์ทฤษฎีให้เหมาะกับวิถีชีวิตตัวเองให้มากที่สุด จะได้สะดวก

กินข้าวกล้อง กินปลา เป็นหลักเมื่ออยู่บ้าน แต่นอกบ้านเลือกได้น้อย ก็ไม่เป็นไร

สลัดมื้อเช้าทุกวัน มื้อเย็นน้ำเต้าหู้ กับผลไม้

แค่นี้พอไปไหว เพราะไม่มีโรค

พี่อ่านเล่มนี้ เอาไปใช้ได้เยอะค่ะ

ยอดเยี่ยมมากๆครับ ขอบคุณมากๆครับพี่ nui

-สวัสดีครับ

-ตามมาให้กำลังใจครับ

-ผมลดได้ สองกิโล..

-กลับบ้านช่วงเทศกาลคงเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวเป็นแน่แท้ ฮ่า ๆ

-สบายดีนะครับ?

สบายดีมากๆครับ เพิ่มได้ก็ลดได้อีกครับ ให้กำลังใจนะครับ ขอบคุณมากครับผม

ขอบคุณมากๆครับพี่ณัฐพัชร์ และคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ขอบคุณครับ Dr. Pop ผมเพิ่งไล่อ่านมาพบบทความนี้ซึ่งหากพลาดไปคงจะน่าเสียดายมากเลย

ผมสงสัยว่าทำไมคาร์โบไฮเดรตจำพวกข้าวสีขาวเคี้ยวกับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ย่อยรวมกันเป็นสารพิษครับ 

ไม่ทราบว่าเกิดกระบวนการอะไรและอย่างไรครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท